การค้ามนุษย์ในแอฟริกา ตลาดใหม่ของเจ้าชายแห่งอาบูดาบี

     สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) โดยอาศัยความช่วยเหลือจากพันธมิตรทางทหารของตนในลิเบีย ได้จัดเตรียมกลไกเพื่ออำนวยการแก่บรรดาผู้อพยพชาวแอฟริกันที่หวังจะเดินทางไปยุโรป เพื่อนำไปใช้เป็นแรงงานด้วยค่าตอบแทนที่ต่ำหรือใช้พวกเขาเป็นกำลังรบในสงครามเยเมนและสงครามอื่นๆ ในภูมิภาค

     ความขัดแย้งทางการเมือง สงครามและความไม่สงบในช่วงเวลานี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ของตะวันออกกลาง ซึ่งในแต่ละวันคนจำนวนมากจะเสียชีวิตลงโดยการถูกโจมตีจากกลุ่มก่อการร้าย ด้วยการทิ้งระเบิดหรือและในการสู้รบ แต่กระนั้นก็ตามอาชญากรรมต่างๆ อย่างเช่น การค้ามนุษย์ การขายอวัยวะต่างๆ ของร่างกายมนุษย์หรือเพื่อการทดลองทางชีววิทยาจากร่างกายมนุษย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นน้อยในตะวันออกกลาง นอกจากในระบอบไซออนิสต์เพียงเท่านั้น ที่มีประวัติการณ์ในเรื่องที่ไร้มนุษยธรรมเหล่านี้ แต่ล่าสุดนี้ชาวไซออนิสต์ได้พบหุ้นส่วนใหม่ในอาชญากรรมเหล่านี้แล้ว

     รัฐบาลของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบุรุษหมายเลขหนึ่งของประเทศนี้ คือมุฮัมมัด บินซาอิด มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบีที่ถูกขนานนามว่า "ปีศาจแห่งตะวันออกกลาง" ในช่วงขณะนี้ได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีล่าสุดซึ่งบรรดานักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนมีความวิตกกังวล

     ตามการรายงานจากบางองค์กรวิจัยในเครือของสหประชาชาติ อย่างเช่น PAX นั้นได้เขียนว่า รัฐบาลของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำลังแทรกแซงในวิกฤติต่างๆ ของแอฟริกาเพื่อบรรลุสู่เป้าหมายต่างๆ ของประเทศตน โดยอาศัยการส่งอาวุธไปยังพื้นที่ที่ถูกเรียกว่า"สงครามที่ถูกลืม" จะทำให้วิกฤติด้านมนุษยธรรมทวีความรุนแรงขึ้นในประเทศต่างๆ ในแอฟริกา อย่างเช่น โซมาเลีย เอริเทรีย ซูดานใต้และลิเบีย

     รายงานเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าการดำเนินการของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตรงข้ามกับอนุสัญญาและข้อตกลงต่างๆ ระหว่างประเทศซึ่งอาบูดาบีเองก็ได้เป็นผู้ลงนาม โดยระบุว่าการดำเนินการดังกล่าวของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงระหว่างประเทศ

    นอกจากนี้รายงานต่างๆ ชี้ให้เห็นว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังมีการดำเนินการในด้านการค้ามนุษย์จากแอฟริกาและได้สร้างระบบทาสในลักษณะหนึ่งขึ้น และชาวแอฟริกันที่ยากจนที่หวังจะอพยพ โดยการชี้นำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์พวกเขาจะถูกนำไปใช้เป็นแรงงานและกำลังทหารรับจ้าง หรือจะถูกขายไปยังประเทศต่างๆ โดยอาศัยกองกำลังของคอลิฟะฮ์ ฮัฟเตอร์ (Khalifa Haftar)

     สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ดำเนินการในการจัดระเบียบกลไกเพื่อการใช้ประโยชน์จากคลื่นของคนผิวดำที่ต้องการอพยพผ่านลิเบียไปยังยุโรป ตามรายงานต่างๆ เจ้าหน้าที่ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะนำเอาบางส่วนของคนเหล่านี้ไปยังประเทศของตนและจะใช้พวกเขาในการรบในประเทศเยเมนและสงครามอื่น ๆ ในภูมิภาคด้วยค่าแรงที่ต่ำมาก

     นอกจากนี้ ผู้คนเหล่านี้จำนวนมากจะถูกขายไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย ในฐานะแรงงานจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเมื่อพิจารณาถึงประเด็นดังกล่าว เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้ประเทศเหล่านี้ประสบปัญหาในการจ่ายค่าแรงให้กับคนงานชาวเอเชีย จึงมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นที่จะใช้ประโยชน์จากแรงงานแอฟริกันที่พร้อมจะทำงานด้วยค่าตอบแทนที่ต่ำกว่า

     สิ่งที่ได้กล่าวไปข้างต้นเป็นเพียงส่วนเล็กๆ จากอัตลักษณ์ของระบอบการปกครองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบรรดาผู้นำของประเทศ ในการมีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมที่ไร้มนุษยธรรมในภูมิภาค และแม้ว่าพวกเขาจะพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะแสดงให้เห็นภาพลักษณ์ที่ทันสมัยของตนโดยผ่านอาคารต่างๆ ที่สูงเสียดฟ้าและรถยนต์หรูที่มีราคาแพงลิบลิ่วที่วิ่งอยู่บนท้องถนนสายต่างๆ ของดูไบและอาบูดาบี แต่ในความเป็นจริงแล้วประเทศนี้ซึ่งได้กลายเป็นภาพลวงตาอันเกิดจากเงินขายน้ำมันนั้น เป็นระบอบที่ถอยหลังและเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของภูมิภาคและประชาชาติในโลกนี้


ที่มา : อัลอาลัม

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม