นายพลซอฟาวี : การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านได้ทำลายรูปทรงอำนาจของโลก

     ที่ปรึกษาของผู้นำสูงสุดของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านอธิบายว่า สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านได้กลายเป็นอำนาจอันดับหนึ่งของภูมิภาคเอเชียตะวันตก พร้อมกับกล่าวว่า : "กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติและกองทัพของเราจะต้องแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นทุกปี ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาล และเราจะต้องไม่หลงลืมเล่ห์เหลี่ยมและกลอุบายของเหล่าศัตรู" .

     พลตรีซัยยิดยะห์ยา ซอฟาวี ผู้ช่วยและที่ปรึกษาของผู้นำสูงสุดของอิหร่านได้ชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ระหว่างประเทศและแนวโน้มของความก้าวหน้าจากการปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน ในท่ามกลางนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเจ้าหน้าที่อิมามฮุเซน (อ.) จำนวนสองพันคน โดยกล่าวว่า : ผมขอให้พวกเธอ บรรดานักศึกษาผู้มีศรัทธา (มุอ์มิน) ผู้มีความเฉลียวฉลาดและกล้าหาญทำการศึกษาค้นคว้าและการวิจัยสามประเด็นหลัก คือ เหตุการณ์ต่างๆ แนวโน้มต่างๆ และกลยุทธ์ต่างๆ ในระดับโลก ระดับภูมิภาคและระดับประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อดุลอำนาจในระดับโลกและระดับภูมิภาคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (ในปี 1945) อย่างเช่น การเกิดขึ้นของระบอบการปกครองเถื่อน (อิสราเอล) ผู้ยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ในปี 1948 โดยอังกฤษและสหรัฐอเมริกาซึ่งกลายเป็นปัจจัยของการเกิดสงคราม ความตึงเครียดและความไม่สงบจำนวนมากมายในภูมิภาคเอเชียตะวันตกมานานกว่าเจ็ดสิบปี จนกระทั่งการปฏิวัติอินเดียในปี 1947 และการก่อตัวของเอกราชของปากีสถานในปี 1947 และการปฏิวัติคอมมิวนิสต์จีนในปี 1949 และการปฏิวัติคิวบาในปี 1959 และในที่สุดชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามที่ยิ่งใหญ่ในปี 1979 ภายใต้การนำของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ซึ่งเป็นการปฏิวัติครั้งแรกที่ปฏิเสธระบอบของสองขั้วอำนาจ (สหรัฐอเมริกาและอดีตสหภาพโซเวียต)

      เขากล่าวเสริมว่า : "ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) และท่านผู้นำสูงสุด (อายะตุลลอฮ์คอเมเนอี) ได้สร้างขั้วอำนาจใหม่ที่วางพื้นฐานอยู่บนวัฒนธรรมและอารยธรรมอิสลามใหม่ การลุกฮือและการตื่นตัวทางการเมืองและประชาธิปไตยทางศาสนาซึ่งเป็นสมมติฐานใหม่ในสำนักคิดต่างๆ ทางการเมืองและการสร้างรัฐ ซึ่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านและการปฏิวัติอิสลามในขณะนี้ หลังจากสี่สิบปีที่ผ่านมาบนเส้นทางนี้ ได้จัดตั้งสำนักคิดการต่อต้านแห่งอิสลาม (Islamic resistance) ขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันตก

ทฤษฎีการต่อต้าน (Resistance theory) เป็นทฤษฎีที่น่าเชื่อถือและสามารถขยายตัวได้ทั้งในแง่วิทยาศาสตร์และการปฏิบัติ

     ที่ปรึกษาของผู้นำสูงสุดของผู้นำสูงสุดของอิหร่านชี้ถึงลักษณะเฉพาะต่างๆ ของทฤษฎีการต่อต้านในมิติทางวิทยาศาสตร์และทางปฏิบัติ โดยกล่าวว่า : ทฤษฎีการต่อต้านเป็นทฤษฎีที่น่าเชื่อถือและขยายตัวได้ทั้งในทางวิทยาศาสตร์และทางปฏิบัติ และนั่นก็คือทฤษฎีซึ่งในซีเรีย อิรักและเยเมน ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของมันในการเอาชนะพันธมิตรของอเมริกา, ตะวันตก, ไซออนิสต์และอาหรับ

บางคนในประเทศจะต้องไม่คิดว่าสหรัฐอเมริกาไม่ใช่ศัตรู

     นายพลซอฟาวีได้กล่าวเสริมว่า : "เราและฝ่ายต่อต้านจำเป็นจะต้องรับรู้เป็นอย่างดีถึงกลยุทธ์ของบรรดาศัตรูระดับโลก อย่างเช่น อเมริกา และในระดับภูมิภาค อย่างเช่น ไซออนิสต์และบางประเทศอาหรับ ในสงครามเศรษฐกิจ สงครามตัวแทนและสงครามวัฒนธรรมในภูมิภาคไปจนถึงอนาคตข้างหน้า และจะต้องจำแนกแยกแยะให้ถูกต้องถึงกลยุทธ์ของพวกเขาจากเหตุการณ์และแนวโน้มเหล่านี้ และจะต้องมีฉันทามติและความเข้าใจร่วมกันในระดับสูงสุดของประเทศเพื่อเผชิญหน้ากับพวกเขาในระยะยาว และไม่ใช่ว่าบางคนในประเทศ (ของเรา) จะไม่ถือว่าอเมริกาไม่ใช่ศัตรู

     เขาได้ชี้ถึงระยะเวลาเกือบสามทศวรรษของการเป็นผู้นำของท่านผู้นำสูงสุด (อายะตุลลอฮ์คอเมเนอี) ในการชี้นำการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน โดยกล่าวว่า : ด้วยพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระเจ้าและความสนใจพิเศษของท่านบะกียะตุลลอฮ์ (อิมามมะฮ์ดี) ขณะนี้ประมาณสามสิบปีแล้วที่ท่านผู้นำสูงสุดเป็นผู้ชี้นำการปฏิวัติอิสลามและสามารถพิทักษ์รักษาการปฏิวัติ ประเทศและประชาชนไว้ได้ในสามสงครามที่เกิดขึ้นรอบๆ ประเทศอิหร่าน ได้แก่การรุกรานอิรักของคูเวตในปี 1990 ตามด้วยการโจมตีโดยกองทัพสหรัฐฯ เพื่อขับไล่อิรักออกจากคูเวต (ในปี 1991)  การยึดครองอัฟกานิสถานในปี 2001 และการยึดครองอิรักในปี2003

      ที่ปรึกษาของผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวว่า : เคียงข้างเหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ ความรอบคอบและการวิสัยทัศน์ที่มองการไกลของ ฯพณฯ (อายะตุลลอฮ์คอเมเนอี) ที่เป็นสาเหตุทำให้ไม่มีอันตรายใดๆ จากเหคุการณ์เหล่านี้มาประสบกับประเทศนี้ และทำให้สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านกลายเป็นอำนาจอันดับแรกของภูมิภาค ความจริงก็คือ แนวโน้มต่างๆ ในระดับภูมิภาคและระดับโลกกำลังก้าวไปสู่ชัยชนะของสัจธรรมและผู้ถูกกดขี่เหนือการใช้กำลังบังคับ การกดขี่และความมั่งคั่ง และยุคของชัยชนะของประชาชนเหนือเผด็จการและพลพรรคของมันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

      ที่ปรึกษาของผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าวเพิ่มเติมโดยอ้างอิงถึงการยอมรับของบรรดานักยุทธศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาดของสหรัฐอเมริกาในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า : ขณะนี้นักยุทธศาสตร์ชาวอเมริกันบางคนยอมรับว่า ความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ที่ร้ายแรงที่สุดของสหรัฐอเมริกาคือการบุกอัฟกานิสถานและอิรัก การใช้จ่ายเงินประมาณเจ็ดแสนล้านดอลลาร์และการเสียชีวิตและการบาดเจ็บของทหารกว่า 20,000 นาย ทำลายชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของสหรัฐอเมริกาลง ในขณะที่ศัตรูหลักของสหรัฐอเมริกาคือรัสเซียและจีน ซึ่งในช่วง 17 ปีที่ผ่านมานี้กลายเป็นโอกาสที่ทั้งสองประเทศนี้ได้พัฒนาเศรษฐกิจและอำนาจทางทหารของตน และสหรัฐฯ ได้เปิดโอกาสแก่สองประเทศนี้  นอกจากนี้สหรัฐอเมริกายังได้ทำลายสองศัตรูของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านทางตะวันออกและตะวันตกของอิหร่าน และหลังจากปัญหาล่าสุดของไอซิส สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านสามารถประสบความสำเร็จในการแผ่ขยายอำนาจและอิทธิพลทางการเมือง วัฒนธรรมและความมั่นคงของตนไปถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และพันธมิตรสหรัฐอเมริกา ไซออนิสต์และอาหรับได้ประสบความล้มเหลวที่จะเอาชนะรัฐบาลซีเรียและอิรัก

การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านได้ทำลายรูปทรงอำนาจของโลกลง

     ที่ปรึกษาของท่านผู้นำสูงสุดของของการปฏิวัติอิสลามชี้แนวโน้มของการเสื่อมอำนาจที่สูงขึ้นของสหรัฐอเมริกา โดยอ้างถึงหนังสือเล่มสุดท้ายของซบิกนีเยฟ เบรสซินสกี (Zbigniew Brzezinski) โดยกล่าวว่า : "ผมมั่นใจว่าแนวโน้มเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าอำนาจของอเมริกากำลังเสื่อมลงและรัฐบาลอเมริกันรู้ดีว่าพวกเขาได้อ่อนแอลงแล้วและพวกเขาไม่ใช่มหาอำนาจของโลกอีกต่อไปแล้ว หากพวกเขาสามารถล้มล้างรัฐบาลของบัชชาร์ อัลอะซัด ลงได้พวกเขาต้องการที่จะครองความเป็นเจ้าโลก แต่ทว่าโลกกำลังเคลื่อนไปสู่ความเป็นหลายขั้วอำนาจและความหลากหลายทางการเมือง และขั้วอำนาจหนึ่งคือจีน รัสเซียและอินเดียได้ก่อรูปขึ้นแล้ว และอีกขั้วอำนาจหนึ่งที่ชาวยุโรปและชาวอเมริกันไม่ต้องการเอ่ยถึง นั่นคือขั้วอำนาจใหม่ของโลกอิสลามซึ่งกำลังก่อตัวขึ้น ขั้วอำนาจใหม่ของโลกอิสลามนี้มีการปฏิวัติอิสลาม (แห่งอิหร่าน) เป็นศูนย์กลางที่กำลังจะทำให้ประเทศมุสลิมทั้งหมดร่วมทางเข้าสู่การสร้างอารยธรรมใหม่ภายใต้ร่มธงของอัลกุรอานและอิสลาม เพื่อจะกำหนดชะตากรรมของพวกเขาเองและการปฏิวัติอิสลามของอิหร่านได้ทำลายรูปทรงของอำนาจของโลกลงแล้ว ศูนย์กลางในการกำหนดแนวทางและการสร้างความเข้าใจในปัจจุบันในโลกอิสลามคือ การปฏิวัติอิสลามและท่านผู้นำ (อายะตุลลอฮ์คอเมเนอี) อันเป็นที่รักของเรา

ทรัมป์กำลังพยายามทำให้ความมั่นคงในโลกธุรกิจ / ยุคของมหาอำนาจและการครอบงำเหนือรัฐบาลและประเทศต่างๆ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว

     ที่ปรึกษาของผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามชี้ถึงยุทธศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาในภูมิภาคและในโลก โดยกล่าวว่า : นายทรัมป์กำลังพยายามทำให้ความมั่นคงในภูมิภาคและในโลกเป็นธุรกิจ และเขาได้ประกาศไปยังบางรัฐบาลอาหรับในภูมิภาคว่า หากพวกท่านต้องการให้สหรัฐฯ ปรากฏตัวอยู่ในภูมิภาคนี้ และรักษาความมั่นคงให้แก่พวกท่านแล้ว พวกท่านก็จำเป็นจะต้องจ่ายค่าใช้จ่าย กลยุทธ์ทั้งหมดของทรัมป์ในภูมิภาคและในโลกนั้นสอดคล้องกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯ และต่อต้านความมั่นคงและความเป็นอิสระทางการเมืองของประเทศและรัฐบาลทั้งหลาย ปัญหาของเวเนซุเอลาและการแทรกแซงของสหรัฐฯ ในชะตากรรมของประชาชนชาวเวเนซุเอลาซึ่งขัดกับกฎบัตรและกฎหมายระหว่างประเทศทั้งมวลนั้นนับเป็นส่วนหนึ่งจากประเด็นเหล่านี้ ในขณะที่นายทรัมป์เองก็รู้ดีว่ายุคของมหาอำนาจและการครอบงำรัฐบาลและประเทศต่างๆ นั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว

     อาจารย์วิชาภูมิศาสตร์การเมืองผู้นี้ได้ให้คำแนะนำแก่เยาวชนและนักศึกษาต่อไปอีกว่า : ผมขอให้นักศึกษาที่รักของผมอย่างน้อยที่สุดต้องศึกษาประวัติศาสตร์สองร้อยปีของอิหร่านและภูมิภาคเอเชียตะวันตกและจงคิดสร้างอนาคตด้วยการศึกษาเกี่ยวกับอนาคต จงอ่านคำแถลงยุทธศาสตร์ของ ฯพณฯ (ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม) หลายๆ รอบ (ที่ท่านได้ออก) หลังจากการเดินขบวนเรือนล้านครั้งใหญ่ จะต้องพัฒนาพันธกิจของมหาวิทยาลัย นักศึกษา อาจารย์และกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติจากคำแถลงนี้และจะต้องคิดไปถึงห้าสิบปีข้างหน้า แบบอย่างของสาธารณรัฐอิสลามที่ก้าวหน้าและการสร้างวัฒนธรรมและอารยธรรมอิสลามใหม่และเปลี่ยนมันให้เป็นแผนปฏิบัติการในระดับของพวกท่านเอง

กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติและกองทัพจะต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้นทุกปีด้วยการสนับสนุนของรัฐบาล

     นายพลซอฟาวีถือว่าการที่อิหร่านได้กลายเป็นอำนาจอันดับแรกของภูมิภาคนั้น เป็นผลมาจากความสนใจของสิบสี่มะอ์ซูม (ผู้บริสุทธิ์) และภายใต้การเป็นผู้นำของท่านอิมามคอเมเนนี และกล่าวว่า : "ตอนนี้อิหร่านกลายเป็นอำนาจแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันตกและมีผลกระทบต่อดุลอำนาจระดับโลก และสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านแข็งแกร่งถึงขั้นที่ไม่มีอำนาจทางทหารข้ามภูมิภาคใดๆ สามารถที่จะทำอันตรายต่ออิหร่านได้ แต่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติและกองทัพของเราจำเป็นต้องแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นทุกปี ด้วยการสนับสนุนของรัฐบาลและเราจะต้องไม่หลงลืมจากเล่ห์เหลี่ยมและกลอุบายของเหล่าศัตรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งไซออนิสต์และบางรัฐบาลที่อ่อนแอแต่มีความทะเยอทะยานทางตอนใต้ของอ่าวเปอร์เซียซึ่งถูกสอนความคิดที่ผิดๆ เกี่ยวกับอิหร่านต่อพวกเขา

    นายพลซอฟะวีได้กล่าวในตอนท้ายว่า : "อิหร่านไม่เคยเป็นภัยคุกคามต่อประเทศมุสลิมและหากแม้นว่ารัฐบาลที่ไม่ใช่มุสลิมจะโจมตีประเทศเหล่านี้ อิหร่านที่ทรงอำนาจและผู้นำที่แข็งแกร่งของเราจะให้การสนับสนุนประเทศเหล่านั้นภายใต้คำสอนของอิสลามและอัลกุรอาน


ที่มา : สำนักข่าวฟาร์ส

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม