รอยเท้าซีไอเออยู่ในเหตุการณ์การจลาจลในอิหร่าน/ซาอุฯ และอิสราเอลได้เข้าสู่การดำเนินการ

      "ซาอุดิอาระเบีย อิสราเอลและอเมริกามีความพยายามอย่างมากที่จะประสานความร่วมมือเพื่อที่จะจัดการกับอิหร่าน และการแกะลายนิ้วมือของบรรดาศัตรูอิหร่านในเหตุการณ์ความไม่สงบล่าสุดนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องยากนัก  ... "

      เว็บไซต์ "แอนตี้วอร์" (antiwar) ได้ตีพิมพ์รายงานหนึ่งที่สะท้อนคำพูดของ "รอน พอล" นักเขียนและนักการเมืองชาวอเมริกัน เกี่ยวกับบทบาทของสหรัฐฯ ซาอุดิอารเบียและระบอบไซออนิสต์ ในความวุ่นวายล่าสุดของอิหร่าน

     "รอน พอล" เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกาหลายสมัย และนอกจากนี้นับจากปี 1988 ยังเคยเข้าร่วมชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ มาแล้วสามสมัย

      "รอน พอล" ได้กล่าวในรายการวิเคราะห์ของตน ภายใต้หัวข้อ "รายงานอิสระ" ว่า :

      เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา "โดนัลด์ ทรัมป์" และเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ) ได้พูดคุยเกี่ยวกับประเด็นแผนการที่พวกเขาจะดำเนินการ ซึ่งพวกเขาได้พูดในลักษณะที่ว่า จะมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นกับอิหร่านเร็วๆ นี้

      ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะมีแผนโจมตีอิหร่านหรือดำเนินการใดๆ ในลักษณะที่คล้ายกัน แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการของพวกเขาค่อนข้างเป็นความลับ

      ความจริงก็คือว่า นับจากช่วงเวลานั้นมีเหตุการณ์มากมายได้เกิดขึ้น การชุมนุมประท้วงต่างๆ ในอิหร่านเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และขยายวงออกไปอย่างกว้างขวาง บางคนพูดถึงปัญหาทางเศรษฐกิจ บางคนพูดถึงปัญหาเกี่ยวกับอำนาจการปกครอง และอีกบางส่วนก็บอกว่า เป็นไปได้ว่ามีรัฐบาลต่างชาติอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านี้ แต่ในท่ามกลางเหตุการณ์นี้ชาวอิหร่านหลายคนได้สูญเสียชีวิต

      นับจากช่วงเริ่มต้นของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี (ของสหรัฐฯ) ทรัมป์มีแนวทางที่รุนแรงเกี่ยวกับอิหร่าน และได้ประกาศว่า เขาถือว่าพวกเขา (ชาวอิหร่าน) เป็นศัตรูของเราและเป็นพวกชั่วร้าย เขาไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงนิวเคลียร์และพยายามที่จะขจัดอำนาจทางด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน แม้ว่าการกระทำเช่นนี้จะขัดแย้งกับสิ่งที่บรรดาผู้ตรวจการของสหประชาชาติเชื่อมั่นก็ตาม

      ดังนั้นเราจึงทราบดีถึงจุดยืนของทรัมป์ และผมไม่คิดว่าทรัมป์จะเปลี่ยนแปลงแนวทางของตน เนื่องจากการเริ่มต้นของการประท้วงต่างๆ ในอิหร่านนั้น ทรัมป์ได้แสดงการสนับสนุนการก่อจลาจลอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับที่อิสราเอลได้กระทำ และแน่นอนซาอุดิอาระเบียก็สนับสนุนความไม่สงบในอิหร่านอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน เนื่องจากสิ่งนี้คือเป้าหมายของพวกเขา

      แม้ว่าสิ่งนี้อาจนำไปสู่การขยายตัวของความรุนแรงต่างๆ ในภูมิภาค กระนั้นก็ตามสหรัฐอเมริกาได้กล่าวว่า ในกรณีที่ความรุนแรงขยายวงกว้าง เราจะควบคุมสถานการณ์เอง โดยใช้เวลาอันสั้นและจะไม่เป็นประเด็นใหญ่ ... แต่คุณลองมองไปที่อัฟกานิสถาน หลังจาก 16 ปีของการปรากฏตัวของสหรัฐอเมริกา ไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกิดขึ้นและดูเหมือนว่าเราได้กลับไปยังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง

"รอน พอล" นักเขียนและนักการเมืองชาวอเมริกัน เกี่ยวกับบทบาทของสหรัฐฯ ซาอุดิอารเบียและระบอบไซออนิสต์ ในความวุ่นวายล่าสุดของอิหร่าน

     ผู้ดำเนินรายการ : เห็นได้อย่างชัดเจนว่า รอยเท้าของหน่วยข่าวกรองกลางอเมริกา (ซีไอเอ) และรัฐบาลสหรัฐอเมริกาหรือทั้งสองของพวกเขา ปรากฏอยู่ในการประท้วงต่างๆ ของอิหร่าน แน่นอนไม่อาจปฏิเสธได้ว่า บางส่วนของประชาชนอิหร่านก็ไม่พอใจกับราคาสินค้าต่างๆ ที่สูงลิ่ว แต่ในประเทศของเราเองก็มีความกังวลและความไม่พอใจเกี่ยวกับราคาสินค้าที่สูง แต่ก็ไม่ถูกต้องนักที่เราจะบอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคาไข่ในอิหร่าน ทำให้ประชาชนรับตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง โดยมีการประสานงานกันอย่างเบ็ดเสร็จในหลาย ๆ เมือง ได้ตัดสินใจที่จะโค่นระบอบการปกครองอย่างฉับพลัน นั่นคือสิ่งเดียวกันกับที่ได้ถูกเปิดเผยกับเราเกี่ยวกับกรณีของซีเรีย ที่กล่าวว่าราคาขนมปังที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ประชาชนทั้งหมดออกไปสู่ท้องถนนเพื่อโค่นล้มรัฐบาล

      ผมคิดว่าการยอมรับประเด็นนี้จะเป็นเรื่องยากสักนิดหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมและวิธีการของทรัมป์ที่มีต่ออิหร่าน อย่างน้อยที่สุดในปี 2009 (วิกฤต 88) เมื่อโอบามาพยายามที่จะล้มล้างรัฐบาลอิหร่าน ได้ดำเนินการอย่างรัดกุมและระมัดระวัง แต่ทรัมป์ได้ประกาศจุดยืนของตนด้วยเสียงดังอย่างมากว่า "ประชาชนจงกระจายกันออกสู่ถนนสายต่างๆ นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่พวกท่านจะล้มล้างระบอบการปกครอง เราจะอยู่กับพวกท่าน"

     ในขณะนี้ ด้านหนึ่งเรามีหัวหน้าของซีไอเอ ซึ่งมีท่าทีที่ต่อต้านอิหร่านอย่างสุดขั่ว และอีกด้านหนึ่งประธานาธิบดีทรัมป์เองก็ประกาศแสดงความเกลียดชังต่ออิหร่าน ผมคิดว่าถ้าหากเรานำชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์เหล่านี้มาวางเรียงต่อกัน เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ในครั้งนี้ก็เช่นกัน มีความพยายามต่างๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ในสนามเพื่อการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในประเทศอื่นๆ

     รอน พอล : แน่นอนเราไม่สามารถตำหนิพวกเขาได้ เนื่องจากแนวทางของพวกเขาในนโยบายต่างประเทศเป็นแบบนี้ พวกเขาเป็นนักแทรกแซง (Interventionist) พวกเขาเป็นพวกอนุรักษ์นิยมใหม่ (Neoconservatism) และพวกเขาเชื่อว่าเรามีความรับผิดชอบ ด้วยเหตุผลต่างๆ บางครั้งเนื่องจากอุตสาหกรรมที่ซับซ้อนทางด้านการทหารและการค้าอาวุธหลาย คนคิดว่าประเทศสหรัฐอเมริกามีหน้าที่รับผิดชอบในการขยายความดีและความเป็นพิเศษของตนเองออกไปทั่วทุกมุมโลก! และนั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมปัจจุบันเราจึงมีการปรากฏตัวทางทหารใน 150 ประเทศทั่วโลกโดยประมาณ กล่าวคือบุคลากรทางทหารของเราอยู่ในประเทศเหล่านี้ นี่เป็นสิ่งที่ประชาชนของเราไม่รู้ กระทั่งว่าจำเป็นต้องบอกว่า แม้แต่บางคนในสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ก็ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ความจริงก็คือ งบประมาณทางทหารของเรากำลังเพิ่มขึ้นทุกปี

     ผู้ดำเนินรายการ : การแสดงออกของสื่อต่างๆ ของเรา เกี่ยวกับข่าวการประท้วงของอิหร่านก็น่าสนใจ พวกเขาได้รายงานข่าวประเด็นนี้ไว้อย่างหวานชื่นและมีความสุขมาก บางทีอาจจะทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดของมนุษย์สูงขึ้นได้!

     ท่านได้ชี้ถึงการพูดคุยกันระหว่างทิลเลอร์สันกับทรัมป์ และระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กับอิสราเอลก็มีการพบปะกันในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามการรายงานของหนังสือพิมพ์ "ฮาอาเร็ตซ์" ของอิสราเอลได้รายงานว่า ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอลได้พบปะกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลของสหรัฐอเมริกา ได้ปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับกลยุทธ์ใหม่ในการจัดการกับอิหร่าน รายละเอียดเกี่ยวกับการประชุมนี้ไม่ได้ถูกเปิดเผย แต่หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ท่านก็ได้เห็นแล้วว่าเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบบนถนนต่างๆ ของอิหร่าน

     ซาอุดิอาระเบีย อิสราเอลและอเมริกามีความพยายามต่างๆ ที่จะประสานความร่วมมือเพื่อที่จะจัดการกับอิหร่าน และการมองเห็นลายนิ้วมือของบรรดาศัตรูอิหร่านในเหตุการณ์ความไม่สงบล่าสุดนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องยากนัก 

     รอน พอล : เป็นที่น่าสนใจที่ว่า สหรัฐอเมริกา อิสราเอลและซาอุดีอาระเบียในการแสดงออกต่อเหตุการณ์จลาจลในอิหร่านเป็นเหมือนเชียร์ลีดเดอร์ในสนามกีฬา

     ผู้ดำเนินรายการ : อีกประเด็นหนึ่งในกรณีเกี่ยวกับการประท้วงของอิหร่าน ก็คือรัฐบาลสหรัฐฯ เรียกการประท้วงของอิหร่านว่า เป็นการประท้วงอย่างสันติ อย่างไรก็ตามไม่ว่าการกระทำการใดๆ ก็ตามที่ผู้ประท้วงจะทำ รัฐบาลสหรัฐฯ ก็จะประกาศว่าการประท้วงนี้เป็นไปอย่างสงบ การโจมตีฐานตำรวจ หลายคนถูกสังหารโดยผู้ประท้วง การบุกเข้าสู่ฐานทหารและความพยายามที่จะเข้ายึดอาวุธต่างๆ การเผารถตำรวจและอื่น ๆ ประเด็นที่น่าสนใจก็คือว่า หากในสหรัฐอเมริกา ถ้ามีคนใดกระทำในสิ่งที่เล็กน้อยกว่านี้มาก เขาก็จะถูกฆ่าตาย แค่คุณยืนเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เพียงพอแล้วที่คุณจะถูกฆ่าตาย

     เป็นที่ชัดเจนว่าวิธีการเช่นนี้ โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะเกิดขึ้นโดยมีเป้าหมายต่างๆ : ใช้เป็นข้ออ้างเพื่อที่จะกดดันรัฐบาลอิหร่าน, กำหนดมาตรการคว่ำบาตรกับอิหร่านเพิ่มขึ้น, ใช้เป็นข้ออ้างในการยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์โดยทรัมป์, กดดันความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและรัสเซีย อย่างไรก็ดีการประท้วงเหล่านี้ถือเป็นโอกาสทองสำหรับทรัมป์ สำหรับนโยบายต่อต้านอิหร่านของเขา

     รอน พอล : เพื่อที่จะเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นถึงการแทรกแซงของซีไอเอในการประท้วงล่าสุดในอิหร่าน เพียงพอแล้วที่เราจะพิจารณาดูคำพูดของทรัมป์เกี่ยวกับอิหร่าน อย่างไรก็ดีประวัติศาสตร์ก็มีเรื่องราวมากมายที่จะยืนยันในเรื่องนี้ได้ หน่วยซีไอเอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรัฐประหารในอิหร่าน เมื่อปี 1935 แบบเผด็จการที่กดขี่และไร้ความปราณีจนได้ขึ้นสู่อำนาจในอิหร่าน สิ่งที่ตลกก็คือว่า ตอนนี้ลูกชายของอดีตกษัตริย์ชาฮ์แห่งอิหร่านก็ประกาศว่า เขาสามารถที่จะมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูบูรณะอิหร่าน! การขุดเขาออกมาและเปิดตัวเจ้าชายผู้นี้ก็เป็นการดำเนินการที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก

     ผู้ดำเนินรายการ : เขาจะอยู่ใกล้ชิดกับซีไอเอและพวกอนุรักษ์นิยมใหม่ของสหรัฐฯตลอดเวลา แน่นอนยิ่งว่าเขาปรารถนาอย่างยิ่งที่จะกลับสู่อิหร่านและทวงคืนบัลลังก์ของบิดาของเขา

     รอน พอล : ผมไม่คิดว่าสหรัฐอเมริกาจะมีความรับผิดชอบทางกฎหมายที่จะเข้าไปแทรกแซงในปัญหาของอิหร่าน แต่มีเหตุผลต่างๆ มากมายที่ชี้ถึงสิ่งที่ตรงข้ามกับการดำเนินการเหล่านี้ และรัฐธรรมนูญของเราก็ไม่สนับสนุนเรื่องนี้ แต่ใครเล่าที่ปรารถนาจะได้ยินมัน เราจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ จากการดำเนินการเช่นนี้ และเราจะเพิ่มปัญหาเสียมากกว่า

     ท้ายที่สุดจำเป็นต้องกล่าวว่า ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ประชาชนหลายแสนคนได้ถูกฆ่าตายโดยอาวุธของสหรัฐฯ และถ้าในกรณีอย่างเช่นสถานการณ์เกาหลีเหนือได้หลุดออกจากการควบคุม สามารถจะนำไปสู่การใช้ระเบิดปรมาณูและการถูกฆ่าของผู้คนมากขึ้น ดังนั้นทางที่ดีกว่า เราควรจะทำงานของเราเอง และยุติการแทรกแซงในกิจการของประเทศอื่นๆ

วึดีโอ : 



ที่มา : ญอมนิวส์

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม