รัฐบาลของทรัมป์กับความล้มเหลวเรื้อรัง

มุฮัมมัด ญะวาด ซารีฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านได้กล่าวในการแถลงข่าววันนี้ว่า : วันนี้สหรัฐอเมริกาอยู่อย่างโดดเดี่ยวในโลก เนื่องจากการเหยียบย่ำกฎหมายระหว่างประเทศจึงไม่สามารถที่จะจัดตั้งพันธมิตรใดๆ ได้...

บทวิเคราะห์ :

   "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเชื่อมั่นว่า อำนาจทางทหาร เศรษฐกิจและการเมืองของสหรัฐฯ ได้ทำให้ประเทศนี้มีอำนาจเหนือกฎหมาย ซึ่งด้วยเหตุนี้เขาสามารถที่จะทำให้ผู้อื่นยอมรับ "ความจริง" ในเรื่องนี้ด้วยการเหยียดหยามและการบีบบังคับ

    แต่ภาพหลอนของเขาได้ถูกเปิดเผยเร็วกว่าคาดหมาย โดยเฉพาะในบริบทของกลยุทธ์ "การกดดันขั้นสูงสุด" ต่ออิหร่าน

    ทรัมป์ได้ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ด้วยเหตุผลต่างๆ ที่แม้แต่คนอเมริกันเองก็ไม่อาจยอมรับได้ เขาไม่สามารถโน้มน้าวแม้แต่พันธมิตรตะวันตกที่อยู่ใกล้ชิดที่สุดของตนถอนตัวออกจากแผนปฏิบัติการเบ็ดเสร็จร่วม (Joint Comprehensive Plan of Action หรือ JCPOA) ได้ ทว่าในทางตรงกันข้าม รัฐบาลตะวันตกทั้งหมดได้ประณามพฤติกรรมของเขาที่มีต่อแผนปฏิบัติการเบ็ดเสร็จร่วม

    แม้ว่าอิหร่านยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์อย่างเคร่งครัดตามหลักฐานยืนยันจากรายงาน 15 ฉบับของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) แต่ทรัมป์ก็ได้หวนกลับมาดำเนินการคว่ำบาตรทั้งหมดอีกครั้งต่ออิหร่าน อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถโน้มน้าวโลกให้ยอมรับนโยบายการคว่ำบาตรนี้ได้

    หลังจากโลกปฏิเสธที่จะร่วมมือในนโยบายคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ทรัมป์จึงได้เริ่มข่มขู่ประเทศอื่น ๆ เกี่ยวกับผลที่จะติดตามมาของทุกความร่วมมือกับอิหร่าน โดยประกาศว่า ประเทศใดก็ตามแม้แต่พันธมิตรของสหรัฐฯ ที่พยายามหาทางร่วมมือและทำธุรกรรมกับอิหร่านจะถูกลงโทษ การดำเนินการเช่นนี้ยิ่งแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของความเป็นอันธพานและความเป็นเผด็จการของรัฐบาลอเมริกันมากขึ้นกว่าเดิม

   นอกจากนี้สหรัฐอเมริกายังประสบกับความล้มเหลวในการจัดตั้งพันธมิตรเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับเส้นทางการเดินเรือในอ่าวเปอร์เซีย เนื่องจากไม่มีประเทศใดรวมถึงบรรดาพันธมิตรของตนเข้าร่วมด้วย

    ความล้มเหลวต่างๆ ที่ต่อเนื่องของทรัมป์และการไร้ความสามารถของรัฐบาลของเขาจากการจัดตั้งพันธมิตรระหว่างประเทศนั้นเกิดจากปากที่ไม่ซื่อตรงของเขาต่อกฎหมายระหว่างประเทศและเนื่องจากนโยบายต่างๆ ที่มีความรับผิดชอบและชาญฉลาดของอิหร่านที่มีต่อประชาคมระหว่างประเทศ


ที่มา : อัล อาลัม

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม