หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ของเยอรมันอ้างอิงถึงคำพูดของทรัมป์ที่กล่าวว่า แม้ว่าจะมีการฆาตกรรม นายญะมาล คาช็อกกี แต่สหรัฐอเมริกาก็ยังคงเป็นพันธมิตรที่มั่นคงสำหรับซาอุดิอาระเบีย พร้อมกับเขียนว่า : การค้าและเงินดอลลาร์สำหรัทรัมป์มีความสำคัญมากกว่าสิทธิมนุษยชนและชีวิตของมนุษย์
สำนักข่าวตัสนีมรายงานว่า แดร์ ชปีเกิ่ล (Der Spiegel) ได้ชี้ถึงคำพูดของนาย "โดนัลด์ ทรัมป์" เมื่อวันอังคาร (20 พฤศจิกายน) เกี่ยวกับคดีฆาตกรรมนาย ญะมาล คาช็อกกี" นักหนังสือพิมพ์ที่วิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์ซะอูด ในสถานกงสุลซาอุดิอาระเบียประจำกรุงอิสตัลบูลประเทศตุรกี พร้อมกับได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อความไม่สนใจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อประเด็นการมีส่วนร่วมของมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียในคดีนี้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารว่า : "เป็นไปได้มากที่การฆาตกรรมนายญะมาล คาช็อกกี นักเขียนผู้วิพากษ์วิจารณ์ชาวซาอุดิอาระเบียนั้น ได้เกิดขึ้นโดยการรู้เห็นของมุฮัมมัด บินซัลมาน มงกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย"
ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า : หลังจากการตรวจสอบอย่างเป็นอิสระเราได้รับการรายงานรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฆาตกรรม นายญะมาล คาช็อกกี
นอกจากนี้เขายังเน้นย้ำอีกว่า : สหรัฐฯ มีความตั้งใจที่จะยังคงเป็นพันธมิตรของซาอุดีอาระเบียต่อไปเพื่อที่จะสนองตอบผลประโยชน์ของสหรัฐฯ อิสราเอลและบรรดาพันธมิตรในภูมิภาค
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า : "สภาคองเกรสมีอิสระเกี่ยวกับวิธีการการปฏิบัติต่อซาอุดิอาระเบีย แต่ผมจะพิจารณาเฉพาะแนวคิดต่างๆ ที่สอดคล้องกับความมั่นคงของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
ทรัมป์กล่าวว่า : แม้ว่าบินซัลมานจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การฆาตกรรมนายคาช็อกกีก็ตาม สหรัฐอเมริกาก็จะยังคงเป็นพันธมิตรที่มั่นคงสำหรับซาอุดิอาระเบีย
คาช็อกกีผู้ซึ่งหลังจากออกจากซาอุดีอาระเบียได้ไปพำนักอยู่ในสหรัฐอเมริกาและได้เป็นคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ เขาได้ถูกฆาตกรรมเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่สถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในอิสตันบูล รัฐบาลของราชวงศ์ซะอูดหลังจากที่ได้ปฏิเสธเรื่องราวอย่างสมบูรณ์ในขั้นต้น ต่อมาก็ยอมสารภาพว่าได้ทำการฆาตกรรมเขา แต่ก็ได้เสนอรายงานที่หลากหลายซึ่งมีความแตกต่างและขัดแย้งกันเกี่ยวกับการฆาตกรรมนี้
แดร์ ชปีเกิ่ล ได้เขียนไว้ในเรื่องนี้ว่า : ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะยังคงมุ่งมั่นอยู่กับ "มุฮัมมัด บินซัลมาน" มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย แม้จะมีคดีฆาตกรรมนายญะมาล คาช็อกกีก็ตาม จากแถลงการณ์ดังกล่าว เขาได้เปิดเผยถึงแรงจูงใจต่างๆ ที่แท้จริงในตัวเขาแล้ว
หนังสือพิมพ์ "แดร์ ชปีเกิ่ล" ได้อ้างถึงคำแถลงของโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับคดีคาช็อกกีและการปกป้องมุฮัมมัด บินซัลมาน โดยเขียนว่า : "การแสดงออกถึงความภักดีและความมุ่งมั่นที่มีต่อมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรที่ออกมาจากทรัมป์ และในขณะเดียวกันนี้ ทรัมป์ยังได้แยกตัวเองออกจากบรรดาผู้วิพากษ์วิจารณ์จากยุโรปและแม้กระทั่งจากพรรครีพับลิกันเองอย่างหน้าด้านๆ โดยไม่อายใครมากขึ้นทุกวันเกี่ยวกับกรณีการฆาตกรรมญะมาล คาช็อกกี
หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ฉบับนี้กล่าวต่อไปว่า : "แน่นอนว่าลำดับความสำคัญต่างๆ ที่น่าขบขันและตรรกของทรัมป์เป็นที่ชัดเจนยิ่ง การค้าและเงินดอลลาร์สำหรับทรัมป์นั้นมีความสำคัญมากกว่าสิทธิมนุษยชนและชีวิตมนุษย์ ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงเปิดไฟเขียวให้กับเผด็จการและทรราชทั่วโลก พวกเขารู้ดีว่าตราบที่ (ในเวทีการค้า) พวกเขายังมีบางสิ่งบางอย่างที่มากพอที่จะเสนอให้ทรัมป์แล้ว เขาก็จะทนต่อท่าทีที่รุนแรงและกร้าวร้าวต่อพวกเขา
แดร์ ชปีเกิ่ล ได้เขียนต่อไปอีกว่า : "แน่นอนบรรดารัฐบาลสหรัฐฯ ในอดีตที่ผ่านมาแม้จะไม่ให้ความสำคัญอย่างจริงจังในเรื่องสิทธิมนุษยชนก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ยังคงรักษาภาพลักษณ์ภายนอกของตนในเรื่องนี้ไว้ แต่ทรัมป์ได้เปิดเผยให้เห็นถึงข้อตกลงที่ป่าเถื่อนที่เกิดขึ้นเบื้องหลังและด้วยเหตุนี้เองคดีฆาตกรรมคาช็อกกี จึงได้แสดงให้เห็นมิติใหม่ๆ ในแนวทางของสหรัฐอเมริกา
ทรัมป์ไม่เคยคิดที่จะซ่อนการคิดคำนวณใดๆ ของเขาในทิศทางนี้
ผู้เขียนบทความนี้ได้อ้างถึงคำพูดของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ที่บอกว่าไม่มีใครในรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาที่จะปฏิเสธกรณีการมีส่วนร่วมของมุฮัมมัด บินซัลมาน ในคดีฆาตกรรมคาช็อกกี ดังที่ได้มีการชี้ถึงในรายงานล่าสุดของซีไอเอนอกจากทรัมป์ เขาได้ตั้งสงสัยว่าทำไม? และในคำตอบเขาได้เขียนว่า : มันเป็นเรื่องง่ายมาก เหตุผลก็คืออำนาจ, เงินและน้ำมัน
ที่มา : สำนักข่าวตัสนีม
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม