ค่ำคืนที่ในตลอดทั้งปีจะไม่พบค่ำคืนใดที่มีความดีงามและประเสริฐยิ่งไปกว่าค่ำคืนแห่ง "ลัยละตุลก็อดริ์" การอิบาดะฮ์ (การนมัสการและการเคารพภักดี) ต่อพระผู้เป็นเจ้าในค่ำคืนนี้ประเสริฐกว่าและให้ภาคผลมากกว่าการอิบาดะฮ์หนึ่งพันเดือนในช่วงวันอื่นๆ และตักดีร๊อต (กำหนดการ) ต่างๆ อย่างเช่น เรื่องของอายุขัย ความป่วยไข้ ความมีสุขภาพดี ริษกี บะลาอ์ (การทดสอบและความทุกข์ยาก) และอื่นๆ ในชีวิตของปวงบ่าวของพระผู้เป็นเจ้าในตลอดช่วงหนึ่งปีข้างหน้าจะถูกกำหนดในค่ำคืนนี้

การปฏิบัติ (อะมั้ล) ต่างๆ ที่ได้ถูกกำชับแนะนำให้ปฏิบัติในค่ำคืนเหล่านี้

การอาบน้ำฆุซุล : ท่านอัลลามะฮ์มัจญ์ลิซี ได้กล่าวว่า สิ่งที่ดีกว่านั้นควรจะกระทำในช่วงเวลาเดียวกันกับดวงอาทิตย์ตกดิน

การนมาซมุสตะฮับลัยละตุลก็อดริ์ 2 ร่อกะอัต : ในทุกรอกะอัตหลังจากอ่านฟาติหะฮ์และให้อ่านบท (ซูเราะฮ์) อัตเตาฮีด 7 ครั้ง และเมื่อให้สลามแล้วให้กล่าว "อิสตฆฟาร" (ขออภัยโทษ) 70 ครั้ง

การไม่นอนหลับในค่ำคืนนี้เพื่อทำอิบาดะฮ์ มีรายงานว่า : ใครก็ตามที่เขาไม่นอนหลับเพื่อทำอิบาดะฮ์ในค่ำคืนนี้ ความผิดบาปทั้งมวลของเขาจะได้รับการอภัยโทษ แม้จะมีจำนวนเท่าดาวบนท้องฟ้าและมีน้ำหนักเท่าภูเขาทั้งหลายก็ตาม

การทูนคัมภีร์อัลกุรอานบนศีรษะพร้อมด้วยดุอาอ์

การซิยาเราะฮ์ท่านอิมามฮุเซน (อ.)

การอ่านดุอาอ์ "เญาชัน กะบีร"

การทำนมาซ 100 ร่อกะอัตในค่ำคืนนี้ (1)

     และอะมั้ล (การกระทำ) อื่นๆ ของค่ำคืนนี้ก็มีรายงานไว้ เพื่อที่จะรับรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ สามารถค้นหาดูได้ในหนังสือดุอาอ์ต่างๆ

อะมั้ล (การกระทำ) ที่ดีที่สุดในลัยละตุลก็อดริ์

     อัลลามะฮ์มัจญ์ลิซี (ร.ฮ.) กล่าวว่า : อะมั้ล (การกระทำ) ที่ดีที่สุดในลัยละตุลก็อดดริ์ คือการขออภัยโทษ การวิงวอนขอสำหรับความต้องการต่างๆ ทางโลกนี้และปรโลกทั้งแก่ตัวเองและแก่ผู้อื่น การขออภัยโทษและความเมตตาสำหรับพ่อแม่และเครือญาติทั้งที่มีชีวิตอยู่และที่จากโลกนี้ไปแล้ว และการซอละวาต (ประสิทธิ์ประสาทพร) ให้แก่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) และวงศ์วานของท่านให้มากๆ (2)

     และดุอาอ์ที่ดีที่สุดคือดุอาอ์สำหรับตัวเองและคนอื่นๆ ตามริวายะฮ์ (คำรายงาน) จากท่านศาสดา (ซ็อลฯ) และการวิงวอนขอพรเพื่อการคลี่คลายความทุกข์ยาก (ตะอ์ญีลฟะรอญะฮ์) และการรีบเร่งในการปรากฏกาย (ซุฮูร) ของท่านอิมามซะมาน (อ.)

     อะมั้ล (การกระทำ) ที่ดียิ่งอีกประการหนึ่งของค่ำคืนลัยละตุลก็อดริ์ การศึกษาและการพูดคุยในเรื่องความรู้ (มุซากะร่อตุ้ลอิลม์) เพื่อเพิ่มพูนและยกระดับความเข้าใจและความรู้เกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าและศาสนา เชคซอดูก (ร.ฮ.) กล่าวว่า :

مَن أحیا هاتَینِ اللَّیلَتَینِ بِمُذاکَرَةِ العِلمِ فَهُوَ أفضلُ

"ใครก็ตามที่ไม่นอนหลับในค่ำคืนทั้งสองนี้ (หมายถึงค่ำ 21 และค่ำ 23) เพื่อการศึกษาพูดคุยในเรื่องของความรู้นั้น ย่อมดีงามกว่า" (3)

     ดังนั้นการศึกษาและการพูดคุยทางด้านวิชาการที่จะช่วยยกระดับ "มะอ์ริฟะฮ์" (การรู้จักพระผู้เป็นเจ้า) และมุมมองทางศาสนาให้แก่ประชาชนนั้น จะมีคุณค่ามากกว่าการยืนทำนมาซ การทูนคัมภีร์อัลกุรอาน การทำซอดะเกาะฮ์ญาริยะฮ์ การเตาบะฮ์และการอิสติฆฟาร (อย่างไรก็ตาม คำพูดนี้มีแหล่งที่มาจากริวายฮ์ (คำรายงาน) ของบรรดามะอ์ซูม (อ.))

     สรุปได้ว่า หนึ่งในอะมั้ลที่ประเสริฐที่สุดและมีความดีงามมากที่สุดสำหรับค่ำคืนลัยละตลก็อดริ์ คือการเสริมสร้างและการเพิ่มพูนความรู้ทางศาสนา และการที่คนเราจะยอมรับและเรียนรู้ศาสนาของตนด้วยมะอ์ริฟะฮ์ (การทำความรู้จัก) และการใช้สติปัญญาคิดใคร่ครวญ และสิ่งนี้เป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่า ศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สายธารแห่งอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) นั้นให้ความสำคัญต่อความรู้ การศึกษาและการคิดใคร่ครวญมากเพียงใด และถือว่าการศรัทธา (อีหม่าน) ที่เกิดจากการรู้จัก (มะอ์ริฟะฮ์) และการคิดใคร่ครวญนั้นย่อมประเสริฐอย่างมากมายกว่าการทำอิบาดะฮ์ที่ปราศจากมะอ์ริฟะฮ์ และเกิดจากการลอกเลียนแบบ (ตักลีด) ตามบรรพบุรุษ

แหล่งที่มา :

(1) มะฟาตีฮุลญินาน, เชคอับบาส กุมมี

(2) มะฟาตีฮุลญินาน

(3) อัลอามาลี, เชคซอดูก

แปลและเรียบเรียง : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม