มนุษย์อยู่ในสภาพของความก้าวหน้าและการพัฒนาไปสู่ความสมบูรณ์ตลอดเวลา และเพื่อความสำเร็จและความผาสุกไพบูลย์ของเขานั้นไม่มีขอบเขตจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้มนุษยชาติในปัจจุบันได้มาถึงขั้นตอนใหม่ของการกระทำและคุณค่าต่างๆ ที่บุคคลในยุคอดีตยังไปไม่ถึงสิ่งเหล่านั้น การพัฒนาดังกล่าวนี้จะยังคงดำเนินต่อไป ในแต่ละวันปัญหาต่างๆ ที่ไม่เป็นที่รับรู้มาก่อนสำหรับเราก็จะถูกค้นพบ
เมื่อประชาชาติหนึ่งกำลังย่างก้าวไปในเส้นทางของการพัฒนาที่สูงขึ้นเช่นนี้ จำเป็นที่เขาจะต้องมีผู้นำที่มีความบริสุทธิ์จากความผิดพลาด (มะอ์ซูม) และมีความเป็นพิเศษ เพื่อที่จะช่วยขจัดความจำเป็นต่างๆ ทางด้านแนวคิด ธรรมชาติแห่งการสร้างและด้านจิตวิญญาณของพวกเขาให้หมดไป
บางครั้งอาจจะมีบุคคลบางส่วนกล่าวว่า เราจะใช้ประโยชน์จากแสงแห่งสติปัญญาก็เพียงพอแล้ว และโดยการชี้นำและการนำทางของเนี๊ยะอ์มัต (ของขวัญ) อันยิ่งใหญ่นี้ เราจะเป็นผู้วาดอนาคตที่สดใสและความสำเร็จไพบูลย์สำหรับตัวเราเอง และเราไม่มีความจำเป็นต่อข้อพิสูจน์ของพระผู้เป็นเจ้า! ในคำตอบสำหรับคนเหล่านี้ จำเป็นจะต้องกล่าวว่า : สติปัญญานั้นเป็นส่วนหนึ่งจากเนี๊ยะอ์มัต (ของขวัญ) อันยิ่งใหญ่ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบให้แก่ปวงบ่าวของพระองค์ และเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดที่จะรับรู้และเข้าใจคุณค่าและความดีงามต่างๆ
ท่านอิมามริฎอ (อ.) กล่าวว่า
صدیقُ کُلِّ اِمْرِءٍ عَقْلُهُ و عَدُوُّهُ جَهْلُهُ
“สหายของมนุษย์ทุกคน คือสติปัญญาของเขา และศัตรูของเขาก็คือความไม่รู้ของเขา” (2)
แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ด้วยกับสติปัญญาเพียงอย่างเดียวนั้นไม่อาจทำให้มนุษย์เป็นผู้ประสบความสำเร็จและไร้ซึ่งความต้องการจากข้อพิสูจน์ (ฮุจญะฮ์) ของพระผู้เป็นเจ้าได้ ทั้งนี้เนื่องจากว่า สติปัญญาและอิมาม (ผู้นำ) ทั้งสองเปรียบได้ดังสองปีกและเป็นสิ่งที่จะช่วยเสริมสร้างความสมบูรณ์ให้แก่กันและกัน ดังเช่นที่ท่านอิมามมูซา กาซิม (อ.) ได้กล่าวว่า
إِنَّ لِلَّهِ عَلَى النَّاسِ حُجَّتَيْنِ حُجَّةً ظَاهِرَةً وَ حُجَّةً بَاطِنَةً فَأَمَّا الظَّاهِرَةُ فَالرُّسُلُ وَ الْأَنْبِيَاءُ وَ الْأَئِمَّةُ ع وَ أَمَّا الْبَاطِنَةُ فَالْعُقُول
“แท้จริงสำหรับอัลลอฮ์นั้น พระองค์ทรงมีข้อพิสูจน์ เหนือมนุษย์สองประการคือ ข้อพิสูจน์ที่อยู่ภายนอกและข้อพิสูจน์ที่อยู่ภายใน (ตัวมนุษย์เอง) สำหรับข้อพิสูจน์ที่อยู่ภายนอกนั้นคือบรรดาศาสนทูต ปวงศาสดาและบรรดาอิมาม (ผู้นำ) ส่วนข้อพิสูจน์ที่อยู่ภายในนั้นคือ สติปัญญาทั้งหลาย” (3)
ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้เอง พระผู้เป็นเจ้าจึงไม่ทรงปล่อยให้โลกนี้ว่างเว้นจากการดำรงอยู่ของข้อพิสูจน์ (ฮุจญะฮ์) ผู้นำ และอิมามมะอ์ซูม (อ.) แม้แต่เพียงขณะเดียว และพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่ง ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อปวงบ่าว พระองค์ได้ทรงกำหนดตัวบรรดาผู้นำที่ยิ่งใหญ่และมีสถานะตำแหน่งที่สูงส่งไว้ในนาม “อิมาม” เพื่อทำหน้าที่ชี้นำสังคมไปสู่การพัฒนาการที่สมบูรณ์ (ตะกามุล) ความต้องการขั้นพื้นฐานและเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดของมนุษย์ทุกคน คือด้านแห่งจิตวิญญาณของเขาที่จะต้องได้รับอาหาร (เช่นเดียวกับด้านแห่งวัตถุหรือร่างกายของเขา) บรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ (อ.) คือสื่อกลางสำหรับการเสริมสร้างมิติทางจิตวิญญาณของมนุษย์ และหากไม่มีพวกท่านแล้ว พระมหากรุณาธิคุณและความดีงามทั้งหลายจากพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่งก็จะไม่ถูกมอบให้แก่ปวงบ่าว
บรรดาอิมามมะอ์ซูม (อ.) เป็นเสมือนลำธารและแหล่งน้ำที่อยู่ท่ามกลางไร่สวนทั้งหลาย หากปราศจากลำธารและแหล่งน้ำแล้ว ก็จะไม่มีน้ำไปถึงไร่สวนเหล่านั้น ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เราจะต้องรับรู้ว่า พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงกระทำสิ่งใด โดยปราศจากเหตุปัจจัย (ซะบับ) และสื่อในการดำเนินการกระทำของพระองค์ อะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) คือเหตุปัจจัย (ซะบับ) และเป็นสื่อกลางของพระมหากรุณาธิคุณและความดีงามต่างๆ จากพระผู้เป็นเจ้า เพื่อที่จะรับรู้ถึงความจำเป็นของการมีอิมาม (ผู้นำ) และข้อพิสูจน์ (ฮุจญะฮ์) ของพระผู้เป็นเจ้านั้น เป็นสิ่งที่ดีทีเดียวที่เราจะมาพิจารณาคำพูด (ฮะดีษ) ต่างๆ ของท่านเหล่านั้น
ท่านอิมามริฎอ (อ.) กล่าวว่า
إِنَّ الْإِمَامَةَ أَجَلُّ قَدْراً وَ أَعْظَمُ شَأْناً وَ أَعْلَى مَكَاناً وَ أَمْنَعُ جَانِباً وَ أَبْعَدُ غَوْراً مِنْ أَنْ يَبْلُغَهَا النَّاسُ بِعُقُولِهِمْ أَوْ يَنَالُوهَا بِآرَائِهِمْ
“แท้จริงอิมามะฮ์ (ความเป็นผู้นำ) เป็นเกียรติที่สูงส่ง เป็นสถานะที่ยิ่งใหญ่ เป็นตำแหน่งที่สูงส่งยิ่ง เป็นด้านที่มีความแข็งแกร่งและเป็นสิ่งที่มีความลุ่มลึกเกินกว่าที่มนุษย์จะไปถึงมันได้ด้วยสติปัญญาของพวกเขา หรือจะได้รับมันมาด้วยกับทัศนะความเห็นของพวกเขา” (4)
คัมภีร์อัลกุรอานก็ได้กล่าวว่า
وَمَا كَانَ لِمُؤْمِنٍ وَلَا مُؤْمِنَةٍ إِذَا قَضَى اللَّهُ وَرَسُولُهُ أَمْرًا أَن يَكُونَ لَهُمُ الْخِيَرَةُ مِنْ أَمْرِهِمْ وَمَن يَعْصِ اللَّهَ وَرَسُولَهُ فَقَدْ ضَلَّ ضَلَالًا مُّبِينًا
“ไม่มีสิทธิ์สำหรับผู้ศรัทธาชายและผู้ศรัทธาหญิงคนใด ที่เมื่ออัลลอฮ์และศาสนทูตของพระองค์ได้กำหนดกิจการใดแล้ว พวกเขาจะเลือกในเรื่องของพวกเขากันเอง และผู้ใดฝ่าฝืนอัลลอฮ์และศาสนทูตของพระองค์ แน่นอนยิ่งเขาได้หลงผิดอย่างชัดแจ้ง” (5)
“อิมาม” คือผู้ซึ่งไม่มีผู้ใดเทียบเคียง และบรรดานักวิชาการใดๆ ก็ไม่อาจเท่าเทียมกับท่านได้เลย ท่านมีความประเสริฐและความดีงามต่างๆ โดยที่ตัวท่านเองไม่ได้เป็นผู้ไขว่หา แต่ทว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ทรงอนุเคราะห์และทรงประทานตำแหน่งนี้ให้แก่พวกท่าน (6) ความจำเป็นของการมีอิมาม (ผู้นำ) สำหรับสังคมนั้น ก็เหมือนกับความจำเป็นของร่างกายที่มีต่อหัวใจ หากไม่มีอิมามอยู่ในสังคม ความศรัทธา (อีหม่าน) ความบริสุทธิ์ใจและความมีศีลธรรมของสังคมก็จะไม่ถูกสูบฉีด หากปราศจากสื่อจากท่านเหล่านั้นแล้ว ประชาชาติก็จะถูกดึงไปสู่ความตกต่ำตลอดเวลา และจะกลายเป็นร่างกายที่ไร้วิญญาณ และรูปลักษณ์ภายนอกที่ว่างเปล่าจากคุณค่าใดๆ
แหล่งอ้างอิง :
[1] ตัฟซีรนะมูเนะฮ์, เล่มที่ 17, หน้าที่ 346
[2] อุซูลุลกาฟี, เล่มที่ 1, หน้าที่ 11, ฮะดีษที่ 4
[3] อัลกาฟี, เล่มที่ 1, หน้าที่ 16
[4] อุซูลุลกาฟี, เล่มที่ 1, หน้าที่ 284, ฮะดีษที่ 1
[5] อัลกุรอานบทอัลอะห์ซาบ โองการที่ 36
[6] อุซูลุลกาฟี, เล่มที่ 1, หน้าที่ 198, ฮะดีษที่ 1
บทความ : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม
In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم
Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم
ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You
WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center