เคอร์มานชาห์ – นักวิชาการซุนนีของจังหวัดเคอร์มานชาห์ เรียกร้องเชิญชวนประชาชนของจังหวัดนี้ ให้เข้าร่วมในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งครั้งที่ 13 และประกาศการสนับสนุนอายะตุลลอฮ์รออีซี ในแถลงการณ์ต่าง ๆ…

       สำนักข่าว Mehr : ผลประโยชน์ของชาติและศาสนาเป็นสาเหตุของความสามัคคีและเอกภาพในระหว่างชาวชีอะฮ์และซุนนีในตลอดช่วงอายุขัยของการปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน โดยที่ความสำเร็จจำนวนมากมายของระบอบนับตั้งแต่เริ่มต้นของการปฏิวัติและช่วงเวลาหลังจากนั้น นับได้ว่าเป็นหนี้ต่อความอุตสาห์และความพยายามของชาวซุนนี

      ในภูมิภาคต่าง ๆ ของชาวเคิร์ด นักวิชาการซุนนีในฐานะผู้นำและแบบอย่างมีบทบาทสำคัญอย่างปฏิเสธไม่ได้ในการปฏิวัติ และนับตั้งแต่เริ่มต้นการก่อตัวของการปฏิวัติ บุคคลเหล่านี้มีส่วนสำคัญในชัยชนะของขบวนการปฏิวัติ โดยการแนะนำประชาชนให้รู้ถึงเป้าหมาย อุดมคติ และสถานะภาพของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.)

      หลังจากชัยชนะของการปฏิวัติ หนึ่งปี ก่อนการเริ่มต้นของสงครามที่ถูกบังคับ (สงคราม 8 ปีกับอิรัก) ชาวซุนนีในภูมิภาคต่าง ๆ ของชาวเคิร์ดได้ทำการต่อสู้กับกลุ่มผู้ต่อต้านการปฏิวัติและพวกมุนาฟิกีน (พวกหน้าซื่อใจคด) แต่การชี้นำและการเสียสละของบรรดานักวิชาการชาวซุนนีได้ขัดขวางไม่ให้ดินแดนแม้เพียงคืบเดียวของอิหร่านตกไปอยู่ในมือของศัตรู

     เหตุการณ์ของเมืองพอเวะฮ์ (Paveh) ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2522 เป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์ของการปฏิวัติอิสลามและจากการต่อสู้ที่เป็นแบบอย่างของชาวซุนนีและด้วยความเป็นผู้นำของอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) และบรรดาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ อย่างเช่น ชะฮีดชัมรอน และมามุสตา มุลลากอดิร กอดิรี อิมามนำนมาซวันศุกร์ ในวันศุกร์ของชาวซุนนีของเมืองพอเวะฮ์จึงจบลงด้วยชัยชนะของกองกำลังปฏิวัติ

      มามุสตา มุลลากอดิร กอดิรี และนักวิชาการซุนนีคนอื่น ๆ ได้ขัดขวางแผนสมคบคิดจำนวนมากของเหล่าศัตรูลงได้ และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของการปฏิวัติอิสลาม พวกเขาเพิ่มอำนาจและความแข็งแกร่งของประเทศของเราด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

      ปัจจุบันในช่วงครบรอบ 42 ปี ของการปฏิวัติ นักวิชาการซุนนีมีสถานะพิเศษในหมู่ประชาชนและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำสูงสุด คำพูดและการกระทำของพวกเขาส่งผลกระทบอย่างปฏิเสธไม่ได้ต่อสังคมอิสลามของอิหร่าน

      ในความวุ่นวายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีในขณะนี้ อิทธิพลของบรรดานักวิชาการชาวซุนนีในการเมืองนั้น มีความชัดเจนมาก นักวิชาการซุนนีของจังหวัดเคอร์มานชาห์ได้ขัดขวางแผนการต่าง ๆ ของศัตรูอย่างระมัดระวังและประกาศว่า การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเป็นวาญิบ (หน้าทีจำเป็น)

      เมื่อพิจารณาถึงความอ่อนไหวของการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้ (ซึ่งจะมีขึันในวันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2564) และการโฆษณาชวนเชื่ออย่างแพร่หลายของศัตรู บรรดานักวิชาการซุนนีของจังหวัดเคอร์มานชาห์ได้เรียกร้องเชิญชวนสาธารณชนเข้าร่วมในการเลือกตั้งและประกาศจุดยืนโดยแนะนำผู้สมัครที่พวกเขาสนับสนุน

      หลังจากที่มามุสตา มุลลากอดิร กอดิรี ประกาศการสนับสนุนอายะตุลลอฮ์ซัยยิดอิบรอฮีม รออีซี บรรดาอิมามนำนมาซวันศุกร์ของเมืองระวอนซาร์ ( Ravansar), ซาร์พุเล่ซะฮาบ (Sarpol-e-Zahab) และก็อศเร่ชีรีน ( Qasr-e-Shirin) ก็ได้ประกาศสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งคนเดียวกันนี้ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ 13 และถือว่า อายะตุลลอฮ์ซัยยิดอิบรอฮีม รออีซี เป็นผู้สมัครที่ชอบธรรมทีสุดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านปี 1400 (ปี พ.ศ. 2564)

การเลือกตั้งปี 1400 มีความสำคัญเป็นทวีคูณทั้งในและต่างประเทศ

       มามุสตา มุลลากอดิร กอดิรี อิมามนำนมาซวันศุกร์แห่งเมืองพอเวะฮ์ กล่าวในหมู่นักการศาสนา นักการศึกษาและผู้ดูแลผลประโยชน์ของเมืองนี้ว่า : เมื่อพิจารณาถึงความสำคัญของการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมีขึ้น ข้าพเจ้าขอประกาศสนับสนุนซัยยิดอิบรอฮีม รออีซี ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ 13

       เขากล่าวเสริมว่า : “ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาของการปฏิวัติ ข้าพเจ้าได้มีส่วนร่วมในการเลือกตั้งทั้งหมด และข้าพเจ้าได้เชิญประชาชนให้เข้าร่วมในการเลือกตั้งโดยพร้อมเพียงกัน นี่เป็นครั้งที่สองที่ข้าพเจ้าเรียกร้องเป็นพิเศษให้ประชาชนเข้าร่วมในการเลือกตั้ง”

       อิมามวันศุกร์ของเมืองพอเวะฮ์กล่าวว่า : การเลือกตั้งปี 1400 ครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาและมีความสำคัญเป็นทวีคูณทั้งในและนอกประเทศ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องเข้าร่วม

       เขากล่าวต่อว่า : “หวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนชาวอิหร่าน โดยเฉพาะชาวเคอร์มันชาห์และภูมิภาคต่าง ๆ ของชาวเคิร์ด พี่น้องชาวซุนนีทั้งชายและหญิง และประชาชนชาวเมืองพอเวะฮ์ จะมีความกระตือรือร้นในการเลือกตั้งประธานาธิบดีและลงคะแนนให้ ซัยยิดอิบรอฮีม รออีซี”

      มามุสตา มุลลากอดิร กอดิรี เน้นย้ำในการเลือกบุคคลที่ชอบธรรมและคู่ควรที่สุด (อัศละห์) พรัอมกับกล่าวว่า : "ในบรรดาผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทั้ง 7 คน ซัยยิดอิบรอฮีม รออีซี ในช่วงเวลาของการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน ท่านได้ปรากฏต้วในเมืองนี้ พูดคุยและรับฟังปัญหาต่าง ๆ ของเมืองนี้โดยตรงจากประชาชนโดยไม่ผ่านคนกลาง"

      อิมามญุมอะฮ์ของเมืองพอเวะฮ์ได้กล่าวว่า : การแต่งตั้งตัวผู้แทนโดยประชาชนเพื่อติดตามความต้องการต่าง ๆ ของพวกเขาเป็นสิ่งจำเป็นในตลอดประวัติศาสตร์ และหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของผู้แทนคือการปกป้องผู้มอบหมายของตน แต่ผู้แทนบางคนที่ได้รับแต่งตั้งก่อนหน้านี้ไม่ได้ปกป้องสิทธิต่างๆ ของผู้คัดเลือกของตนและหากพวกเขาปกป้องแต่เนื่องจากปัญหามากมายของสังคมจึงไม่ถูกมองเห็น

คลื่นการสนับสนุนของซุนนีต่ออายะตุลลอฮ์รออีซี หลังจากการประกาศจุดยืนของมามุสตา มุลลากอดิร กอดิรี

     ในแถลงการณ์ของสมาชิกสภานักวิชาการศาสนาของจังหวัดพอเวะฮ์ ก็ได้แสดงการสนับสนุนจุดยืนของมามุสตา มุลลากอดิร กอดิรีในการสนับสนุนอายะตุลลอฮ์รออีซี

ในแถลงการณ์นี้กล่าวว่า : เมื่อพิจารณาถึงความอ่อนไหวของการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 1400 (ปี พ.ศ. 2564) และการโฆษณาชวนเชื่ออย่างกว้างขวางของฝ่ายตรงข้ามของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน พร้อมกับการเรียกร้องเชิญชวนประชาชนให้เข้าร่วมในการเลือกตั้งและปฏิบัติตามสุนทโรวาทของ ฯพณฯ มามุสตา มุลลากอดิร กอดิรี อิมามญุมอะฮ์ของเมืองพอวะฮ์เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2564 ในท่ามกลางนักวิชาการศาสนา นักการศึกษาและผู้ดูแลผลประโยชน์ของเมือง ในประเด็นการสนับสนุนซัยยิดอิบรอฮีม รออีซี สมาชิกสภานักวิชาการศาสนาของเมือง พอเวะฮ์ขอประกาศการสนับสนุนจุดยืนของอิมามญุมอะฮ์ที่เคารพของเมืองพอเวะฮ์

การสนับสนุนอย่างท่วมท้นของสภาฟ้ตวาของซุนนีและอิมามเมืองซาร์พุเล่ซะฮาบและก็อศเร่ชีรีน

      ในแถลงการณ์ของสภาฟัตวาของซุนนีและอิมามญุมอะฮ์ของเมืองซาร์พุเล่ซะฮาบและก็อศเร่ชีรีนก็เรียกร้องเชิญชวนประชาชนให้เข้าร่วมอย่างสูงสุดในการเลือกตั้งในวันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พร้อมกับประกาศสนับสนุนอย่างหนักแน่นต่ออายะตุลลอฮ์รออีซี ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 13 ตาม มามุสตา มุลลากอดิร กอดิรี อิมามญุมอะฮ์ของเมืองพอเวะฮ์

      ในข้อความหนึ่งของ “มามุสตา ซัยยิดมุฮัมมัด มุฮัมมะดี” อิมามญุมอะฮ์ของเมืองระวอนซาร์ก็ได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมสูงสุดของประชาชนในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นและความจำเป็นในการเลือกบุคคลที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งประธานาธิบดี พร้อมกับประกาศการสนับสนุนอายะตุลลอฮ์รออีซี

ที่มา : สำนักข่าว Mehr

ศูนย์สารสนเทศอิสลามสถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม