นายกรัฐมนตรีอิสราเอลซึ่งอยู่ในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า เขาตั้งใจที่จะจัดตั้งพันธมิตรระดับภูมิภาคกับประเทศอาหรับเพื่อต่อต้านอิทธิพลในภูมิภาคและความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน….

      นายกรัฐมนตรี "นาฟตาลี เบนเน็ตต์" ของอิสราเอลกล่าวว่า เขาคัดค้านความพยายามของสหรัฐฯ ในการรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านและปฏิเสธการเจรจาประนีประนอมกับชาวปาเลสไตน์

      ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ก่อนจะพบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เขากล่าวว่า เขาคัดค้านความพยายามของสหรัฐฯ ในการฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน และจะยังคงโจมตีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างลับ ๆ ต่อไป

      ในบทสัมภาษณ์นี้ ซึ่งเป็นบทสัมภาษณ์ครั้งแรกของเขากับองค์กรข่าวระดับนานาชาตินับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เขากล่าวว่า เขาจะพัฒนาเมืองในเขตเวสต์แบงก์

       เบนเน็ตต์กล่าวว่า เขาจะพบกับไบเดนเพื่อนำเสนอวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ใหม่เกี่ยวกับอิหร่านรวมถึงการกระชับความสัมพันธ์กับประเทศอาหรับที่ต่อต้านอิทธิพลในภูมิภาคและความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน การใช้การดำเนินการทางเศรษฐกิจและการเมืองกับอิหร่าน อิสราเอลจะดำเนินการโจมตีอิหร่านอย่างลับ ๆ ต่อไป

      ระบอบไซออนิสต์เป็นผู้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์เพียงรายเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันตก และตามรายงานบางฉบับ ระบอบการปกครองนี้มีหัวรบนิวเคลียร์มากกว่า 200 หัวในคลังแสงของตน

      เขากล่าวในการสัมภาษณ์ว่า : “สิ่งที่เราต้องทำคือ จัดตั้งกลุ่มพันธมิตรระดับภูมิภาคกับกลุ่มประเทศอาหรับ ซึ่งมีเหตุผลที่จะทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันการขยายอำนาจและการครอบงำของอิหร่าน”

      นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวเสริมว่า : เขาไม่เห็นวิธีแก้ปัญหาความขัดแย้งกับชาวปาเลสไตน์ในอนาคตอันใกล้ และตั้งใจที่จะดำเนินการตามแผนของอดีตนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ในการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานในเวสต์แบงก์

ที่มา : ฟาร์ส

ศูนย์สารสนเทศอิสลามสถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม