ขีปนาวุธ Ayash ที่มีระยะยิง 250 กม. และหัวรบมากกว่า 300 กก. จะครอบคลุมพื้นที่ที่ถูกยึดครองทั้งหมด และยังมีความสามารถในการโจมตีเป้าหมายที่ได้รับการป้องกันหรือใต้ดินอีกด้วย

          เมื่อสองวันก่อน (13 ตุลาคม) แหล่งข่าวของกองกำลังต่อต้านแห่งปาเลสไตน์ได้รายงานว่า มีการยิงขีปนาวุธ "Ayash 250" ไปยังเมืองซาฟาดใกล้ชายแดนเลบานอนและโกลานที่ถูกยึดครอง

             ระยะทางระหว่างเมืองซาฟาดกับบริเวณแรกของฉนวนกาซา (ประมาณ 180 กม.)

           แหล่งข่าวของไซออนิสต์ก็ได้ยืนยันข่าวการยิงขีปนาวุธนี้ไปยังเมืองซาฟาด และอ้างว่าขีปนาวุธนี้ถูกยิงตกโดยระบบป้องกันทางอากาศของอิสราเอลและระบบ "Flakhan Dawood"

 

                          (ภาพ : ระบบป้องกัน "Flakhan Dawood")

          อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวท้องถิ่นในเมืองซาฟาดเผยแพร่รูปภาพดังกล่าว ซึ่งเผยให้เห็นว่ามีเหตุเพลิงไหม้บริเวณหนึ่งของเมือง ซึ่งคาดว่าเกิดจากการโจมตีลงเป้าหมายของขีปนาวุธ Ayash 250

 

                        (ภาพ : ไฟไหม้ที่เกิดจากขีปนาวุธ Ayash 250 โจมตีเมืองซาฟาด)

 ประวัติการใช้งานและข้อมูลจำเพาะของขีปนาวุธ Ayash 250

         ในวันที่สี่ของปฏิบัติการครั้งใหญ่ "Saif al-Quds" (ดาบแห่งกุดส์) ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2021 แหล่งข่าวกองกำลังต่อต้านได้เผยแพร่วิดีโอที่น่าตกใจเกี่ยวกับจรวดใหม่ (และไม่ใช่จรวดทั่วไป) ที่ถูกยิงจากฉนวนกาซาไปยังดินแดนที่ถูกยึดครอง

         ขีปนาวุธข้างต้นซึ่งมีนามว่า Ayash 250 ได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ "Yahya Ayash" ผู้บัญชาการกองพัน "อิซซุดดีน อัล ก็อซซาม" ที่ถูกลอบสังหารและเป็นชะฮีด (มรณะสักขี) โดยระบอบไซออนิสต์ในช่วงทศวรรษ 1990

         ในช่วงที่สงคราม "Saif al-Quds" รุนแรงที่สุด ขบวนการฮามาสได้ยิงจรวด Ayash 250 ไปยังสนามบินท่าเรือ "Eilat" ทางตอนใต้สุดของดินแดนที่ถูกยึดครองและชายฝั่งทะเลแดง แม้รัฐบาลอิสราเอลจะยอมรับว่าขีปนาวุธดังกล่าวไม่ได้ถูกสกัดกั้นโดยระบบป้องกันทางอากาศของตน แต่ก็อ้างว่าขีปนาวุธดังกล่าวโจมตีลงพื้นที่ที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ การเซ็นเซอร์ข่าวที่รุนแรงของเหตุการณ์นี้ทำให้รายละเอียดของขีปนาวุธที่โจมตีเป้าหมายไม่เคยเป็นที่รู้จัก

          การยิงขีปนาวุธ Ayash 250 ในเวลานั้นส่งข้อความที่ชัดเจนไปยังรัฐบาลอิสราเอลผู้ยึดครองดินแดนว่า ไม่เพียงแต่ไม่มีสถานที่ใดในดินแดนที่ถูกยึดครองปลอดภัยอีกต่อไป แต่แทนที่จะเป็นจรวดปืนใหญ่ที่มีพิสัยและหัวรบขนาดกลาง คราวนี้พวกเขาจะต้องเผชิญกับขีปนาวุธที่มีหัวรบหลายร้อยกิโลกรัม                                    

การยิงไปยังสุดชายแดนทางตอนเหนือ

          ครั้งนี้ ระหว่างปฏิบัติการพายุอัล-อักซอ หน่วยขีปนาวุธของกองกำลังต่อต้านของปาเลสไตน์ได้ยิงขีปนาวุธ Ayash 250 ไปยังเมืองซาฟาด ทางตอนเหนือของดินแดนที่ถูกยึดครอง กองกำลังญิฮาดอิสลามี (อิสลามิกญิฮาด) ของฮามาสและปาเลสไตน์มีจรวดหนักหลายประเภทไว้ใช้งาน ซึ่งใช้ในการโจมตีทางตะวันตกและบางส่วนที่ถูกยึดครองของกรุงเยรูซาเลม เทลอาวีฟ และชานเมือง และท่าเรือไฮฟา

         จรวดเช่น Khyber, Badr 3, A-120, R-160 เป็นต้น ซึ่งมีระยะทำการสูงสุด 160 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ไม่มีอาวุธใดดังกล่าวที่สามารถโจมตีเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไปทางเหนือและใต้ของอิสราเอล เช่น ท่าเรือ Eilat หรือเมือง Safad, Nahariya และ Kiryat Shemone

          นอกจากนี้ หัวรบของจรวดเหล่านี้มักจะเบาลงเมื่อถึงระยะสูงสุด และจะไม่มีผลทำลายล้างเช่นเดียวกับขีปนาวุธ Ayash 250

      (ภาพ : ระบบจรวด เอ-120)

          แต่ขีปนาวุธ Ayash ซึ่งมีระยะยิง 250 กิโลเมตรและหัวรบมากกว่า 300 กิโลกรัม ครอบคลุมอาณาเขตทั้งหมดของดินแดนที่ถูกยึดครอง และยังมีความสามารถในการโจมตีเป้าหมายที่ได้รับการป้องกันหรือใต้ดิน และจะทำให้การทำงานของระบบป้องกันภัยทางอากาศของไซออนิสต์เพื่อจัดการกับขีปนาวุธนี้เกิดความซับซ้อนและยากขึ้น

         หากกองทัพของระบอบไซออนิสต์โง่เขลาและตั้งใจที่จะดำเนินปฏิบัติการภาคพื้นดินต่อฉนวนกาซา คาดว่าเราจะได้เห็นจรวดหนัก ขีปนาวุธ Ayash 250 และโดรนพลีชีพของกองกำลังต่อต้านจำนวนมากถูกยิงไปทั่วดินแดนที่ถูกยึดครองในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

---

ที่มา : มัชริก

ศูนย์สารสนเทศอิสลามสถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม