คนใกล้ชิดและที่ปรึกษาเกือบทุกของคนของทรัมป์ได้เตือนเขาถึงผลต่างๆ ที่จะตามมาจากสิ่งที่เขาพูด โดยที่คำพูดของเขาทำให้เกิดความแตกแยกและการแบ่งฝ่ายในสังคมอเมริกันและได้ทำลายความสัมพันธ์กับหลายประเทศทั่วโลก
ท่านอิมามอะลี (อ.) กล่าวว่า : "จงพูดออกมาเถิดเพื่อพวกท่านจะถูกรู้จัก เพราะแท้จริงคนเรานั้นถูกซ่อนอยู่ภายใต้ลิ้นของเขา" และในอีกที่หนึ่งท่านกล่าวว่า : "คนเราเป็นเสมือนหีบที่ถูกล็อค กุญแจของมันคือคำพูด" โสเครติสกล่าวว่า : “จงพูดเถิดเพื่อที่ฉันจะได้เห็นคุณ” มีคำรายงาน (ริวายะฮ์) มากมายเกี่ยวกับความสำคัญของคำพูดและความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของมันกับบุคลิกภาพของผู้พูด และนั่นคือเครื่องบ่งชี้ถึงสติปัญญาและวัฒนธรรมของมนุษย์โดยที่ทันทีที่เขาเปิดปากพูด บุคลิกภาพของเขาก็จะถูกเปิดเผยและผู้อื่นก็จะเข้าใจถึงความเป็นจริงของเขา
นับตั้งแต่ช่วงเวลาที่ "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้าสู่ทำเนียบขาวในปี 2016 สื่อต่างๆ ได้แข่งกันเพื่อนับการโกหกของเขา ซึ่งมีการพูดโกหกมากกว่าพันครั้ง ชายผู้นี้จะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยข้อความทวีตที่น่าขยะแขยงและยั่วยุ และจะใช้เวลาในยามค่ำคืนด้วยการทวีตที่ปลุกปั่นให้เกิดวิกฤต ในความเป็นจริงแล้วข้อความทวีตต่างๆ ของเขา จะหว่านเมล็ดพันธ์แห่งความแค้นและความเกลียดชังมากยิ่งขึ้น
คนใกล้ชิดกับทรัมป์และที่ปรึกษาของเขาเกือบทุกคนได้เตือนเขาถึงผลต่างๆ ที่จะตามมาจากสิ่งที่เขาพูด แต่คำเตือนเหล่านี้ก็ไม่มีประโยชน์ ผู้ชายคนนี้เคยชินกับการพูดมากและการพูดเรื่องไร้สาระ ไม่คิดถึงผลกระทบที่ตามมาของคำพูดต่างๆ ของเขา โดยที่คำพูดของเขาทำให้เกิดความแตกแยกและการแบ่งฝ่ายในสังคมอเมริกัน และได้ทำลายความสัมพันธ์กับหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบรรดาประเทศพันธมิตรของตน
วันนี้สืบเนื่องจากการก่ออาชญากรรมเหยียดสีผิว ซึ่งเหยื่อของมันคือ "จอร์จ ฟลอยด์" และเช่นเดียวกันนี้ สืบเนื่องจากการประท้วงต่อต้านอาชญากรรมนี้จากประชาชนในรัฐส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ ชาวอเมริกันได้ตระหนักมากขึ้นกว่าทุกช่วงเวลาที่ผ่านมาถึงอันตรายจากผลกระทบอันหายนะที่มาจากคำพูดของทรัมป์ ชายผู้ที่จะรดน้ำลงบนกองไฟแห่งการก่อจลาจลเพื่อดับวิกฤติลง กลับเติมเชื้อฟืนเข้าไปแทนที่ และด้วยกับข้อความทวีตที่ยั่วยุและประโยคคำพูดที่ปลุกปั่นและบ้าคลั่ง ทำให้เปลวไฟของการประท้วงรุนแรงขึ้น ด้วยการกระทำดังกล่าวนี้เขาได้ก่อให้เกิดความโกรธแค้นต่อคนจำนวนมาก รวมทั้งบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาลของเขาเอง
หนังสือพิมพ์ "นิวยอร์กไทมส์" รายงานว่า ที่ปรึกษาของทรัมป์บางคนขอให้เขาออกห่างจากทวิตเตอร์เพื่อที่จัดการกับวิกฤติในประเทศขณะนี้ได้ดีขึ้น แต่เขากลับไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ และยังคงดำเนินการโพสต์ข้อความทวีตต่างๆ ของตนอย่างต่อเนื่อง เพื่อโจมตีพรรคเดโมแครตและผู้ว่าการรัฐทั้งหลาย เนื่องจากข้อกล่าวอ้างตามคำพูดของเขา เจ้าหน้าที่เหล่านี้ไม่ได้ใช้วิธีการข่มขู่และกำลังในการเผชิญหน้ากับผู้ประท้วง ซึ่งเขาอธิบายว่าเป็นผู้ก่อการจลาจล โจรและผู้ก่อการร้าย
นอกจากนี้หนังสือพิมพ์นี้ยังได้เปิดเผยว่า บรรดาที่ปรึกษาของทรัมป์พยายามอธิบายให้เขาฟังซ้ำ ๆ ว่า "การประท้วงไม่เพียงแต่เป็นการต่อต้านประธานาธิบดีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเด็นอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประณามเหยียดสีผิว" บรรดาที่ปรึกษาของทรัมป์ยังบ่นเกี่ยวกับทวีตของเขาโดยย้ำว่า ทวีตเหล่านี้กำลังเติมเชื้อไฟให้กับวิกฤติในขณะนี้
ในปฏิกิริยาล่าสุดต่อการพูดจาเพ้อเจ้อและไร้สาระของทรัมป์ "อาร์ต อาเซเวโด" (Art Acevedo) หัวหน้าตำรวจของเมืองฮิวสตันกล่าวว่า : "ในนามของหัวหน้าตำรวจอเมริกันทุกคน ผมแค่อยากจะพูดอะไรสักอย่างกับประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาว่า : ถ้าคุณไม่มีคำพูดที่สร้างสรรค์ก็ขอให้ปิดปากของตนไว้" ถ้อยแถลงเช่นนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความถูกต้องที่ว่า ชาวอเมริกันมีความมั่นใจว่า หากทรัมป์หุบปากของตนลง วิกฤตการณ์ที่เลวร้ายในประเทศของพวกเขาก็จะสงบลงได้!
ที่มา : อัลอาลัม
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม
In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم
Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم
ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You
WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center