foto1
foto1
foto1
foto1
foto1

In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم

Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم

ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You

WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center

ภาพ-นิทรรศการ

25,10,0,50,1
5,600,50,1,3000,500,25,800
100,150,1,50,12,30,50,1,70,12,1,40,1,1,1,3000
0,1,0,0,2,40,15,5,2,1,0,17,0,1
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...

ซัยยิดญะมาลุดดีน อะซัด อาบาดี มหาบุรุษนักต่อสู้แห่งโลกอิสลาม

     ในปีฮิจญ์เราะฮ์ศักราชที่ 1254 มหาบุรุษผู้หนึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นในเมืองฮัมดานของประเทศอิหร่าน ผู้ซึ่งจวบจนถึงขณะนี้ชื่อของท่านยังคงเป็นที่กล่าวขานถึงในหน้าประวัติศาสตร์ของโลกอิสลาม บุรุษผู้นี้มีนามว่า "ซัยยิดญะมาลุดดีน อะซัด อาบาดี" (1)

     หลังจากผ่านพ้นวัยเด็กซัยยิดญะมาลุดดีนได้เริ่มต้นการศึกษาของตนในเมืองที่ท่านถือกำเนิด และหลังจากสำเร็จการศึกษาในระดับเบื้องต้นแล้ว ท่านได้เดินทางสู่เมืองก็อซวีนและเตหะรานเพื่อศึกษาต่อ และต่อจากนั้นได้เดินทางสู่ประเทศอิรัก หลังจากระยะเวลา 4 ปี ที่พำนักอยู่ในประเทศอิรักและเป็นลูกศิษย์ของท่านเชคมุรตะฎอ อันซอรี และอาคูนด์มุลลาฮุเซน กอลี ฮัมดานี ท่านได้สำเร็จการศึกษาในระดับอิจญ์ติฮาจ (การวินิจฉัยปัญหาศาสนบัญญัติ)

     น้อยคนนักที่เมื่อได้ยินคำว่า "การต่อสู้และการเป็นปฏิปักษ์กับประเทศมหาอำนาจ" โดยที่เขาไม่รู้จักชีวประวัติของท่านซัยยิดญะมาลุดดีน ท่านได้เริ่มต้นการต่อสู้ต่างๆ ของท่านด้วยการเรียกร้องเชิญชวนโลกอิสลามสู่การเคลื่อนไหวทางด้านวิชาความรู้ ความมีเอกภาพ (วะฮ์ดะฮ์) และการยืนหยัดต่อสู้กับการล่าอาณานิคมของตะวันตก และพระผู้เป็นเจ้าก็ทรงให้การช่วยเหลือท่าน และชี้นำแนวทางการต่อสู้ที่มีประสิทธิภาพให้แก่ท่าน พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสไว้ในคัมภีร์อัลกุรอานว่า :

وَ الَّذینَ جاهَدُوا فینا لَنَهْدِیَنَّهُمْ سُبُلَنا وَ إِنَّ اللَّهَ لَمَعَ الْمُحْسِنینَ

"และบรรดาผู้ที่ดิ้นรนต่อสู้ในทางของเรา แน่นอนยิ่งเราจะนำทางพวกเขาเข้าสู่ทางทั้งหลายของเรา และแท้จริงอัลลอฮ์จะทรงอยู่กับบรรดาผู้ประพฤติดี"

(อัลกุรอานบทอัลอังกะบูต โองการที่ 69)

     เพื่อที่จะปลุกประชาชนชาวโลกให้ตื่นตัวนั้น ท่านซัยยิดญะมาลุดดีน อะซัด อาบาดีได้ออกเดินทางไปยังประเทศต่างๆ และพร้อมกับดำเนินกิจกรรมต่างๆ อย่างเช่น การตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ การจัดการประชุมทางวิชาการ การเขียนบทความและกล่าวสุนทรพจน์ ฯลฯ เพื่อเปิดโปงโฉมหน้าที่ชั่วร้ายของประเทศมหาอำนาจให้ประชาชนได้รับรู้ และทำให้พวกเขาได้ตระหนักถึงจิตวิญญาณแห่งความรักในอิสรภาพและเสรีภาพ การเอาตัวออกห่างจากการเชื่อฟังและการยอมจำนนต่อทรราชย์ การยึดมั่นปฏิบัติตามพระบัญชาต่างๆ ของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่ง และได้แนะนำประชาชนให้รู้ถึงแนวทางแห่งเสรีภาพในการยอมตนเป็นบ่าวของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งท่านอิมามอะลี (อ.) ได้กล่าวว่า :

مَن قامَ بِشَرائِطِ العُبودیَّةِ أَهلٌ لِلعِتقِ، مَن قَصَّرَ عَن أَحكامِ الحُرِّیَّةِ اُعیدَ اِلىَ الرِّقِّ

"ผู้ใดก็ตามที่ดำรงตนด้วยการปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ของความเป็นบ่าว (ของพระผู้เป็นเจ้า) เขาก็คือผู้ที่คู่ควรต่อการมีอิสรภาพ ผู้ใดก็ตามที่บกพร่องต่อ (การปฏิบัติตาม) กฎเกณฑ์ต่างๆ ของความเป็นเสรีชน เขาก็จะถูกนำกลับไปสู่ความเป็นทาส (ผู้อื่นจากพระผู้เป็นเจ้า)" (2)

      ท่านซัยยิดญะมาลุดดีน อะซัด อาบาดี ได้ส่งเสริมและปลุกประชาชนไปสู่จิตสำนึกแห่งเสรีภาพทางความคิด ท่านได้อัดฉีดจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญและความสำนึกในเกียรติศักดิ์ศรีให้แก่สังคมที่ประสบกับการนิ่งเฉย การปลีกตัวออกจากเวที ความหวาดกลัว การยอมจำนน การพึงพอใจต่อสภาพที่เป็นอยู่ การไร้ความรู้ และอื่นๆ อันเป็นผลมาจากสภาพต่างๆ ทางด้านการเมืองและสังคม ท่านได้เรียกร้องเชิญชวนพวกเขาไปสู่การเปลี่ยนแปลงสภาพที่เป็นอยู่ และท่านถือว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้นั้นจะต้องเกิดจากการเปลี่ยนแปลงความคิดที่ยอมจำนน ดังที่พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงตรัสว่า :

إِنَّ اللَّهَ لا یُغَیِّرُ ما بِقَوْمٍ حَتَّى یُغَیِّرُوا ما بِأَنْفُسِهِمْ وَ إِذا أَرادَ اللَّهُ بِقَوْمٍ سُوْءاً فَلا مَرَدَّ لَهُ وَ ما لَهُمْ مِنْ دُونِهِ مِنْ والٍ

"แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ทรงเปลี่ยนแปลงสภาพของกลุ่มชนใด จนกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงสภาพด้วยตัวของพวกเขาเอง และเมื่ออัลลอฮ์ทรงประสงค์ความเลวร้ายแก่ชนกลุ่มใดแล้ว ก็จะไม่มีสิ่งใดปัดป้องมันได้ และนอกจากพระองค์แล้วจะไม่มีผู้ช่วยเหลือใดๆ สำหรับพวกเขา"

(อัลกุรอานบทอัรเราะอ์ดุ โองการที่ 11)

      นักวิชาการศาสนาที่โดเด่นท่านนี้ได้ปลุกกระแสต่างๆ ทางด้านการเมืองและสังคมให้เกิดการขับเคลื่อนโดยอาศัยสื่อต่างๆ ที่มีอยู่ในขณะนั้น อย่างเช่น หนังสือพิมพ์และอื่นๆ และได้ใช้สื่อดังกล่าวนี้ในการทำให้เสียงของอิสลามไปถึงหูของประชาชนชาวโลก และด้วยแนวคิดต่างๆ ของท่านนี่เองที่ได้ส่งผลกระทบอย่างสูงต่อขบวนการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า "ขบวนการมัชรูเฏาะฮ์" ในประเทศอิหร่านในขณะนั้น

      การคิดใคร่ครวญ การศึกษาและการอ่านผลงานต่างๆ ที่ถูกทิ้งไว้จากนักวิชาการที่เป็นปัญญาชนอย่างแท้จริงท่านนี้ ผู้ซึ่งได้ใช้ความอุตสาห์พยายามทั้งหมดของตนในการทำลายความเชื่อต่างๆ ที่งมงายออกไปจากสังคมอิสลาม การเสริมสร้างเอกภาพ (วะฮ์ดะฮ์) ในระหว่างชนชั้นทั้งหลายของสังคม การต่อสู้กับความอธรรมและมหาอำนาจ และทำลายความรู้สึกในการยอมจำนนต่อชะตากรรมออกไปจากประชาชน... นับได้ว่าเป็นแบบอย่างที่ดียิ่งสำหรับบรรดาผู้นำทางการเมืองและเสรีชนทุกคน ที่กำลังพยายามเพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งเกียรติศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของประเทศชาติของตนเอง


เชิงอรรถ :

(1) โดยทั่วไปนักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวชาวมุสลิมในประเทศไทยจะรู้จักท่านในนาม "ซัยยิดญะมาลุดดีน อัลอัฟฆอนี"

(2) อุยูนุลหิกัม วัลมะวาอิซ, หน้าที่ 450, ฮะดีษที่ 8004 และ 8005


บทความ : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม