เกิดการระเบิดอย่างหนักที่โรงงานผลิตอาวุธทางทหาร ทางตอนเหนือของเทลอาวีฟ ความรุนแรงของการระเบิดนั้นสามารถมองเห็นเปลวเพลิงและกลุ่มควันจากพื้นที่ห่างไกล การระเบิดครั้งนี้ได้เกิดขึ้นหลังจากการปฏิบัติการของผู้ก่อการร้ายของกลุ่มไอซิส ในฮะรัมชาฮ์เจร๊อก ในเมืองชีราซของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านเพียง 48 ชั่วโมง ทำให้เกิดคำถามมากมาย แม้จะมีข้อจำกัดที่เข้มงวดที่สุดจากหน่วยงานความมั่นคงของอิสราเอล

         การระเบิดครั้งใหญ่ของโรงงาน "เอลบิต" (Elbit Systems) บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ด้านการป้องกันประเทศของอิสราเอล ซึ่งเป็นศูนย์การทหารของระบอบไซออนิสต์ ตั้งอยู่ห่างจากเทลอาวีฟ 5 กิโลเมตร ได้เกิดขึ้นหลังจากการปฏิบัติการของผู้ก่อการร้ายของกลุ่มไอซิส ในฮะรัมชาฮ์เจร๊อก เมืองชีราซของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน! 48 ชั่วโมง ราวกับว่า "แผนการสร้างความไม่มั่นคงของอิหร่าน" กำลังถูกดำเนินการในเทลอาวีฟ! นี่เป็นการระเบิดครั้งที่สองที่เกิดขึ้นในนิคมอุตสาหกรรมการทหารที่ใหญ่ที่สุดของระบอบไซออนิสต์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

          สิ่งที่เรียกว่า "การล่มสลายภายในของอิสราเอล" คือส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็งของวิกฤต ซึ่งตามความเห็นของไซออนิสต์นั้น ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของระบอบการปกครองของไซออนิสต์ เรื่องราวหลักในอิสราเอลแสดงให้เห็นว่า เมื่อเราเห็นว่าวิกฤตต่างๆ รอบตัวพวกไซออนิสต์ ตามที่พวกไซออนิสต์กล่าวไว้เอง "กำลังทำให้อิสราเอลหายใจไม่ออก" วิกฤตเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งภายในและการปะทะกันรายวันระหว่างไซออนิสต์ด้วยกันเองเท่านั้น แต่ยังเกิดจากภัยคุกคามด้านความปลอดภัยและเหตุการณ์ต่างๆ ที่น่าสงสัยอีกด้วย เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง แต่ต้นตอและผู้ปฏิบัติการไม่สามารถสืบสาวได้สำหรับไซออนิสต์

         เหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่น่าสงสัยครั้งล่าสุดในดินแดนยึดครองของปาเลสไตน์ยังเกิดขึ้นในศูนย์อุตสาหกรรมทางทหาร "เอลบิต" ทางตอนเหนือของเทลอาวีฟ ซึ่งจากการสังเกตุเห็นมีรถพยาบาลจำนวนมาก เนื่องจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียหายจำนวนมาก

เกี่ยวกับอุตสาหกรรมทางทหารของเอลบิต

        เอลบิต (Elbit) ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่ที่สุดของอิสราเอล เกี่ยวข้องกับการระเบิดหลายครั้งในช่วง 45 วันที่ผ่านมา ตามรายงานที่เผยแพร่การระเบิดครั้งล่าสุดในเอลบิตในเขตอุตสาหกรรมแห่งนี้ เกิดขึ้น 15 ส.ค เวลา 01:20 น. เปลวเพลิงและเสียงระเบิด สามารถได้ยินและเห็นในพื้นที่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร

        ศูนย์การทหาร "เอลบิต" ตั้งอยู่ห่างจากเทลอาวีฟไม่ถึง 5 กิโลเมตร ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการระเบิดเหล่านี้ คือ เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างน้อยในช่วงหนึ่งเดือนครึ่งที่ผ่านมา หรืออาจน้อยกว่าหนึ่งเดือนครึ่งมีการระเบิดมาแล้ว 2 ครั้ง ในเฮอร์ซลิยา และมีการระเบิดในโรงงานราฟาเอลหนึ่งครั้ง และตอนนี้เป็นการระเบิดครั้งที่สี่ในโรงงานเอลบิต

        ประเด็นต่อไป การระเบิดในเอลบิตเกิดขึ้น หลังจากการโจมตีของผู้ก่อการร้ายของกลุ่มไอซิส (อ่านว่าอิสราเอล) ยังฮะรัมชาฮ์เจร๊อก ในเมืองชีราซ  48 ชั่วโมง ราวกับว่าความล้มเหลวของโครงการสร้างความไม่มั่นคงในอิหร่านนั้นได้รับคำตอบของตนแล้วในเทลอาวีฟ แม้ว่ากองกำลังผู้ก่อการร้ายของกลุ่มไอซิส จะล้มเหลวในการปฏิบัติการของตนในเมืองชีราซ แต่วิกฤตความไม่มั่นคงของระบอบการปกครองของไซออนิสต์เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเรื่องราว หลายปีที่ผ่านมา กลุ่มไซออนิสต์ได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มไอเอสในภูมิภาคนี้ เพื่อทำให้ประเทศต่างๆ ที่เป็นปฏิปักษ์ของพวกเขาอ่อนแอลง

         จนถึงขณะนี้ยังคงมีภาพเทลอาวีฟให้การรักษาตัวในโรงพยาบาลและให้บริการทางการแพทย์แก่กลุ่มตักฟีรีและกองกำลังก่อการร้ายในซีเรีย และแม้แต่การไปเยี่ยมกองกำลังกลุ่มก่อการร้ายไอซิส-ตักฟีรี ที่บาดเจ็บในโรงพยาบาลเทลอาวีฟ โดยเนทันยาฮูก็ยังคงปรากฏอยู่ในแฟ้มเอกสารสำคัญของแหล่งข่าวหลายแห่ง กลุ่มก่อการร้ายไอซิสได้เพิ่มกิจกรรมการเคลื่อนไหวของตนในภูมิภาคนี้อย่างเข้มข้นตั้งแต่ปี 2014 และในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา กลุ่มก่อการร้ายนี้ได้ปฏิบัติการที่เป็นอันตรายหลายครั้งในหลายประเทศทั่วโลกและในภูมิภาค ในขณะเดียวกัน ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานใด ๆ ประกาศเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มไอซิสในการต่อต้านอิสราเอล

         ความเป็นจริงแล้วในตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา กลุ่มไอซิสไม่เคยแสดงการคุกคามใดๆ ของตนต่อเทลอาวีฟเลย แต่กลับพยายามทำให้ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงเพื่อประโยชน์ของระบอบไซออนิสต์ แต่เทลอาวีฟยังมีความหวังมากมายที่จะบรรลุเป้าหมายในภูมิภาคผ่านการปฏิบัติการของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสและกลุ่มตักฟีรีอื่นๆ

         ตามรายงานต่างๆ “Elbit Systems” รวมถึงบริษัท Israel Defence Forces Aerospace and Defense Industries and Information Technology Company ซึ่งผลิตยุทโธปกรณ์ทางการทหารและรบบป้องกันที่หลากหลาย รวมถึงวิทยุสื่อสาร โดรน เรดาร์ต่างๆ อุปกรณ์กองทัพเรือ และอาวุธควบคุมระยะไกล และบางส่วน มีสาขาอยู่ในอเมริกา อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส โคลอมเบีย และบราซิล

         ในความเป็นจริงแล้ว เอลบิตถือเป็นหัวใจสำคัญทางด้านขีปนาวุธของอิสราเอล แน่นอนว่าเอลบิตนี้ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรม “Ramat Hasharon” และเขตอุตสาหกรรมนี้ประกอบด้วยโรงงานผลิตอาวุธ กระสุน และวัตถุระเบิด และพื้นที่ของอาคารแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 750 เฮกตาร์ พื้นที่ที่สำคัญของระบอบไซออนิสต์นี้เป็นเหมือนเกาะสี่เหลี่ยมที่ไม่มีใครนอกจากพนักงานของสถานที่นั้นที่สามารถจะเข้าใกล้ได้ แต่ผู้ที่วางแผนการระเบิดเอลบิตครั้งล่าสุดนี้ อยู่นอกเหนือที่กองกำลังความมั่นคงของเทลอาวีฟจะสามารถข้ามอุปสรรคเหล่านี้ไปได้ และดำเนินการให้สำเร็จลุล่วงไปได้

ไม่ได้เป็นไปโดยปราศจากการตอบโต้  

         ในขณะเดียวกัน เทลอาวีฟก็ตระหนักดีว่า การดำเนินการต่างๆ ของตนในภูมิภาค รวมถึงในฮะรัมชาฮ์เจร๊อกของเมืองชีราซ ของอิหร่าน โดยใช้มือของกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิสนั้นจะไม่ผ่านไปโดยปราศจากการตอบโต้ ในความเป็นจริงแล้วการแกว่งเท้าของไอซิสในอิหร่านจะถูกตอบโต้ในเวลาน้อยกว่า 48 ชั่วโมง ในการระเบิดและความไม่ปลอดภัยของเทลอาวีฟ และนี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกไซออนิสต์ไม่รู้ แม้ว่าหลังจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่น่าสงสัยที่เกิดขึ้นในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง เจ้าหน้าที่ของเทลอาวีฟจะเคยชินกับการซ่อนตัวและมุดหัวอยู่ใต้หิมะ และจะอ้างว่าไม่ทราบที่มาของเหตุการณ์เหล่านี้ แต่พวกเขาเองรู้ดีกว่าใคร ว่ามันเกิดอะไรขึ้น!

ความสำเร็จของปฏิบัติการเอลบิต

          การระเบิดในเช้าวันอังคารที่ผ่านมาที่ศูนย์อุตสาหกรรมทางทหารเอลบิตสามารถทำลายบางส่วนของอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์และอาวุธของระบอบไซออนิสต์ได้อย่างประสบความสำเร็จ แม้ว่าแหล่งข่าวอย่างเป็นทางการของเทลอาวีฟ อย่างเช่น "The Times of Israel" จะยืนยันว่า กองกำลังของพวกเขา 3 นายได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดครั้งนี้ แต่ภาพถ่ายในช่วงกลางคืนแสดงให้เห็นรถพยาบาลและรถกู้ภัยมากกว่า 20 คันในชั่วโมงแรกของการระเบิดรถพยาบาล 20 คัน สำหรับการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ 3 คันกระนั้นหรือ?! แถวของรถพยาบาลบนถนนที่มุ่งสู่เอลบิตแสดงให้เห็นว่า จำนวนของผู้ได้รับบาดเจ็บของพวกไซออนิสต์ในการระเบิดครั้งนี้น่าจะสูงกว่านี้มาก และอาจมาพร้อมกับการเสียชีวิตของคนอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง

บรรดาพยานผู้เห็นเหตุการณ์พูดว่าอย่างไร?

          แหล่งข่าวได้อ้างคำพูดของพยานผู้เห็นเหตุการณ์การระเบิดคนหนึ่งว่า : "ทันใดนั้น เราได้เห็นแสงที่รุนแรงมากสว่างขึ้นบนท้องฟ้าเหมือนกลางวัน ผมเห็นแสงสีเหลืองและควันรูปดอกเห็ดขนาดใหญ่จากทางเมือง Ramat Hasharon (สถานที่เกิดการระเบิด) ใช้เวลาสามหรือสี่วินาที ผมคิดว่ามันอาจจะเป็นขีปนาวุธ" แม้ว่าความจริงแล้วความรุนแรงของการระเบิดของเอลบิตจะเป็นวงกว้างมาก แต่แหล่งข่าวอย่างเป็นทางการของเทลอาวีฟระบุว่า การระเบิดของแคปซูลแก๊สและการรั่วไหลของสารเคมีเป็นสาเหตุของการระเบิดครั้งนี้ แต่ทว่าการระเบิดของแคปซูลแก๊สจะไม่เป็นสาเหตุทำให้เกิดควันเหมือนดอกเห็ด! ก่อนหน้านี้สื่อต่างๆ ก็รายงานเช่นกันว่า เมื่อวันที่ 1 เดือนทีร 1402 (เดือนอิหร่าน) เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ในโกดังเก็บสารเคมีของกองทัพในเมือง Herzliya (ทางเหนือของ Tel Aviv) ซึ่งทำให้เกิดหลุมลึกและควันสีขาวรูปดอกเห็ด และภาพหลุมระเบิดนั้นไม่สามารถเซ็นเซอร์ได้โดยพวกไซออนิสต์ แม้ว่าแหล่งข่าวในเทลอาวีฟจะอธิบายที่มาของการระเบิดอีกครั้งว่าไม่ชัดเจนก็ตาม

เราถูกล้อมรอบด้วยขีปนาวุธ

         ในอีกด้านหนึ่ง พวกไซออนิสต์เห็นว่าสถานการณ์ด้านความมั่นคงของพวกเขาตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากพลังขีปนาวุธของกองกำลังต่อต้าน จนกระทั่ง " Ishaq Brik " นายพลสำรองของกองทัพไซออนิสต์ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวช่อง 13 ของเทลอาวีฟว่า ศัตรูของเรามี เข็มขัดที่ล้อมรอบอิสราเอลไว้ ผมเรียกมันว่า "suffocating ring" (วงแหวนที่ทำให้หายใจไม่ออก) เพราะมีจรวดและมิซไซล์มากกว่า 250,000 ลูกล้อมรอบเราจากทุกด้าน  “Ishaq Brik” กล่าวเสริมว่า: "ศัตรูของเรามีขีปนาวุธแบบติดหัวรบหลายร้อยกิโลกรัมจำนวนนับพันและมีโดรนจำนวนนับพัน"  “Isaac Brik” ยังยอมรับด้วยว่า : "วันนี้เราอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายที่สุด เราต้องรับมือกับห้าแนวรบในเวลาเดียวกัน แนวรบทั้งห้านี้ ได้แก่ ฮิซบุลเลาะฮ์ในเลบานอน ซีเรีย ฮามาสและญิฮาดในฉนวนกาซา และแนวรบเวสต์แบงก์

         นอกจากนี้ สถานีข่าวช่อง 13 ของระบอบไซออนิสต์ยังประกาศว่า แหล่งข่าวในคณะรัฐมนตรีของเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวว่าข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับสถานะความพร้อมของกองทัพถูกเก็บเป็นความลับ ไม่เพียงแต่จากคณะอนุกรรมการและประชาชนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจากรัฐมนตรีด้วย

         นอกจากนี้ มอเรีย โวลเบิร์ก (Moriah Wahlberg) นักวิเคราะห์การเมืองของสถานีโทรทัศน์ช่อง 13 ของระบอบไซออนิสต์ได้กล่าวว่า : "ความพยายามของนายกรัฐมนตรีในการปิดบังความพร้อมของกองทัพยังคงดำเนินต่อไป ในการประชุมกับผู้นำระดับสูงของกองทัพและเสนาธิการ เมื่อวันอาทิตย์นั้น สอดคล้องกับการแนะนำการประชุมลับของคณะกรรมการกิจการต่างประเทศและความมั่นคง ซึ่งจะจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า เนทันยาฮูบอกกับพวกเขาว่า การประชุมครั้งนี้มิควรแก่การพิจารณา ทุกสิ่งที่พวกคุณพูดจะรั่วไหลออกไป”

ที่มา: ญะฮอนนิวส์

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม