foto1
foto1
foto1
foto1
foto1

In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم

Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم

ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You

WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center

ภาพ-นิทรรศการ

25,10,0,50,1
5,600,50,1,3000,500,25,800
100,150,1,50,12,30,50,1,70,12,1,40,1,1,1,3000
0,1,0,0,2,40,15,5,2,1,0,17,0,1
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...

การฆ่าตัวตายหมู่กำลังรอคอยไซออนิสต์ หากเกิดการโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซา

           ปฏิบัติการ "พายุอัล-อักซอ" ซึ่งนำไปสู่การถูกสังหารและการถูกจับกุมเป็นเชลยของชาวไซออนิสต์จำนวนหลายพันคน การบดขยี้ "ความน่าเกรงขามของอิสราเอล" และอำนาจในการป้องปรามของระบอบนี้นั้น ได้ทำให้ความมุ่งมาตรปรารถนาของระบอบการปกครองนี้ที่จะ "กำจัดการดำรงอยู่และอัตลักษณ์ของชาวปาเลสไตน์ด้วยการใช้กำลัง" ถูกฝังลงไปกับดิน

           ภายหลังจากปฏิบัติการ "พายุอัลอัก-ซอ" ชาวไซออนิสต์จำนวนหลายพันคนถูกสังหารและถูกจับเป็นเชลย การบดขยี้ "ความน่าเกรงขามของอิสราเอล" และการขยี้จมูกของมันลงกับพื้นดิน และการทำลายอำนาจในการป้องปรามของระบอบการปกครองนี้ การทำสงครามกับระบอบไซออนิสต์และบรรดาผู้สนับสนุนของมันได้เข้าสู่ขั้นตอนใหม่แล้ว ขั้นตอนที่จะไม่มีการพูดถึง "กองทัพที่อยู่ยงคงกระพัน" (หมายถึงกองทัพอิสราเอล) อีกต่อไป และความปรารถนาของระบอบการปกครองนี้ที่จะ "ถอนรากถอนโคนการดำรงอยู่และอัตลักษณ์ของชาวปาเลสไตน์ในดินแดนปาเลสไตน์โดยใช้กำลัง" และ "ความฝันที่จะผลักดันประเด็นชาวปาเลสไตน์ให้ไปอยู่ชายขอบภายใต้ร่มเงาของการประนีประนอม" กระบวนการ" ก็ถูกฝังลงไปกับดิน

          ในการเผชิญกับชัยชนะที่กึกก้องและเป็นประวัติการณ์เช่นนี้ของกองกำลังต่อต้านแห่งปาเลสไตน์  "อิสราเอล" ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพยายามหาทางปกปิดความพ่ายแพ้ที่ไม่อาจปฏิเสธได้นี้ ด้วยเหตุนี้อิสราเอลจึงรีบรุดหันไปซบอกสหรัฐฯ ผู้สนับสนุนของตนอีกครั้ง ซึ่งสหรัฐฯ ก็ไม่ลังเลใดๆ เลยที่จะช่วยเหลือระบอบการปกครองนี้ และจะช่วยยกระดับขวัญกำลังใจที่พังทลายลง นอกเหนือจากการโจมตีทางอากาศอันโหดร้ายในฉนวนกาซา ด้วยการส่งเสริมและมุ่งเน้นไปที่ทางเลือกของการโจมตีภาคพื้นดินในภูมิภาคนี้ อิสราเอลได้เปิดตัวสงครามจิตวิทยาในวงกว้างต่อประชาชนที่ไร้การปกป้องของฉนวนกาซาเคียงข้างกับอาณาจักรสื่อของสหรัฐฯ และตะวันตก

          ในเวลาเดียวกันกับที่องค์การสหประชาชาติประกาศโดยอ้างจากกองทัพอิสราเอลว่า ผู้อยู่อาศัยทางตอนเหนือของฉนวนกาซาทั้งหมดจะต้องย้ายไปทางใต้ของพื้นที่นี้ภายใน 24 ชั่วโมง ระบอบการปกครองที่ยึดครองดินแดนนี้ได้มุ่งเน้นไปที่การแพร่ข่าวลือเรื่องการเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซาและ "การทำลายล้างกลุ่มฮามาสให้สิ้นซากตลอดไป" ในระหว่างนี้ ก็ยังคงโจมตีทางอากาศอย่างโหดร้ายและไร้จุดหมายต่อฉนวนกาซา และใช้อาวุธต้องห้าม เช่น ฟอสฟอรัสขาว ในปฏิบัติการนี้ การโจมตีเหล่านี้นำไปสู่การเสียชีวิต (มรณะสักขี) ของชาวปาเลสไตน์ 1,951 ราย และอีกกว่า 6,000 รายได้รับบาดเจ็บ

           เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ และยุโรปรีบรุดไปยังเทลอาวีฟตามปฏิบัติการจิตวิทยาของระบอบไซออนิสต์ และในความพยายามที่จะยืนยันข่าวลือเกี่ยวกับการโจมตีภาคพื้นดินของรัฐบาลนี้ในฉนวนกาซา ตลอดจนการประกาศเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับอาชญากรรมที่ดำเนินอยู่ของระบอบการปกครองนี้ ในบรรดาเจ้าหน้าที่เหล่านี้ เราสามารถพูดถึง "เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน" ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และ "โรเบอร์ตา เมตซูลา" ประธานรัฐสภายุโรป และรัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนี แคนาดา อิตาลี ฝรั่งเศส สหรัฐ และสหราชอาณาจักร ซึ่งทุกคนเห็นด้วยกับสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "สิทธิในการป้องกันตัวเอง" สำหรับระบอบการปกครองนี้ และด้วยการเคลื่อนไหวนี้ พวกเขาให้ไฟเขียวแก่ระบอบนี้สำหรับการโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซา แม้แต่พวกเขาบางคน รวมทั้ง "แอนโธนี บลินเกน" รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ  ยังได้เรียกร้องให้สร้างเส้นทางที่ปลอดภัยสำหรับชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซาไปยังอียิปต์ เพื่อ "ช่วยพวกเขาให้รอดจากชะตากรรมที่แน่นอนของพวกเขา" ซึ่งก็คือความตาย

           วันนี้ ในวันที่แปดของปฏิบัติการพายุอัล-อักซอ แม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนทางทหารและอาวุธจากสหรัฐอเมริกาและตะวันตก และได้รับการสนับสนุนจากกองเรือ เรือบรรทุกเครื่องบิน และทางเดินทางอากาศ แต่ระบอบไซออนิสต์ก็ยังคงครุ่นคิดอยู่ว่าจะเปิดการโจมตีทางภาคพื้นดินต่อฉนวนกาซาหรือไม่? และนี่แสดงให้เห็นว่ากองทัพของระบอบการปกครองนี้มีความหวั่นกลัวต่อความคิดที่จะโจมตีฉนวนกาซามากเพียงใด พวกเขารู้ดีว่าการโจมตีดังกล่าวเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายหมู่ เพราะฉนวนกาซาไม่เหมือนที่อื่นในโลก มีเหล่าบุรุษผู้เข้มแข็งที่รักการพลีชีพ (มรณะสักขี) พอๆ กับที่ชาวไซออนิสต์รักและผูกพันต่อชีวิตทางโลกนี้ ฉนวนกาซาเป็นสถานที่ซึ่งพลังอำนาจเดือดพล่านจากใต้ดินของมัน และเหล่าบุรุษของกองกำลังต่อต้านโผล่ขึ้นมาจากพื้นดินและมาจากท้องฟ้า ดังที่เราได้เห็นในปฏิบัติการ "พายุอัล-อักซอ"

           "อิสราเอล" จะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อระบายความโกรธและล้างแค้นให้กับความน่าเกรงขามที่สูญเสียไปในช่วง 8 วันที่ผ่านมา และตอนนี้ก็ไม่มีอะไรอีกแล้วที่พวกเขาสามารถจะทำได้ ระบอบการปกครองนี้สามารถสังหารประชาชนธรรมดาและทำลายบ้านเรือนของพวกเขา สามารถตัดน้ำ ยา ไฟฟ้า อาหาร และเชื้อเพลิงต่อพวกเขา แต่พวกเขาไม่สามารถขับไล่ประชาชนเหล่านี้ออกจากบ้านและที่ดินของพวกเขาได้อีกต่อไป

           วันนี้ฉนวนกาซาอยู่ในการปกป้องของเหล่าบุรูษผู้มีความแข็งแกร่งและแกนต่อต้าน (มุกอวะมะฮ์) แห่งปาเลสไตน์และชาติอาหรับทั้งหลายก็สนับสนุนฉนวนกาซาด้วย ดังนั้น "นักบะฮ์" (Nakbah Day) ใหม่จะไม่เกิดขึ้นอีก และคำพูดโวยวายคุยโตและสงครามจิตวิทยาของผู้นำของระบอบการปกครองที่ยึดครองดินแดนนี้ เป็นเพียงการแสดงให้เห็นถึงความคับแค้นใจที่รุนแรงและความปราชัยของพวกเขาต่อฉนวนกาซา การต่อต้านที่ทะลุกำแพงอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและเจาะลึกเข้าไปในปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง และสังหารหรือจับกุมชาวไซออนิสต์หลายพันคนนั้นสามารถสนับสนุนกองกำลังต่อสู้ของตนได้ และหากพวกเขาต้องการพวกเขาก็เริ่มต้นพายุลูกใหม่ในอนาคต

           หลังจากตำนานปฏิบัติการพายุอัล-อักซอของปาเลสไตน์ กองทัพไซออนิสต์ไม่มีแรงจูงใจและจิตวิญญาณที่จะโจมตีทางภาคพื้นดินต่อฉนวนกาซา ดังนั้นระบอบไซออนิสต์จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องกลับมามีสติและนำเชลยกลับคืนมาในรูปแบบของข้อตกลงเพื่อแลกกับการปล่อยตัวเชลยชาวปาเลสไตน์และการอพยพผู้ตั้งถิ่นฐานของตนที่อยู่รอบฉนวนกาซาออกไปให้หมด หรือมิเช่นนั้นก็จะต้องเตรียมตัวรับมือกับกองพันอัล-ก็อซซามและกองพันกุดส์ เหล่าบุรุษที่ทรงพลังและแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าเหล่าบุรุษของ "อะรีน อัล-อุซูด" (อาณาจักรราชสีห์ ชื่อของกองกำลังหนึ่งของปาเลสไตน์) ในค่ายเจนิน และการเผชิญหน้าครั้งนี้สำหรับไซออนิสต์ จะไม่ได้หมายถึงความตายที่แน่นอน หรือการถูกทำลายของฉนวนกาซา


ที่มา : บทวิเคราะหสำนักข่าว อัล อาลัม

แปลและเรียบเรียง : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

ศูนย์สารสนเทศอิสลามสถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม