กองกำลังสหรัฐฯ กำลังจะถอนตัวออกจากฐานทัพอัล-ทันฟ์ ที่ตั้งอยู่ใกล้พรมแดนทางใต้ของซีเรียไปยังตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศนี้

      อัฟการ์นิวส์รายงานว่า กองกำลังสหรัฐฯ กำลังจะถอนตัวออกจากฐานทัพอัล-ทันฟ์ ในพรมแดนทางใต้ของซีเรียไปยังตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศนี้

      สำนักข่าวสปุตนิกของรัสเซียประกาศว่า รัสเซียและสหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันที่กองกำลังสหรัฐฯ และกลุ่มก่อการร้ายในสังกัดของสหรัฐฯ จะถอนตัวออกจากจากฐานทัพอัล-ทันฟ์ ในบริเวณชายแดนซีเรียที่ติดกับอิรักและจอร์แดน

      รัสเซียได้ประกาศเมื่อปีที่แล้วว่า ฐานทัพของสหรัฐฯ ในพื้นที่อัล-ทันฟ์ ของซีเรียนั้นผิดกฎหมายและด้วยสาเหตุของการดำเนินงานของศูนย์ทหารนี้ทำให้ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียนับหมื่นคนไม่สามารถรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้

      อัล-ทันฟ์ (Al-Tanf)  เป็นชื่อหมู่บ้านที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในทะเลทราย (อัล-บาดียะฮ์) ของซีเรีย ในพื้นที่สามเหลี่ยมของพรมแดนระหว่างซีเรีย อิรักและจอร์แดน

      ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าปฏิบัติการถอนกองกำลังติดอาวุธในสังกัดของสหรัฐฯ จะเริ่มต้นขึ้น และการเตรียมพร้อมสำหรับการถอนทหารอเมริกันออกจากพื้นที่ไปยังตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศซีเรีย ก็จะได้รับการเตรียมการต่อไป

      แหล่งข่าวกล่าวเสริมว่า : การถอนตัวของกลุ่มติดอาวุธออกจากพื้นที่ชายแดนมีความคล้ายคลึงกับปฏิบัติการในการเคลื่อนย้ายผู้ก่อการร้ายจากพื้นที่อื่นๆ อย่างเช่น ดาร์อา, กุนัยฏิเราะฮ์และกูตาตะวันออกโดยอาศัยข้อตกลงร่วมกันกับกองทัพซีเรีย

      ตามข้อตกลงนี้ บรรดากลุ่มติดอาวุธทุกคนที่ดำเนินการเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่นี้และอยู่ในสังกัดของกองกำลังสหรัฐฯ ในฐานทัพอัล-อันฟ์ จำเป็นต้องออกจากพื้นที่นี้ด้วย และบรรดาผู้ติดอาวุธที่ต้องการกลับสู่อ้อมอกของประเทศก็สามารถเข้าร่วมขบวนการปรองดองแห่งชาติได้

      บรรดาผู้ติดอาวุธที่ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการปรองดองแห่งชาติจำเป็นจะต้องถูกเคลื่อนย้ายไปยังเมืองจาราโบลัส (Jarabulus) ในภาคเหนือของซีเรีย

      ตามข้อตกลงระหว่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกา ค่ายอัล-รุกบาน (Al-Rukban) ในภาคใต้ของซีเรียจะต้องถูกรื้อถอน

      อย่างไรก็ตามผู้ลี้ภัยชาวซีเรียประมาณ 80,000 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สนับสนุนรัฐบาลซีเรียและตกอยู่ในการปิดล้อมของกองทหารอเมริกันและกลุ่มติดอาวุธในสังกัดนั้นจะได้เดินทางกลับไปยังเมืองต่างๆ ของตน

      ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยสาเหตุของการล่วงละเมิดของกลุ่มติดอาวุธทำให้บรรดาผู้พักอาศัยในค่ายนี้ได้ชุมนุมประท้วงหลายครั้งและเรียกร้องที่จะออกจากศูนย์กักกันใหญ่แห่งนี้และกลับไปยังเมืองและหมู่บ้านของพวกเขา

     แหล่งข่าวกล่าวเสริมว่า : การดำเนินการตามข้อตกลงนี้ได้ล่าช้าเนื่องจากความขัดแย้งในระหว่างกลุ่มติดอาวุธโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม "ญัยชุลอะชาอิร" และกองกำลังของอะห์มัด อัล อับดู

ที่มา : อัฟการ์นิวส์

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม