foto1
foto1
foto1
foto1
foto1

In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم

Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم

ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You

WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center

ภาพ-นิทรรศการ

25,10,0,50,1
5,600,50,1,3000,500,25,800
100,150,1,50,12,30,50,1,70,12,1,40,1,1,1,3000
0,1,0,0,2,40,15,5,2,1,0,17,0,1
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...

วอชิงตันตั้งข้อหาอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองชาวอเมริกัน สอดแนมให้อิหร่าน

รอยเตอร์อ้างว่า เจ้าหน้าที่ต่อต้านการสอดแนมของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาซึงมีนามว่า "โมนิกา เอลฟรีด วิตต์" (Monica Elfriede Witt) ถูกดึงดูดให้แปรพักตร์เป็นสายลับโดยหน่วยข่าวกรองของอิหร่านในปี 2013…..

    ตามรางานของสำนักข่าวฟาร์ส  สหรัฐอเมริกาได้ตั้งข้อหาอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองหญิงชาวอเมริกันว่าทำการสอดแนมให้อิหร่าน

    ในวันพุธ (13 ก.พ.) ที่ผ่านมา อัยการสหรัฐฯ ได้ตั้งข้อกล่าวหานางสาว "โมนิกา เอลฟรีด วิตต์" ว่าเธอทำงานเป็นสายลับให้อิหร่าน นางสาวโมนิกา วิตต์ เป็นพลเมืองของสหรัฐอเมริกาและเป็นอดีตผู้เชี่ยวชาญในแผนกข่าวกรองของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เธอได้รับคัดเลือกให้เข้ามาอยู่ในหน่วยนี้เมื่อเดือนสิงหาคม 1997 และทำงานอยู่ในหน่วยนี้จนถึงเดือนมีนาคม 2008

    ตามข้อมูลในคำฟ้อง นางสาววิตต์ได้เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในตะวันออกกลางตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 1999 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2003 เพื่อปฏิบัติภารกิจลับใน "ประเทศต่างๆ ที่เป็นปฏิปักษ์กับสหรัฐอเมริกา"

    คำฟ้องดังกล่าวยังระบุด้วยว่า นางสาววิตต์ เข้าถึงข้อมูลลับและข้อมูลระดับลับสุดยอดของสหรัฐฯ รวมถึงชื่อจริงของแหล่งข่าวกรองและบรรดาผู้ปฏิบัติภารกิจลับของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ นางสาววิตต์ถูกกล่าวหาว่าหลังจากที่เธอเดินทางไปยังอิหร่าน เธอได้เปิดเผยรายชื่ออดีตเพื่อนร่วมงานของเธอ

ขณะนี้ทางการสหรัฐฯ ออกหมายจับ น.ส. โมนิกา ซึ่งคาดว่ายังหลบหนีอยู่ในอิหร่าน

    อัยการชาวอเมริกันได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า เธอได้ให้ชื่อรหัสลับและภารกิจการต่างๆ ของแผนการลับจากเพนตากอนแก่เจ้าหน้าที่อิหร่าน นอกจากนี้เธอยังถูกกล่าวหาว่าให้ความร่วมมือกับสมาชิกของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC) อีกด้วย

    คำฟ้องนี้ยังได้ระบุอีกว่า ในเดือนสิงหาคม 2013 นางสาววิตต์ได้มอบสำเนาประวัติส่วนตัวและประวัติการทำงานของเธอให้กับหน่วยข่าวกรองของอิหร่านอย่างไร

    ขณะนี้ทางการสหรัฐฯ ออกหมายจับ น.ส. โมนิกา ซึ่งคาดว่ายังหลบหนีอยู่ในอิหร่าน และอิหร่านได้จัดหาที่พักและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้แก่เธอ

    อัยการของสหรัฐฯ อ้างว่า นางสาวโมนิกา วิตต์ ได้เดินทางไปอิหร่านในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2012 เพื่อเข้าร่วมการประชุม "Hollywoodism" ที่จัดโดยองค์กร "อุฟุก นิว" (New Horizon Organization)  และยังได้อ้างอีกว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเองที่นางสาววิตต์ได้แนะนำตัวเองเป็นในหนึ่งหรือหลายคลิปวิดีโอของตนในฐานะอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และได้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐฯ เธอเองก็ทราบดีว่าถ้อยแถลงเหล่านี้ของเธอจะถูกเผยแพร่ออกอากาศโดยสื่อต่างๆ ของอิหร่าน

นางสาวโมนิกา วิตต์ ได้เดินทางไปอิหร่านในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2012 เพื่อเข้าร่วมการประชุม "Hollywoodism" ที่จัดโดยองค์กร "อุฟุก นิว" (New Horizon Organization)


ที่มา : สำนักข่าวฟาร์ส

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม