หนังสือพิมพ์อัล อัคบาร์ของเลบานอนได้เขียนโดยอ้างแหล่งข่าวของตนว่า การเสียชีวิตของบุตรชายของผู้ปกครองรัฐชาร์จาห์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เกิดจากความขัดแย้งระหว่างบรรดาผู้ปกครองของดูไบเกี่ยวกับกรณีสงครามในเยเมน โดยคำสั่งของมกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี

     หนังสือพิมพ์อัล อัคบาร์ของเลบานอน ในรายงานหนึ่งในหัวข้อ "การเสียชีวิตของคอลิด อัล กอซิมี ในกรุงลอนดอน : เป็นการการลอบสังหารโดยคำสั่งของ บินซายิดหรือไม่?" ซึ่งได้มีรายงานเกี่ยวกับการทวีความรุนแรงของการพิพาทระหว่างบรรดาผู้ปกครองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เกี่ยวกับกรณีสงครามเยเมน ซึ่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องของมันกลายเป็นห่วงโซ่ของการนองเลือดต่างๆ ภายในราชวงศ์ของผู้ปกครองสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

     ในรายงานนี้ได้กล่าวว่า : เมื่อไม่กี่วันหลังจากการเดินทาง (หลบหนี) ของเจ้าหญิง "ฮายา บิน ฮุสเซน" คู่สมรสของ "มุฮัมมัด บินรอชิด" ผู้ปกครองของดูไบและน้องสาวของกษัตริย์อับดุลลอฮ์ที่สองแห่งจอร์แดนไปยังยุโรปและพำนักอาศัยอยู่ในอังกฤษ ข่าวการเสียชีวิตของ "คอลิด บินสุลต่าน" บุตรชายวัย 39 ปีของ "สุลต่าน บินมุฮัมมัด อัล กอซิซมี่" เจ้าเมืองชาร์จาห์ ก็ได้รับการรายงานในวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมาในประเทศอังกฤษ การเสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังคงคลุมเครือไม่เป็นที่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสืบสวนของตำรวจลอนดอนเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนักธุรกิจเอมิเรตส์และเจ้าของบริษัท "Qasimi fashion label" จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับบทสรุปที่น่าพอใจเกี่ยวกับการตายของเขา

     หนังสือพิมพ์เลบานอนฉบับนี้ได้กล่าวว่า : สิ่งที่ทำให้เกิดความคลุมเครือมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสาเหตุการตายของเจ้าชายคอลิดคือการรีบร้อนในการจัดพิธีฝังศพของเขาก่อนที่จะทำการชันสูตรศพ และนั่นก็เกิดขึ้นในขณะที่ มุฮัมมัด บินซายิด มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบีและมุฮัมมัด บินรอชิดผู้ปกครองของดูไบ ไม่ได้เข้าร่วมพิธีดังกล่าว ทั้งๆ ที่บุคคลทั้งสองอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

     อัล อัคบาร์กล่าวเสริมว่า : "ด้วยเหตุนี้เหตุการณ์ฉับพลันใหม่อีกเหตุการณ์หนึ่งจึงถูกเพิ่มเข้าไปในประวัติศาสตร์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการรัฐประหารและการนองเลือดต่างๆ ภายในราชวงศ์ของผู้ปกครองของประเทศนี้ และทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยมากมายขึ้นทั้งในและนอกประเทศอังกฤษเกี่ยวกับชะตากรรมของบุตรชายคนสุดท้ายของผู้ปกครองเมืองชาร์จาห์

     อัล อัคบาร์ได้เขียนบนพื้นฐานข้อมูลของตนที่ได้รับมาว่า : คอลิด อัลกอซิมี่ ถูกลอบสังหารโดยคำสั่งของมุฮัมมัด บินซายิด ในระหว่างการปฏิบัติการที่ซับซ้อน ซึ่งเขาได้เตรียมการมาเป็นเวลาหลายเดือน และการตัดสินใจสังหารเขาได้เกิดขึ้นหลังจากรายงานต่างๆ ด้านความมั่นคงได้ถูกนำเสนอแก่มุฮัมมัด บินซายิด ว่า มีการติดต่อสัมพันธ์กันระหว่างเจ้าชายสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ถูกลอบสังหารผู้นี้กับหน่วยความมั่นคงของซาอุดิอาระเบีย ภายใต้การบัญชาการของมุฮัมมัด บินซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย

     ตามคำพูดของแหล่งที่มาดังกล่าว รายละเอียดของความเกี่ยวพันดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนและยังคงเป็นสิ่งคลุมเครือสำหรับหน่วยความมั่นคงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่ถ้าหากประเด็นนี้เป็นเรื่องจริง การลอบสังหารเจ้าชายคอลิดก็จะถูกกระทำด้วยสองเป้าหมาย :

ประการแรก เพื่อเป็นข้อความถึงบินซัลมานให้รับรู้ว่า บรรดาผู้นำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีอำนาจในการควบคุมการติดต่อสื่อสารต่างๆ ของซาอุดีอาระเบียกับแกนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา และมีความสามารถในการหยุดคนเหล่านั้น

ประการที่สอง เป็นข้อความเตือนทางอ้อมต่อบรรดาเจ้าชายคนอื่น ๆ เพื่อเป็นการยับยั้งการติดต่อสื่อสารลับของพวกเขากับซาอุดิอาระเบีย

    การตายอย่างลึกลับของ คอลิด อัล กอซีมี่ เกิดขึ้นในขณะที่ความขัดแย้งระหว่าง บินซัลมานและบินซายิด ในบางประเด็นในภูมิภาคโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นสงครามเยเมน ซึ่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ส่งข้อความไปยังหลายประเทศเพื่อบอกให้รู้ถึงตวามต้องการของตนที่จะถอนตัวออกจากสงครามเยเมนและการเผชิญหน้ากับอิหร่าน รวมถึงความปรารถนาในความสงบและการยุติสงคราม  ซึ่งตรงข้ามกับซาอุดิอาระเบียที่กำลังปลุกปั่นสหรัฐอเมริกาให้ทำสงครามกับอิหร่าน

     ความขัดแย้งระหว่างบินซายิดและผู้ปกครองชาร์จาห์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ล่าสุดเพียงเท่านั้น แต่มีรากฐานมาจากความเห็นต่างๆ ที่ซ่อนอยู่และความขัดแย้งในผลประโยชน์ระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับจากช่วงเวลาที่อาบูดาบีจะตัดสินใจแทนผู้ปกครองสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ทั้งหมด และตามบางข้อมูลอาบูดาบีกำลังหาทางทำการรัฐประหารต่อต้านอัล กอซิมี่ เพื่อครอบครองก๊าซธรรมชาติในพื้นที่อัล ฮัมรียะฮ์ (Al Hamriya) และบ่อน้ำมันในพื้นที่อัล ศ็อจอะฮ์ (Al Saja'a) และด้วยวิธีนี้จะช่วยชดเชยการขาดดุลงบประมาณที่เกิดจากการเข้าสู่สงครามเยเมนของบินซายิดได้

     การลอบสังหารอัล กอซิมี่ เกิดขึ้นด้วยวิธีการที่คล้ายคลึงกันมากกับการลอบสังหารฟาอิซะฮ์ อัล บะรีกี ภรรยาของเชคฮัมดาน อัล นะฮ์ยานในปี 2016 ในกรุงลอนดอนและการลอบสังหารมุฮัมมัดลูกชายของนาง ซึ่งเกิดขึ้นสามเดือนต่อมาในเมืองเดียวกัน หากข่าวลือเกี่ยวกับสาเหตุารตายของอัล กอซีมี่ เป็นความจริงแล้วดูเหมือนว่าข้อต่อสุดท้ายของบ่วงโซ่แห่งการนองเลือดในระหว่างราชวงศ์ผู้ปกครองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็เป็นเพราะความขัดแย้งอย่างต่อเนื่องในเรื่องของอิทธิพลและอำนาจ

ที่มา : อัล อาลัม

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม