ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจของเว็บไซต์ยาฮูไฟแนนซ์เขียนเมื่อเช้าวันนี้ว่า : “อิหร่านมีอำนาจต่างๆ หลายด้าน ซึ่งหากถูกนำมาใช้มันสามารถที่จะสกัดกั้นไม่ให้โดนัลด์ทรัมป์ชนะตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2020 ได้”

    ริค นิวแมน เขียนในรายงานวิเคราะห์ว่า : จริงอยู่ที่ว่ารัฐบาลทรัมป์สามารถกดดันเศรษฐกิจอิหร่านอย่างไม่เคยมีมาก่อนด้วยการคว่ำบาตรได้ แต่ในทางกลับกันอิหร่านก็มีศักยภาพต่างๆ ในภูมิภาคซึ่งหากใช้มันสามารถที่จะทำให้ชนะการเลือกตั้งในปีหน้าของทรัมป์ไม่ใช่เรื่องง่าย

    นิวแมนได้เขียนว่า อิหร่านสามารถกดดันรัฐบาลสหรัฐฯ ได้อย่างหนักหน่วงโดยการปรับขึ้นราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งสามารถชดเชยการขาดดุลงบประมาณในระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา โดยการจำกัดการขายน้ำมัน

    ตามรายงานนี้ หากอิหร่านกดดันราคาน้ำมันอย่างเพียงพอจะทำให้ปัญหาของทรัมป์แย่ลงและเป็นอันตรายต่อการเลือกตั้งของเขา เนื่องจากจะทำให้ราคาน้ำมันเบนซินสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออาชีพต่างๆ ของสหรัฐฯ ที่ขึ้นอยู่กับน้ำมัน

    สหรัฐอเมริกามีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ผ่านมาและไม่ต้องพึ่งพาพลังงานนำเข้าอีกต่อไป อย่างไรก็ตามเนื่องจากน้ำมันเป็นสินค้าระดับโลก การขาดแคลนน้ำมันไม่ว่าจะที่ใดก็ตามจึงส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันทั้งหมด

    ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจของยาฮูนิวส์ย้ำว่า : หากอิหร่านสามารถสกัดดกั้นการผลิตน้ำมันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งปี 2020 ก็จะทำให้ราคาน้ำมันเบนซินสูงขึ้นและจะสร้างปัญหาให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (นอกเหนือจากปัญหาอื่นๆ ทั้งหมด)

    ราคาน้ำมันเบนซินในสหรัฐอเมริกาปัจจุบันอยู่ที่ 2.67 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และเหตุการณ์ล่าสุดในซาอุดิอาระเบียคาดว่าจะทำให้ราคาเบนซินในสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้น

    ตามคำพูดของผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ พลเมืองสหรัฐฯ จะทนต่อราคาน้ำมันเบนซินที่ต่ำกว่า 3.50 ดอลลาร์ แต่ถ้าราคาสูงกว่า 4 ดอลลาร์ระดับแนวโน้นการประท้วงในประเทศจะเพิ่มขึ้น

    สำนักข่าวรอยเตอร์ก็รายงานในเรื่องนี้เช่นกันว่า : การโจมตีโรงงานน้ำมันของซาอุดิอาระเบียเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมาได้ทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันของโลกลดลงมากกว่า 5% และราคาน้ำมันปรับขึ้นถึง 20%

ที่มา : อัล อาลัม

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม