Asriran : เมื่อวันจันทร์ ที่ 24 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียมีประกาศควบคุมการใช้ระดับเสียงลำโพงที่ดังในมัสยิดต่าง ๆ เนื่องจากมีร้องเรียนจากผู้ปกครองจำนวนมากว่า เสียงที่ดังจากลำโพงของมัสยิดรบกวนการนอนพักผ่อนของลูก ๆ พวกเขา

     กระทรวงกิจการอิสลามของซาอุดีอาระเบียได้ออกคำสั่งให้ประกาศว่า จากนี้ไปจำเป็นต้องลดระดับเสียงของลำโพงในมัสยิดต่าง ๆ เหลือระดับความดังหนึ่งในสามของระดับปกติ

     "อับดุลละฏีฟ อัล ชัยค์" รัฐมนตรีกระทรวงกิจการอิสลามของซาอุดิอาระเบีย ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ลำโพงที่ใช้ในมัสยิดทั้งหมด จำเป็นจะต้องปรับลดระดับเสียงของมันให้เท่ากับหนึ่งในสามของระดับเสียงที่ใช้อยู่ปัจจุบัน

     เขากล่าวเสริมว่า มาตรการนี้ได้รับการดำเนินการเพื่อตอบสนองต่อข้อร้องเรียนของประชาชน

     คำสั่งดังกล่าวได้กระตุ้นปฏิกิริยาอย่างกว้างขวางในเครือข่ายสังคมของประเทศอิสลามและกลุ่มอนุรักษ์นิยมของซาอุดีอาระเบีย

     ในขณะที่การประกาศนี้ถูกบังคับใช้ แฮชแท็กที่เรียกร้องให้ห้ามเปิดเพลงดังในร้านกาแฟและร้านอาหารก็กลายเป็นเทรนด์ด้วยเช่นกัน

   รัฐมนตรีกระทรวงกิจการอิสลามของซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า : “ผู้ปกครองจำนวนมากร้องเรียนว่า เสียงที่ดังจากลำโพงของมัสยิดรบกวนการนอนพักผ่อนของลูก ๆ พวกเขา” พร้อมเสริมว่า การประกาศบอกเวลาละหมาดนั้น ยังมีช่องโทรทัศน์หลายช่องที่ออกอากาศการทำละหมาด

     "อับดุลละฏีฟ อัล ชัยค์" กล่าวในการปราศรัยทางโทรทัศน์ของรัฐบาลว่า บรรดาผู้ที่ต้องการละหมาดไม่จำเป็นต้องร้องขออิหม่ามญะมาอัตหรือต้องได้ยินเสียงอะซาน(การประกาศบอกเวลาละหมาด) ที่ดัง

      เขาเรียกบรรดาผู้ที่ออกมาวิจารณ์ทางสังคมออนไลน์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "ศัตรูของราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย" และอ้างว่าพวกเขาต้องการ "ปลุกปั่นความคิดเห็นของสาธารณชน"

   BBC เขียนว่า : “ข้อจำกัดเหล่านี้เกิดขึ้นในขณะที่ "มุฮัมมัด บินซัลมาน" มกุฎราชกุมารของซาอุดิอาระเบียกำลังพยายามเพื่อทำให้ซาอุดีอาระเบียเป็นเสรีนิยมมากขึ้น โดยการลดบทบาทด้านศาสนาในชีวิตของสาธารณะชน”

    อย่างไรก็ตามข้อจำกัดทางสังคมหลายประการของประเทศนี้ได้รับการผ่อนคลายไปแล้วก่อนหน้านี้ เช่น การห้ามไม่ให้ผู้หญิงขับรถ แต่ยังคงมีข้อจำกัดเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงออก และผู้วิภากษ์วิจารณ์ ซึ่งหลายพันคนถูกจับกุมดำเนินคดีและจำคุก

      ก่อนหน้านี้ ภารกิจของกองกำลัง "กำชับความดี" (อัล อัมรุ บิลมะอ์รูฟ) ในซาอุดิอาระเบียก็ได้ถูกจำกัดลง และสมาชิกของกองกำลังนี้ไม่มีสิทธิ์กักขังผู้คนอีกต่อไป

      ส่วนหนึ่งจากการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ได้แก่ การยกเลิกข้อกำหนดในการปิดร้านค้าในช่วงเวลาอะซาน (การประกาศบอกเวลาละหมาด)

ที่มา : Asriran

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม