พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสไว้ในคัมภีร์อัลกุรอานว่า :
وَ لَا تَرْكَنُواْ إِلىَ الَّذِينَ ظَلَمُواْ فَتَمَسَّكُمُ النَّارُ وَ مَا لَكُم مِّن دُونِ اللَّهِ مِنْ أَوْلِيَاءَ ثُمَّ لَا تُنصَرُونَ
"และพวกเจ้าอย่ามีจิตโน้มเอียงไปยังบรรดาผู้ที่อธรรม มิเช่นนั้นแล้วไฟนรกจะสัมผัสพวกเจ้า และสำหรับพวกท่านนั้นไม่มีผู้คุ้มครองอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ แล้วพวกท่านจะไม่ถูกช่วยเหลือ" [1]
โองการนี้ห้ามเราจากการมีจิตโน้มเอียงและการไว้วางใจต่อบรรดาผู้อธรรม ไม่ว่าการที่คนเราจะร่วมมือกับผู้อธรรมเพื่อให้บรรลุผลประโยชน์ต่างๆ ของตนเอง หรือการที่เขาจะนิ่งเงียบต่อความอธรรมของเขาที่กระทำกับผู้อื่นก็ตาม (อย่างเช่น การที่เขาจะกล่าวว่า ทำไมฉันจะต้องเอาตัวเองเข้าไปสู่ปัญหาและความขัดแย้งนี้ด้วย และอื่นๆ) ในฮะดีษ (วจนะ) บทหนึ่ง ท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ได้เตือนเราถึงผลพวงของความอธรรมและการกดขี่ว่า :
ثَلاثٌ مَن كُنَّ فيهِ فَهِىَ راجِعَةٌ عَلى صاحِبِها: اَلبَغىُ و المَكرُ و النَّكثُ
"สามประการที่มีอยู่ในบุคคลใดก็ตาม (ผลของ) มันจะย้อนกลับมาสู่ตัวเขาเอง นั่นคือ ความอธรรม การใช้เล่ห์เหลี่ยมกลลวง และการละเมิดสัญญา" [2]
ผลพวงต่างๆ ของความอธรรมที่ฮะดีษ (วจนะ) ได้กล่าวถึงนั้น วันหนึ่งมันจะย้อนกลับมาสู่บรรดาผู้ก่อไฟสงครามและผู้ที่ก่อการอธรรมต่อประชาชนของเยเมนและประเทศอิสลามอื่นๆ เราทราบดีว่า หลายเดือนมาแล้วที่รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย โดยการพึ่งพาอาศัยอเมริกาและตะวันตก พวกเขาได้ทิ้งระเบิดลงใส่ประชาชนชาวเยเมนและได้กระทำการกดขี่และละเมิดสิทธิของพวกเขา ในขณะที่คัมภีร์อัลกุรอานได้ห้ามเราจากการคบมิตรและการให้ความไว้วางใจต่อคนบางกลุ่ม (ที่เป็นสาเหตุหลักของการก่ออาชญากรรมและการกดขี่เหล่านี้) โดยกล่าวว่า :
وَ لَن تَرْضىَ عَنكَ الْيهَودُ وَ لَا النَّصَارَى حَتىَ تَتَّبِعَ مِلَّتهُمْ قُلْ إِنَّ هُدَى اللَّهِ هُوَ الهْدَى وَ لَئنِاتَّبَعْتَ أَهْوَاءَهُم بَعْدَ الَّذِى جَاءَكَ مِنَ الْعِلْمِ مَا لَكَ مِنَ اللَّهِ مِن وَلىِ وَ لَا نَصِيرٍ
“และชาวยิวและชาวคริสต์นั้นจะไม่พึงพอใจต่อเจ้า (โอ้มุฮัมมัด) จนกว่าเจ้าจะปฏิบัติตามศาสนาของพวกเขา จงกล่าวเถิด แท้จริงทางนำของอัลลอฮ์เท่านั้นคือทางนำ แน่นอนหากเจ้าปฏิบัติตามความใคร่ของพวกเขา หลังจากที่มีความรู้มายังเจ้าแล้ว ก็ย่อมไม่มีผู้คุ้มครองและผู้ช่วยเหลือใดๆ สำหรับเจ้าให้พ้นจากการลงโทษของอัลลอฮ์ได้" [3]
แม้โองการนี้จะกล่าวกับท่านศาสดา แต่ในความเป็นจริงแล้วมันกำลังเตือนเราว่า โอ้ชาวมุสลิมเอ๋ย! โดยการปฏิบัติตามกลุ่มประเทศตะวันตกที่สนับสนุนรัฐยิวของอิสราเอลนั้น จะไม่ทำให้พวกเจ้าไปถึงไหนได้ นอกจากจะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพวกเจ้ามากยิ่งขึ้น โดยที่พวกเขาได้วางแผนสำหรับสิ่งนี้ พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสไว้อย่างชัดเจนในอีกโองการหนึ่งของคัมภีร์อัลกุรอานว่า :
لَتَجِدَنَّ أَشَدَّ النَّاسِ عَدَاوَةً لِّلَّذِينَ آمَنُوا الْيَهُودَ وَالَّذِينَ أَشْرَكُوا
"แน่นอนเจ้าจะพบว่า หมู่ชนที่เป็นศัตรูที่รุนแรงที่สุดต่อบรรดาผู้ที่ศรัทธานั้นคือชาวยิวและบรรดาผู้ที่ตั้งภาคีแก่อัลลอฮ์" [4]
และสิ่งนี้ได้รับการพิสูจน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าสำหรับชาวมุสลิม ในตลอดช่วงเวลายาวนานหลายปีของการยึดครองกิบลัตแรกของชาวมุสลิม โดยระบอบไซออนิสต์ผู้กระหายเลือดนี้ เราควรที่จะต้องพึ่งพาพระผู้เป็นเจ้าแทนการพึ่งพาชาวยิวและชาวคริสต์ พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสว่า :
اللَّهُ لَا إِلَه إِلَّا هُوَ وَ عَلىَ اللَّهِ فَلْيَتَوَكَّلِ الْمُؤْمِنُونَ
"อัลลอฮ์ผู้ซึ่งไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ และต่ออัลลอฮ์เท่านั้นที่ผู้ศรัทธาพึงไว้วางใจ" [5]
ตามโองการนี้ชาวมุสลิมควรมอบหมายและให้ความไว้วางใจต่อพระผู้เป็นเจ้าเพียงเท่านั้น พระผู้เป็นเจ้ายังได้ทรงตรัสไว้ว่า จงอย่าปฏิบัติตามความใคร่และความปรารถนาต่างๆ ของชาวยิวและชาวคริสต์ ดังนั้นเราจำเป็นต้องเชื่อฟังคำสั่งของพระผู้เป็นเจ้า อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่เกี่ยวกับความรู้ ธุรกิจการค้าและอื่นๆ นั้นเป็นคนละส่วนกับการปฏิบัติตามและไม่ควรจะกลายเป็นประเด็นที่สับสน
บทสรุป :
เราได้กล่าวไปแล้วว่า พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสในคัมภีร์อ่านกุรอานว่า หากเราไว้วางใจและพื่งพาอาศัยบรรดาผู้อธรรม การลงโทษของนรกจะประสบกับเรา เราคือชาวมุสลิม และเมื่อใดก็ตามที่ได้ยินเสียงร้องของชาวมุสลิมที่กำลังถูกอธรรม เราจะต้องไม่เดินผ่านไปโดยไม่สนใจใยดี ขณะนี้เป็นที่น่าเศร้าใจ ที่รัฐบาลของซาอุดิอาระเบียโดยการเป็นพันธมิตรกับบรรดารัฐบาลผู้กดขี่ อย่างเช่นอเมริกา เป็นเวลาหลายเดือนมาแล้วที่พวกเขาได้ทิ้งระเบิดใส่ประชาชนชาวมุสลิมและเพื่อนบ้านชาวเยเมน
ดังนั้นตามคำสั่งของคัมภีร์อัลกุรอาน ชาวมุสลิมจำเป็นต้องไว้วางใจต่อพระผู้เป็นเจ้าพียงเท่านั้น และจะต้องปลดปล่อยประชาคมของตนจากความวุ่นวายและวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการปฏิบัติตามบรรดารัฐบาลเผด็จการและกดขี่ของตะวันตก
เชิงอรรถ :
[1] อัลกุรอานบท ฮูด โองการที่ 113
[2] นะฮ์ญุลฟะซฮหะฮ์, หน้าที่ 422, ฮะดีษที่ 1281
[3] อัลกุรอานบท อัลบะกาเราะฮ์ โองการที่ 120
[4] อัลกุรอานบท อัลมาอิดะฮ์ โองการที่ 82
[5] อัลกุรอานบท อัตตะฆอบุน โองการที่ 13
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม
In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم
Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم
ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You
WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center