foto1
foto1
foto1
foto1
foto1

In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم

Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم

ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You

WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center

ภาพ-นิทรรศการ

25,10,0,50,1
5,600,50,1,3000,500,25,800
100,150,1,50,12,30,50,1,70,12,1,40,1,1,1,3000
0,1,0,0,2,40,15,5,2,1,0,17,0,1
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...

เบื้องหลัง “สงครามสื่อ” การกุข่าวเท็จแผนการคุกคามศัตรูไปสู่สงคราม

เว็บไซต์อเมริกัน "American Conservative" ได้เขียนรายงานเรื่อง "เมื่อข่าวเท็จได้นำไปสู่สงคราม" (2 ธันวาคม 2016 ) โดยยอมรับว่า บรรดาเจ้าหน้าที่และนักการเมืองผู้กระหายสงครามชาวอเมริกันกำลังดึงสหรัฐอเมริกาไปสู่สงครามกับอิหร่าน ด้วยการกุข่าวเท็จและการนำเสนอข้อมูลที่ไม่เป็นจริง ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเรื่องราวของระเบิดนิวเคลียร์ของอิหร่านและข้อกล่าวหาอื่นๆ ล้วนเป็นเรื่องเท็จที่ได้ถูกนำเสนอเพื่อการวางแผนโจมตีอิหร่าน

     ในรายงานนี้ได้ระบุว่า "แฟรงคลิน เดลาโน รูสเวลต์” ได้กล่าวกับประชาชนของสหรัฐอเมริกาในการปราศรัยของเขาในวันกองทัพเรือ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 1941 ว่า “ผมมีแผนลับอยู่ในมือที่ถูกวางแผนในเยอรมนีโดยรัฐบาลของฮิตเลอร์ ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมถึงแผนการจัดระเบียบโลกใหม่ นี่คือแผนสำหรับอเมริกาเหนือที่ฮิตตเลอร์มีความตั้งใจที่จะจัดระเบียบมันใหม่ พวกเขามีเจตนาที่จะทำให้ทั้งทวีปตะวันตกอยู่ในการครอบงำของตน แผนนี้ได้เปิดเผยอย่างชัดเจนว่า พวกนาซีไม่ได้แค่เพียงวางแผนต่ออเมริกาใต้เพียงเท่านั้นแต่ทว่ากับสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นกัน"

    ผู้นำของเรายังมีเอกสารหลักฐานลับที่น่ากลัวอื่นๆ อยู่ในมือที่ได้ถูกร่างในเยอรมนีโดยฮิตเลอร์... “นี่เป็นแผนการหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายศาสนาที่มีอยู่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์และคาทอลิก อิสลาม ฮินดู ศาสนาพุทธและศาสนายูดาย... และแทนที่บรรดาคริสตจักรในอารยธรรมของเราที่จะมีเพียงคริสตจักรเดียวของนาซีนานาชาติที่เหลืออยู่..."

    แต่สิ่งที่เป็นแหล่งที่มาของแผนการต่างๆ ที่น่าตกใจของนาซีทั้งหมดเหล่านี้คืออะไร? ทั้งหมดเหล่านี้เป็นเรื่องโกหกที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นโดยบรรดาสายลับของอังกฤษภายใต้คำสั่งของ "วิลเลียม สตีเฟนสัน" หมายถึงตัวแทนของเชอร์ชิลในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็น "คนมุทะลุ" ผู้ซึ่งภารกิจของเขาคือการนำสหรัฐอเมริกาเข้าสู่สงครามเพื่อผลประโยชน์ของอังกฤษไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดที่เป็นไปได้

   เพื่อที่จะนำสหรัฐอเมริกาเข้าสู่สงครามกับเยอรมนีนั้น “วินสตัน เชอร์ชิล” ได้ออกคำสั่งให้ “วิลเลียม สตีเฟนสัน” (หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับอาสาสมัครของอังกฤษ) พร้อมด้วยสมาชิกหลายร้อยคนในนิวยอร์ก เพื่อที่จะมีปฏิสัมพันธ์ในทางใดๆ ก็ตามที่เป็นไปได้กับบรรดาวุฒิสมาชิกของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่การให้สินบนไปจนถึงการแบล็กเมล์ในรูปต่างๆ เพื่อให้พวกเขานำสหรัฐเข้าสู่สงครามกับกับเยอรมนี และดึงอังกฤษออกจากการสนามศึกครั้งนี้

   “รูสเวลต์” ผู้นี้เองที่ด้วยกับความสิ้นหวังได้มองเห็นตนเองว่าจำเป็นจะต้องทำสงครามกับเยอรมนี ในขณะที่ฮิตเลอร์แม้จะมีความผิดและอาชญากรรมต่างๆ ที่ได้ประกอบไว้แต่ก็ได้พยายามหาทางที่จะยับยั้งตนจากการเข้าสู่สงครามกับสหรัฐอเมริกา แต่รูสเวลต์ได้นำเราเข้าสู่สงครามครั้งนี้ จวบจนถึงช่วงปลายปี 1941 ประชาชนส่วนใหญ่ของสหรัฐอเมริกายังคงไม่ต้องการที่จะให้สหรัฐเข้าสู่สงคราม

   "บ๊อบ พอร์ทแมน" วุฒิสมาชิกของรัฐโอไฮโอกล่าวว่า : การโฆษณาชวนเชื่ออย่างผิดๆ และข้อมูลต่างๆ ที่ไม่ถูกต้องนั้นเป็นภัยคุกคามสำหรับสหรัฐอเมริกา และเราจะต้องจัดการและต่อสู้กับมัน ขณะนี้อเมริกาจะต้องตระหนักถึงภัยคุกคามของ "ข่าวเท็จ"

    ทว่าจนถึงขณะนี้แม้จะผ่านไปยาวนานหลายปี แต่บรรดาผู้นำของเราและบรรดาประเทศพันธมิตรของสหรัฐก็ยังคงทำให้ประเทศของเราหลงผิดด้วยกับการกุข่าวเท็จ พวกเขาจะเข้าสู่สงครามที่ไม่จำเป็น งานของซีไอเอคือการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศต่างๆ ที่เรามีปัญหากับมัน กิจการภายในอย่างเช่นการเลือกตั้งของประเทศเหล่านี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วพรรคที่กระหายสงครามของเราเองนี้ต่างหากที่จะต้องได้รับการควบคุมดูแล นี่คือประเด็นที่ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์แก่เรา

     พวกท่านลองพิจารณาดูปฏิบัติการปลดปล่อยอิรัก! ใครที่หลอกลวงเราด้วยการกุข่าวเท็จเกี่ยวกับอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูงของซัดดัม ฮุสเซน และนำเราเข้าสู่สงครามนี้ "ข่าวเท็จ" ที่ทำให้เราเข้าสู่หนึ่งในความผิดพลาดเชิงกลยุทธ์ที่ใหญ่หลวงที่สุดของประเทศของเรา

     แต่ทว่าสิ่งที่ประเทศของเรากำลังเผชิญกับมันอยู่ในปัจจุบันนี้คือ ใครกันที่เป็นผู้กุข่าวเท็จมาเป็นเวลายาวนานหลายปีแล้วเกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน และโดยประมาณแล้วได้ทำให้เราเข้าสู่สงครามหนึ่ง? ในขณะที่ในปี 2007 และ 2011 หน่วยข่าวกรองทั้ง 16 หน่วยของสหรัฐอเมริกา ได้ปฏิเสธ โฆษณาชวนเชื่อที่เป็นเรื่องโกหกนี้ (เกี่ยวกับเจตนาของอิหร่านที่จะมีอาวุธนิวเคลียร์)

     ในปี 2011 หนังสือพิมพ์ “ลอสแอนเจอลีสไทม์ส” ได้ตีพิมพ์รายงานโดยเปิดเผยว่า 16 หน่วยข่าวกรองของสหรัฐอเมริกายอมรับว่า อิหร่านไม่มีความพยายามใดๆ ที่จะผลิตอาวุธนิวเคลียร์ และเรื่องเดียวกันนี้ก็ได้ถูกยืนยันโดยหน่วยข่าวกรองเหล่านี้ในปี 2007 ในรายงานนี้ยังได้ระบุต่อไปอีกว่า : แม้กระนั้นก็ตาม ยังมีบุคคลเหล่านี้ทั้งภายในและนอกสหรัฐอเมริกาที่ยืนกรานว่ามีโครงการอาวุธนิวเคลียร์ลับๆ ในรายงานของตน เป้าหมายของพวกเขาคืออะไร? ชัดเจนว่า มันคือสงครามกับอิหร่าน"

     สิ่งที่ควรกล่าวถึงก็คือว่า ผู้เขียนบันทึกนี้ซึ่งเป็นบรรณาธิการและผู้ก่อตั้งนิตยสาร "American Conservative" ก่อนหน้านี้ในปี 2011 ก็เช่นกัน เขาได้วิพากษ์วิจารณ์การลอบสังหารบรรดานักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ของอิหร่านและนโยบายต่างๆ ในการก่อสงครามของสหรัฐและอิสราเอลในช่วงเวลานั้น แต่เป็นที่ชัดเจนว่าการวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในนโยบายของสหรัฐและพันธมิตรของมัน

    ในรายงานนี้ได้กล่าวว่า : การลอบสังหารนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์สี่คนของอิหร่านที่เกิดขึ้นโดยการติดระเบิดไว้ที่ตัวรถของพวกเขานั้นไม่ใช่เป็นกระทำการก่อการร้ายกระนั้นหรือ? หากสตาลินหรือครุชชอฟ ในยุคอดีตสหภาพโซเวียตได้กระทำเช่นนี้กับ 4 นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันในกรุงวอชิงตัน เราจะไม่ถือว่ามันเป็นการกระทำของการก่อการร้ายหรือสงครามกระนั้นหรือ?

    หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้เป็นหัวหน้าของแผนกหนึ่งของโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมในเมืองนาตันซ์ (Natanz) ซึ่งอยู่ในการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) และหากสมมติว่าอิหร่านกำลังผลิตอาวุธนิวเคลียร์จริงแล้ว อิหร่านจะไม่กระทำสิ่งนี้ในเมืองนาตันซ์อย่างแน่นอน

    ใครก็ตามที่ลอบสังหารนักวิทยาศาสตร์ชาวอิหร่านเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นมอสสาดหรือหน่วยงานใดๆ ก็ตาม... เป้าหมายของมันเป็นสิ่งที่ชัดเจนยิ่ง : การสร้างความโกรธแค้นแก่ชาวอิหร่านเพื่อให้พวกเขากลายเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐอเมริกา แล้วหลังจากนั้นก็จะเป็นการปลุกปั่นสหรัฐให้เข้าสู่สงครามกับอิหร่าน แต่ทว่าหลายๆ สงครามนั้นจะเป็นประโยชน์สำหรับอเมริกากระนั้นหรือ? พวกท่านจงคิดใคร่ครวญให้ดีเกี่ยวกับประเด็นนี้!


อ้างอิง : www.theamericanconservative.com/buchanan/when-fake-news-leads-to-war

            -jamnews


แปล/เรียบเรียง : ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม