ในช่วงเวลาที่ท่านศาสดามูซา (อ.) ถือกำเนิดขึ้นมานั้น เป็นที่แน่นอนว่าฟิรเอาน์ (ฟาโรห์) จะต้องฆ่าเด็กทารกผู้นี้ มารดาของท่านศาสดามูซา (อ.) จึงครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรดี และแล้วพระผู้เป็นเจ้าก็ทรงดลใจ (วะห์ยู) แก่มารดาของท่านศาสดามูซา (อ.) ให้ให้นมแก่ท่าน และให้ท่านลอยไปตามน้ำ และพระองค์ทรงปลอบประโลมมารดาของท่านศาสดามูซา (อ.) ว่าไม่ต้องกลัวและอย่าได้เศร้าเสียใจ เพราะพระองค์จะทรงนำท่านกลับคืนมาให้นาง และจะทรงแต่งตั้งท่านให้เป็นศาสนทูตของพระองค์ โดยที่พระองค์ได้ทรงตรัสว่า :
وَأَوْحَيْنَا إِلَىٰ أُمِّ مُوسَىٰ أَنْ أَرْضِعِيهِ ۖ فَإِذَا خِفْتِ عَلَيْهِ فَأَلْقِيهِ فِي الْيَمِّ وَلَا تَخَافِي وَلَا تَحْزَنِي ۖ إِنَّا رَادُّوهُ إِلَيْكِ وَجَاعِلُوهُ مِنَ الْمُرْسَلِينَ
"และเราได้ดลใจแก่มารดาของมูซาว่า เจ้าจงให้นมแก่เขา แต่เมื่อเจ้ากลัวอันตราย (ในการถูกฆ่าที่จะเกิดขึ้น) ต่อเขา ดังนั้นเจ้าก็จงโยนเขาลงไปในแม่น้ำเถิด และเจ้าอย่าได้กลัวและอย่าได้เศร้าโศกไปเลย แท้จริงเราจะให้เขากลับไปหาเจ้า และเราจะทำให้เขาเป็นหนึ่งในบรรดาศาสนทูต" (1)
ในโองการนี้ พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่งได้ทรงให้คำมั่นสัญญาแก่มารดาของท่านศาสดามูซา (อ.) ไว้สองประการคือ ประการแรก พระองค์จะทรงทำให้ทารกผู้นี้กลับคืนมายังมารดาของเขา ประการที่สอง พระองค์จะทรงทำให้ทารกผู้นี้เป็นหนึ่งในบรรดาศาสนทูตของพระองค์ และแล้วพระองค์ก็ทรงทำให้คำมั่นสัญญาแรกของพระองค์เป็นจริงในเวลาอันรวดเร็ว โดยที่พระองค์ทรงตรัสว่า :
فَرَدَدْنَاهُ إِلَىٰ أُمِّهِ كَيْ تَقَرَّ عَيْنُهَا وَلَا تَحْزَنَ وَلِتَعْلَمَ أَنَّ وَعْدَ اللَّهِ حَقٌّ
"ดังนั้นเราจึงทำให้เขากลับไปยังมารดาของเขา เพื่อที่จะก่อให้เกิดความปิติยินดีแก่นาง และนางจะได้ไม่เศร้าโศกเสียใจ และเพื่อนางจะได้รู้ว่า แท้จริงสัญญาของอัลลอฮ์นั้นเป็นจริง" (2)
มารดาของมูซา (อ.) ได้บรรลุความจริงในคำมั่นสัญญานี้แล้ว แต่คำมั่นสัญญาอีกประการหนึ่ง คือการทำให้มุซา (อ.) เป็นศาสนทูตนั้น ในความเป็นจริงแล้วมันคือการแจ้งข่าวถึงการแต่งตั้งท่านศาสดามูซา (อ.) ที่จะมีขึ้นในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้าว่า : วงศ์วานแห่งอิสรออีลทั้งมวลจงรู้เถิดว่า ทารกผู้นี้ วันหนึ่งเขาจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นศาสนทูต และจะมาทำการปลดปล่อยพวกเจ้าจากการถูกกดขี่ของฟิรเอาน์ (ฟาโรห์)
ประเด็นเกี่ยวกับยุคสุดท้าย (อาคิรุซซะมาน) และการปรากฏกาย (ซุฮูร) ของอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) ก็เช่นเดียวกัน มันคือคำมั่นสัญญาที่แน่นอนตายตัวของพระผู้เป็นเจ้า และเป็นหนึ่งในคำมั่นสัญญาที่จะไม่ถูกบิดพลิ้วจากพระองค์ มันคือคำมั่นสัญญาที่พระองค์ทรงให้ไว้กับทุกศาสดาและบรรดาผู้สืบทอด (วะซีย์) ของพวกท่าน
การบรรลุสู่ความจริงในคำมั่นสัญญาดังกล่าวนั้น ก็คือวันที่พระองค์จะทรงทำให้การปกครองโลกนี้อยู่ในอำนาจของปวงบ่าวผู้มีคุณธรรมของพระองค์ ตามที่พระองค์ได้ทรงตรัสไว้ว่า :
وَنُرِيدُ أَن نَّمُنَّ عَلَى الَّذِينَ اسْتُضْعِفُوا فِي الْأَرْضِ وَنَجْعَلَهُمْ أَئِمَّةً وَنَجْعَلَهُمُ الْوَارِثِينَ
"และเราปรารถนาที่จะให้ความโปรดปรานแก่บรรดาผู้ที่ถูกกดขี่ในแผ่นดิน และเราจะทำให้พวกเขาเป็นผู้นำ และทำให้พวกเขาเป็นผู้สืบทอดมรดก (แห่งการปกครอง)" (3)
ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ได้กล่าวว่า :
مَعاشِرَ النّاسِ! اَبْشِرُوا بِالْفَرَجِ، فَـاِنَّ وَعْدَ اللّه ِ لایُخْـلَفْ، وَقَضـاءَهُ لایُرَدُّ وَ هُوَ الْحَکیمُ الْخَبیرُ، وَاِنَّ فَتْحَ اللّه ِقَریبٌ
"โอ้ประชาชนเอ๋ย! จงปิติยินดีต่อข่าวดี สำหรับการคลี่คลายความทุกข์ยาก (และการปรากฏกายของมะฮ์ดี) เถิด เพราะแท้จริงมันคือสัญญาของอัลลอฮ์ที่จะไม่ถูกละเมิด และการกำหนดของพระองค์ที่จะไม่ถูกเอากลับคืน และพระองค์คือผู้ทรงปรีชาญาณอีกทั้งทรงรอบรู้ยิ่ง และแท้จริงการพิชิตของอัลลอฮ์นั้นใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว" (4)
เชิงอรรถ :
(1) อัลกุรอานบทอัลกอศ็อศ โองการที่ 7
(2) อัลกุรอานบทอัลกอศ็อศ โองการที่ 13)
(3) อัลกุรอานบทอัลกอศ็อศ โองการที่ 5
(4) อัลอะมาลี, เชคซอดูก, หน้าที่ 352
บทความโดย : เชคมูฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม
In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم
Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم
ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You
WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center