ในขณะที่อิมามฮะซัน (อ.) อธิบายเหตุผลของการทำสนธิสัญญาสงบศึกกับมุอาวิยะฮ์ ท่านได้แจ้งข่าวเกี่ยวกับอนาคตที่บุรุษผู้หนึ่งจากอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) จะยืนหยัดขึ้นต่อสู้ และจะทำให้ทุกสิ่งเข้ารูปรอยเดิมของมัน….

      ความเชื่อเกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) ถือเป็นหนึ่งในคำสอนสำคัญที่สุดของศาสนาอิสลาม มะอ์ซูม (อ.) แต่ละท่าน นับจากท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ไปจนถึงบรรดาอิมาม (อ.) ได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการอธิบายเรื่องนี้ โดยที่มีฮะดีษจำนวนมากมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) ยุคสุดท้าย (อาคิรุซซะมานและการปรากฏกาย (ซุฮูร) ของอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ) ได้ถูกรายงานไว้จากท่านเหล่านั้น บางส่วนของฮะดีษหรือริวายะฮ์ (คำรายงาน) ดังกล่าวนี้ได้รับการนำเสนอเพื่อการอรรถาธิบายและการตีความโองการต่างๆ ของคัมภีร์อัลกุรอานซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม โองการเกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) และบางส่วนก็ได้รับการกล่าวถึงในโอกาสต่าง ๆ  ที่เกี่ยวกับการเมืองและสังคม

      ตัวอย่างเช่น ในช่วงเวลาของการทำสนธิสัญญากับมุอาวิยะฮ์ ท่านอิมามฮะซัน มุจญ์ตะบา (อ.) ได้อธิบายถึงอนาคตของอิสลาม ได้แก่ การครอบงำของการปกครองของบรรดาคนชั่ว (ฟาซิก) และผู้กดขี่ จากนั้นได้แจ้งข่าวเกี่ยวกับอนาคตที่บุรุษผู้หนึ่งจากอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) จะยืนหยัดขึ้นและจะทำให้ทุกสิ่งเข้ารูปรอยเดิมของมัน ในหนึ่งจากริวายะฮ์ (คำรายงาน) เหล่านี้เมื่อมีมุสลิมได้กล่าวโจมตีท่านอิมามฮะซัน (อ.) เพื่อตำหนิท่านเกี่ยวกับการทำสนธิสัญญาของท่านกับมุอาวิยะฮ์ ท่านได้อ้างถึงเรื่องราวของฮิกมะฮ์ (วิทยปัญญา) ที่ซ่อนอยู่ในการกระทำของศาสดาคิเฎร (อ.) ที่มีต่อศาสดามูซา (อ.) โดยกล่าวว่า :

أَ مَا عَلِمْتُمْ أَنَّ الْخَضِرَ(ع) لَمَّا خَرَقَ السَّفِینَةَ وَ أَقَامَ الْجِدَارَ وَ قَتَلَ الْغُلَامَ کَانَ ذَلِکَ سَخَطاً لِمُوسَى بْنِ عِمْرَانَ إِذْ خَفِیَ عَلَیْهِ وَجْهُ الْحِکْمَةِ فِی ذَلِکَ وَ کَانَ ذَلِکَ عِنْدَ اللَّهِ تَعَالَى ذِکْرُهُ حِکْمَةً وَ صَوَابا

"พวกท่านไม่รู้หรือว่าเมื่อคิเฎร (อ.) ได้เจาะท้องเรือและทำให้กำแพงตั้งตรงและฆ่าเด็กหนุ่มนั้น การกระทำเหล่านี้ทำให้ มูซา บินอิมราน โกรธ เนื่องจากฮิกมะฮ์ (วิทยปัญญา) ของการกระทำเหล่านั้นได้ถูกซ่อนไว้จากเขา แต่การกระทำเหล่านั้น ณ อัลลอฮ์ ผู้ทรงสูงส่ง มันคือฮิกมะฮ์ (วิทยปัญญา) และความถูกต้องชอบธรรม"  

أَ مَا عَلِمْتُمْ أَنَّهُ مَا مِنَّا أَحَدٌ إِلَّا وَ یَقَعُ فِی عُنُقِهِ بَیْعَةٌ لِطَاغِیَةِ زَمَانِهِ إِلا الْقَائِمُ الَّذِی یُصَلِّی رُوحُ اللَّهِ عِیسَى ابْنُ مَرْیَمَ ع خَلْفَهُ فَإِنَّ اللَّهَ عَزَّ وَ جَلَّ یُخْفِی وِلَادَتَهُ وَ یُغَیِّبُ شَخْصَهُ لِئَلَّا یَکُونَ لِأَحَدٍ فِی عُنُقِهِ بَیْعَةٌ إِذَا خَرَجَ

"พวกท่านไม่รู้หรือว่าไม่มีใครในหมู่พวกเรา (ที่เป็นอิมาม) เว้นแต่การให้สัตยาบันต่อทรราชแห่งยุคสมัยของเขาจะวางอยู่บนคอของเขา ยกเว้นกออิม (อิมามมะฮ์ดี) ผู้ซึ่งรูฮุลลอฮ์ อีซา บุตรของมัรยัมจะนมาซตามหลังเขา เพราะแท้จริงอัลลอฮ์ ผู้ทรงเกริกเกียรติผู้ทรงเกรียงไกรจะทรงปกปิดการถือกำเนิดของเขาและซ่อนเร้นเขา เพื่อไม่ให้การให้สัตยาบันต่อผู้ใดอยู่บนคอของเขาเมื่อเขายืนหยัดขึ้นต่อสู้"

ذَلِکَ التَّاسِعُ مِنْ وُلْدِ أَخِی الْحُسَیْنِ ابْنِ سَیِّدَةِ الْإِمَاءِ یُطِیلُ اللَّهُ عُمُرَهُ فِی غَیْبَتِهِ ثُمَّ یُظْهِرُهُ بِقُدْرَتِهِ فِی صُورَةِ شَابٍّ دُونَ أَرْبَعِینَ سَنَةً ذَلِکَ لِیُعْلَمَ‏ أَنَّ اللَّهَ عَلى‏ کُلِّ شَیْ‏ءٍ قَدِیرٌ.

"เขาเป็นคนที่เก้าจากลูกหลานของฮุเซน บุตรชายของหัวหน้าสตรี ผู้เป็นน้องชายของฉัน อัลลอฮ์จะทรงให้เขามีอายุขัยยืนยาวอยู่ในการเร้นกายของเขา จากนั้นพระองค์จะทรงทำให้เขาปรากฏกายด้วยเดชานุภาพของพระองค์ในรูปของชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าสี่สิบปี เพื่อพวกเขาจะได้รู้ว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง" (1)

     ในริวายะฮ์ (คำรายงาน) อีกบทหนึ่ง ในขณะที่ท่านอิมามฮะซัน (อ.) ชี้ถึงผลพวงอันเลวร้ายต่าง ๆ ของการปกครองของมุอาวียะฮ์และบนีอุมัยยะฮ์ ท่านได้กล่าวว่า : “ ... ในการปกครองของเขาสัจธรรมจะกลายเป็นเรื่องเก่าและความเท็จจะปรากฏขึ้น ใครก็ตามที่ต่อต้านเขาเพื่อธำรงสัจธรรม เขาก็จะถูกฆ่าและใครก็ตามที่ร่วมมือกับเขาบนความเท็จเขาก็จะได้รับรางวัลและจะเป็นเช่นนั้น (หมายถึงมันจะกลายเป็นเรื่องปกติของโลก)”

     ท่านอิมาม (อ.) ได้กล่าวต่อไปว่า :

حَتی یَبْعَثَ اللَّهُ رَجُلًا فِی آخِرِ الزَّمَانِ وَ کَلَبٍ مِنَ الدَّهْرِ وَ جَهْلٍ مِنَ النَّاسِ، یُؤَیِّدُهُ اللَّهُ بِمَلَائِکَتِهِ، وَ یَعْصِمُ أَنْصَارَهُ وَ یَنْصُرُهُ بِآیَاتِهِ، وَ یُظْهِرُهُ عَلَى الْأَرْضِ حَتَّى یَدِینُوا طَوْعاً وَ کَرْهاً

“จนกระทั่งในที่สุดอัลลอฮ์จะทรงส่งบุรุษผู้หนึ่งมาในยุคสุดท้าย เมื่อยุคสมัยเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและมนุษย์จมอยู่ในความโง่เขลา อัลลอฮ์จะทรงสนับสนุนเขาด้วยบรรดาทวยเทพ พระองค์จะทรงปกป้องบรรดาผู้ให้การช่วยเหลือเขา จะทรงช่วยเหลือเขาด้วยบรรดาสัญลักษณ์ของพระองค์ และจะทรงทำให้เขาพิชิตเหนือโลกจนกระทั่งทุกคนจะเชื่อฟังเขาทั้งโดยสมัครใจหรือถูกบังคับก็ตาม” (ชี้ถึงโองการที่ 83 จากซูเราะฮ์อาลิอิมรอน)

یَمْلَأُ الْأَرْضَ قِسْطاً وَ عَدْلًا وَ نُوراً وَ بُرْهَاناً یَدِینُ لَهُ عَرْضُ الْبِلَادِ وَ طُولُهَا لَا یَبْقَى کَافِرٌ إِلَّا آمَنَ بِهِ وَ لَا طَالِحٌ إِلَّا صَلَحَ

“เขาจะทำให้โลกเต็มไปด้วยความเที่ยงธรรมและความยุติธรรม เต็มไปด้วยแสงสว่างและข้อพิสูจน์ (ทางนำ) และประชากรทั้งหมดของโลกจะยอมจำนนต่อเขา และจะไม่มีผู้ปฏิเสธศรัทธาคนใดหลงเหลืออยู่ นอกจากจะศรัทธาต่อเขา และจะไม่มีคนชั่วช้าหลงเหลืออยู่ นอกจากจะกลับตัวเป็นคนดี”

وَ تَصْطَلِحُ فِی مُلْکِهِ السِّبَاعُ، وَ تُخْرِجُ الْأَرْضُ نَبْتَهَا، وَ تُنْزِلُ السَّمَاءُ بَرَکَتَهَا، وَ تَظْهَرُ لَهُ الْکُنُوزُ، یَمْلِکُ مَا بَیْنَ الْخَافِقَیْنِ أَرْبَعِینَ عَاماً، فَطُوبَى لِمَنْ أَدْرَکَ أَیَّامَهُ وَ سَمِعَ کَلَامَهُ

"สัตว์ดุร้ายจะไม่ยังอันตรายในอาณาจักรปกครองของเขา แผ่นดินจะให้พืชพันธุ์ของมันออกมา ท้องฟ้าจะโปรยปรายคำจำเริญของมันลงมา ขุมสมบัติจะถูกเปิดเผยแก่เขา เขาจะปกครองตะวันออกและตะวันตกของโลกเป็นเวลาสี่สิบปี ดังนั้นความโชคดีจงมีแด่ผู้ที่อยู่ถึงยุคสมัยของเขาและได้ยินคำพูดของเขา" (2)

     การนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) โดยท่านอิมามฮะซัน มุจญ์ตะบา (อ.) ภายใต้บรรยากาศทางสังคมที่กำลังคุกรุ่นในช่วงเวลานั้น แสดงให้เห็นว่า อะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) ให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดในเรื่องของผู้ช่วยให้รอด (มุนญี) และการปรากฏกาย (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) และในโอกาสต่าง ๆ ที่อำนวย ท่านดึงดูดความสนใจของประชาชนไปสู่รัฐปกครองแห่งอุดมคติของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) และจะแนะนำประเด็นนี้ว่าเป็นหนึ่งในแผนการที่สำคัญที่สุดของพระผู้เป็นเจ้าในโลกนี้

แหล่งที่มา :

1.อัลอิห์ติญาจ อะลา อะฮ์ลิลลุญาจ, ฏ็อบริซี, เล่ม 2, หน้า 290

2.อัลอิห์ติญาจ อะลา อะฮ์ลิลลุญาจ, ฏ็อบริซี, เล่ม 2, หน้า 291

บทความโดย : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม