เว็บไซต์เนชั่นแนลอินเตอเรสต์ (National Interest) ได้เขียนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า : การถอนตัวของสหรัฐฯ จากข้อตกลงนิวเคลียร์ หากเป็นการโหมโรงเพื่อการโจมตีทางทหารต่ออิหร่านแล้ว คงเป็นการกระทำที่ผิดพลาด เนื่องจากอิหร่านแตกต่างจากอิรักที่สามารถจะตอบโต้การโจมตีและสร้างความเสียหายที่ร้ายแรงต่อกองกำลังของสหรัฐฯ ในภูมิภาคได้

      ญอมนิวส์รายงานว่า ผู้เขียนบทความเรื่อง "ผลตามมาจากการถอนตัวของสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์" ได้เขียนว่า : จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ และทอม ค็อตตอน วุฒิสมาชิกจากรัฐอาร์คันซอ ได้พูดในลักษณะที่ดูเหมือนว่า การทำสงครามกับอิหร่านจะทำให้สหรัฐฯ ได้รับชัยชนะได้อย่างง่ายดายนั้น เป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง ซึ่งประเด็นแรก เมื่อเทียบกับอิรักจำนวนประชากรของอิหร่านมีมากกว่า อิหร่านมีประชากรที่ก้าวหน้าและร่ำรวย ถึงแม้จะใช้ปฏิบัติการที่รุนแรงก็ไม่สามารถเอาชนะอิหร่านได้

      เนชั่นแนลอินเตอเรสต์ ได้เขียนว่า : แม้แต่ในกรณีที่ทรัมป์ต้องการจะโจมตีด้วยขีปนาวุธต่ออิหร่าน อิหร่านก็สามารถจะตอบโต้แบบเดียวกันต่อสหรัฐอเมริกาได้ และจะสามารถโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางและพันธมิตรของมันในภูมิภาคได้

      อีกด้านหนึ่ง อิหร่านมีความรู้ด้านนิวเคลียร์ขั้นพื้นฐานเป็นอย่างดี นอกเหนือจากกรณีที่ การทำสงครามกับอิหร่านจะมีความเสียหายที่หนักหน่วงแล้ว ยังจะทำให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ของอิหร่านและสหรัฐอเมริกากลายเป็นศัตรูใหม่ต่อกันในอนาคต

      ไมเคิล บริน ผู้อำนวยการบริหารโครงการความมั่นคงแห่งชาติทรูแมนได้เขียนว่า : "สงครามไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถเปิดฉากกันในวันพรุ่งนี้ได้ ผมหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้น จำเป็นจะต้องระลึกว่า สถานการณ์ความไม่แน่นอนปัจจุบันเป็นเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะไม่ควรอย่างมาก เนื่องจากอิหร่านยึดมั่นต่อข้อตกลงนิวเคลียร์และสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศก็ยืนยันว่าอิหร่านเคารพต่อพันธกรณีต่างๆ เกี่ยวกับนิวเคลียร์ของตน อีกด้านหนึ่งแม้แต่ผู้บัญชาการทหารและหัวหน้าหน่วยข่าวกรองสหรัฐอเมริกาเองก็ถือว่าการตัดสินใจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์เป็นการกระทำผิดพลาดอย่างน่าเกลียด

      พวกเขาประเมินว่าความกระสันของทรัมป์ในการถอนตัวของสหรัฐอเมริกานั้น เป็นไปตามความปรารถนาของทรัมป์ที่จะทำลายทุกสิ่งที่ประธานาธิบดีคนก่อนๆ ได้ทำไว้ เพราะฉะนั้นการถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์จึงเป็นเกมการเมืองที่ทรัมป์ได้กระทำไปโดยไม่คำนึงว่าเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังจะเริ่มต้นการเจรจากับเกาหลีเหนือในประเด็นเกี่ยวกับวิกฤตอาวุธนิวเคลียร์

       เว็บไซต์นี้ได้กล่าวเสริมว่า : ผลพวงต่างๆ จากการถอนตัวของสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์จะเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในอนาคต แต่สิ่งที่เราจะเห็นได้ในขณะนี้ก็คือ ความเป็นผู้นำของอเมริกาในเวทีโลกจะอ่อนแอลงยิ่งกว่ายุคก่อนหน้านี้ โดยที่พลเมืองอเมริกันและผลประโยชน์แห่งชาติในต่างประเทศจะไม่มีความปลอดภัยที่เพียงพอ

      ในช่วงที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาใช้การทูตที่แข็ง แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถป้องกันการเกิดสงครามได้อย่างชาญฉลาด แต่ตอนนี้กำลังส่งเสียงเอะอะโวยวายอยู่ข้างๆ ประเทศอื่น ๆ  ในขณะประเทศอื่นๆ กำลังย่างก้าวไปข้างหน้าโดยไม่เอะอะโวยวายใดๆ

     ผู้เขียนกล่าวว่า : ความเสียหายที่เกิดจากนโยบายต่างๆ ของทรัมป์จะยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง สำหรับสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะอยู่เป็นเวลาที่ยาวนาน แม้หลังจากสิ้นสุดการเป็นประธานาธิบดีของเขา

ที่มา : ญอมนิวส์

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม