ความจำเป็นที่จะต้องปกป้องซาอุดิอาระเบีย "ประการแรก การรักษาความปลอดภัยของอิสราเอล และประการที่สอง ความมั่งคั่งของซาอุดิอาระเบียและประเทศอาหรับอื่นๆ ในอ่าวเปอร์เซียถือเป็นองค์ประกอบหลักของนโยบายและยุทธศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาตลอดช่วงแปดทศวรรษที่ผ่านมาในภูมิภาคนี้"
สำนักข่าว IRIB รายงานโดยอ้างจากเว็บไซต์ Al-Ahed ว่า การรักษาความปลอดภัยของอิสราเอล และประการที่สอง ความมั่งคั่งของซาอุดิอาระเบียและบรรดาประเทศอาหรับในอ่าวเปอร์เซียถือเป็นองค์ประกอบหลักของนโยบายและยุทธศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาตลอดช่วงแปดทศวรรษที่ผ่านมาในหมู่ประเทศอาหรับ โดนัลด์ ทรัมป์ นับเป็นประธานาธิบดีที่อธิบายถึงนโยบายในฐานะผู้นำสหรัฐฯ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดของสหรัฐอเมริกาในการดำเนินนโยบายนี้อย่างโจ่งแจ้งด้วยการปกป้องอาชญากรรมและการละมิดต่างๆ ของราชวงศ์ซะอูดและการดูถูกเหยียดหยามตลอดเวลาต่อบรรดาผู้ปกครองและเจ้าชายแห่งซาอุดีอาระเบีย
แหล่งข่าวนี้ได้เขียนว่า : รัฐบาลสหรัฐฯ ถือว่าซาอุดีอาระเบียเป็นส่วนสำคัญที่ไม่อาจแยกออกจากความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้ และเป็นปราการสำคัญสำหรับการปกป้องการดำรงอยู่ของระบอบไซออนิสต์ ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ รัฐบาลของทรัมป์จึงยืนหยัดคัดค้านต่อความพยายามของสภาคองเกรสสหรัฐฯ ที่จะยุติการสนับสนุนทางทหารของสหรัฐฯ ต่อการรุกรานเยเมนของซาอุดิอาระเบีย และการเสนอให้คว่ำบาตรขั้นรุนแรงต่อประเทศซาอุฯ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนายญะมาล คาช็อกกี นักข่าวและนักวิจารณ์ชาวซาอุฯ ในสถานกงสุลของซาอุดิอาระเบียในอิสตันบูล
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้เขียนต่อไปอีกว่า : วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติอนุมัติแผนการที่จะหยุดการสนับสนุนทางทหารต่อประเทศซาอุดิอาระเบียด้วยคะแนนเสียงข้างมากและได้นำเสนอเรื่องนี้ต่อคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของวุฒิสภาพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อที่จะช่วยสหรัฐอเมริกาให้หลุดพ้นออกจากผลพวงทางด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่สุดในโลก
แหล่งข่าวนี้ได้กล่าวว่า : เจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมและไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ดูเหมือนจะเป็นทนายฝ่ายจำเลยที่คอยปกป้องรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย และยังคงยืนกรานที่จะดำเนินการรุกรานและการปิดล้อมเยเมนต่อไป โดยอ้างว่าวอชิงตันไม่ต้องการให้พันธมิตรของตนต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ที่อัปยศในเยเมน เพราะความพ่ายแพ้นี้จะมีผลกระทบต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และความมั่นคงของระบอบอิสราเอลในภูมิภาคนี้
นับจากการเริ่มต้นการรุกรานของซาอุดิอาระเบียต่อเยเมน เหตุการณ์ต่างๆ ทางด้านการทหารและการเมืองในประเทศนี้แสดงให้เห็นว่าการดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องของสงครามและการทวีความรุนแรงของมาตรการคว่ำบาตรต่อเยเมนนั้นเป็นความต้องการของอิสราเอลและสหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นเพียงหัวหอกที่ทำหน้าที่ดำเนินตามความต้องการนี้
ตามคำพูดของทรัมป์ ซาอุดีอาระเบียจะให้การช่วยเหลือต่อเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเป็นเงินนับพันล้านดอลลาร์และเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐฯ เนื่องจากหากปราศจากซาอุดิอาระเบียแล้ว อิสราเอลจะต้องเผชิญกับปัญหามากมาย ด้วยเหตุนี้เองสหรัฐฯ จึงไม่สามารถถอนตัวออกจากซาอุดิอาระเบียและไม่ใส่ใจต่อประเทศนี้ได้
ที่มา : สำนักข่าว IRIB
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม
In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم
Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم
ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You
WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center