"ความทรงจำเกี่ยวกับความอัปยศอดสูของอิหร่านในอดีตไม่อาจที่จะนำมาเปรียบเทียบกับความยิ่งใหญ่และความมีเกียรติศักดิ์ศรีของอิหร่านในวันนี้ได้เลย ภาพในอดีตของบรรดาผู้นำจากสามประเทศมหาอำนาจได้เข้าสู่อิหร่านโดยไม่ได้ขออนุญาต แต่วันนี้ทันที่ที่มาถึงอิหร่านกำหนดการแรกของปูติน คือการไปปรากฏตัวต่อหน้าท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน"
ทุกครั้งที่ชาวอิหร่านได้เห็นภาพถ่ายประวัติศาสตร์ของการประชุมกรุงเตหะรานที่ถูกจัดขึ้นอย่างลับๆ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนถึงวันที่ 1 ธันวาคม 1943 ณ สถานทูตโซเวียตในกรุงเตหะรานเมืองหลวงของอิหร่าน โดยมีผู้นำของมหาอำนาจผู้ได้รับชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่สองเข้าร่วม ซึ่งได้แก่ วินสตัน เชอร์ชิล (Winston Churchill) นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร , แฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์ (Franklin Delano Roosevelt) ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาและโจเซฟ สตาลิน (Joseph Stalin) ผู้นำของสหภาพโซเวียตและเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ทำให้พวกเขาเจ็บปวดและรู้สึกถึงความต่ำต้อยและความอัปยศอดสูอยู่ในทรวงอกของพวกเขา โดยพูดอะไรไม่ออก ด้วยเหตุผลที่ว่ารัฐบาลอิหร่านไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ ในเหตุการณ์การตัดสินใจของผู้นำทั้งสามประเทศเหล่านั้น สำหรับการจัดประชุมในกรุงเตหะราน และแม้กระทั่งว่ารายละเอียดและข่าวเกี่ยวกับการเจรจาในการประชุมครั้งนั้นก็ไม่ได้ถูกรายงานให้ทางการของอิหร่านได้รับรู้เลย
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาก็เช่นกัน มีรายงานในหน้าสื่อเกี่ยวกัยการเดินทางของทรัมป์ไปยังอิรักโดยไม่มีการประสานงานล่วงหน้า จนกระทั่งเมื่อทรัมป์ ได้เสนอคำร้องขอให้มีประชุมในฐานทัพอากาศอัยนุลอะซัด (Ein al-Assad) แต่ต้องเผชิญกับการคัดค้านของอาดิล อับดุลมะฮ์ดี นายกรัฐมนตรีของอิรัก
กรณีเหล่านี้ถูกนับว่าเป็นเครื่องแสดงถึงการเหยียบย่ำสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกรัฐบาลและทุกประเทศ เนื่องจากเป็นเข้าสู่เขตแดนทางภูมิศาสตร์ของประเทศอื่นโดยปราศจากการขออนุญาตและไม่เคารพมารยาททางการทูตขั้นพื้นฐานที่สุดและการไม่ยอมรับสิทธิอธิปไตยดั้งเดิมของประเทศดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง
แต่ประเทศอิหร่านในวันนี้...
การเข้าสู่อิหร่านของวลาดิเมียร์ ปูติน พร้อมกับการเดินทางเข้าพบท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านทันที โดยปราศจากพิธีรีตองใดๆ นั้น แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างโดยสิ้นเชิงระหว่างความยิ่งใหญ่ของสาธารณรัฐอิสลามกับความต่ำต้อยและความอัปยศอดสูของระบอบปกครองของราชวงศ์ปาห์ลาวี!
การพูดภาษาเปอร์เซียของกองทัพเรืออเมริกันแทนภาษาอังกฤษในน่านน้ำของอ่าวเปอร์เซีย ... (1)
นายพลกอซิม สุไลมานี เป็นทหารที่มีความสามารถพิเศษ (Charismatic) มากที่สุด ในทัศนะของบรรดาที่ปรึกษาของทรัมป์... (2)
การจับกุมทหารของกองทัพสหรัฐอเมริกาที่รุกล้ำน่านน้ำของอิหร่าน โดยกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC) (3)
ทั้งหมดเหล่านี้คือตัวอย่างของความยิ่งใหญ่และความมีเกียรติศักดิ์ศรีของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านอันเป็นผลมาจากการปฏิวัติอิสลาม โดยการนำของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.)
เชิงอรรถ
(1)- คลิปวิดีโอ / การใช้ภาษาเปอร์เซียของกองทัพสหรัฐอเมริกาในการเจรจาในขณะที่เรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ ถูกไล่ล่าโดยเเครื่องบินของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน
(2)- สแตนลีย์ แม็คคริสตัล (Stanley A. McChrystal) อดีตผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษของกองทัพสหรัฐฯ กล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางวิทยุว่า : "นายพลกอซิม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองทัพ Qods ของกองกำลังปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านเป็นหนึ่งในผู้นำทางทหารที่มีความสามารถพิเศษมากที่สุดของโลก" (ที่มา : สปุตนิก)
(3)- คลิปวิดีโอ / การจับกุมทหารของกองทัพสหรัฐอเมริกาที่รุกล้ำน่านน้ำของอิหร่าน โดยกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC)
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม
In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم
Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم
ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You
WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center