ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพและอดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอเชื่อว่า ตามหลักฐานต่างๆ ที่มีอยู่นั้น ชาวไซออนิสต์มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ก่อการร้ายของนิวซีแลนด์ด้วย…..

    สำนักข่าว Mehr รายงาน : เบรนตัน ทาร์แรนท์ (Brenton Tarrant) วัย 28 ปี ชาวออสเตรเลียที่ประกาศตนเองให้เห็นว่า เขาเป็นคนหัวขวาจัดสุดโต่งและคลั่งผิวขาว เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา เขาได้ก่อเหตุโศกนาฏกรรมบุกโจมตีด้วยการกราดยิงประชาชนพร้อมถ่ายทอดสดผ่านไลฟ์สตรีม ในมัสยิดสองแห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของนิวซีแลนด์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 50 รายและบาดเจ็บมากกว่า 40 คน

    โรเบิร์ต เดวิด สตีล (Robert David Steele) ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพและอดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับนักข่าว "Mehr" เกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อการร้ายในนิวซีแลนด์ว่า : "เป็นที่แน่ชัดว่า การดำเนินการก่อการร้ายในนิวซีแลนด์เป็นการปฏิบัติการที่มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า ภายใต้ประเด็นที่สมมติขึ้นและด้วยความร่วมมือของกองกำลังในท้องถิ่น

    เขากล่าวเสริมว่า : ไซออนิสต์มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ก่อการร้ายในนิวซีแลนด์ เหตุการณ์โจมตี 11 กันยายนก็เป็นแผนการของไซออนิสต์ เช่นเดียวกันนี้ การโจมตีเรือสอดแนม (USS Liberty) ของสหรัฐฯในปี 1967 และการลอบสังหารจอห์นเอฟ. เคนเนดีจูเนียร์ ก็คืองาน (แผนการ) ของพวกเขา เพื่อปูทางให้แก่ "ฮิลลารี คลินตัน"

    โรเบิร์ต สตีล ได้กล่าวต่อไปอีกว่า : นี่เป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากสำหรับโดนัลด์ ทรัมป์ และในสถานการณ์นี้ เขาถูกโดดเดี่ยว

     เขาได้ย้ำว่า : สำนักงานหน่วยข่าวกรองกลางของสหรัฐอเมริกาไม่เพียงแต่ตัวเองไม่ยอมทำงานที่มีคุณค่าเท่านั้น ซ้ำไปกว่านั้นยังเป็นเรื่องห่างไกลที่พวกเขาจะมีความจริงใจที่จะนำสิ่งที่ผม หรือ "กอร์ดอน ดัฟฟ์" (Gordon Duff) และบางทีไมเคิล ฟลินน์ ที่จะพูดบอกกล่าวกับเขา (ทรัมป์) หากพวกเรามีความสามารถเราจะบอกว่า ควรที่จะปลดธงของระบอบไซออนิสต์ลงได้แล้ว เนื่องจากความจริงที่อยู่เบื้องหลังฉากนั้น สถานทูตอิสราเอลในสหรัฐอเมริกาก็สมควรจะต้องปิดตัวลง เนื่องจากการกระทำที่โหดร้ายและป่าเถื่อนของพวกมัน "พอกันที!"

    ผู้ถูกเสนอชื่อชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพผู้นี้ได้กล่าวต่อไปว่า : ความขัดแย้งระหว่างระบอบไซออนิสต์และชาวมุสลิมคือสงครามโลกครั้งที่สามที่ได้ถูกวางแผนไว้นานแล้ว ทรัมป์เข้าใจได้อย่างถูกต้องแล้วว่า ขณะนี้จำเป็นต้องถอนกองกำลังสหรัฐฯ ออกจากตะวันออกกลางและจะต้องบรรลุข้อตกลงกับเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ หลังจากนั้นจึงจะปลดอาวุธนิวเคลืยร์อิสราเอลและซาอุดิอาระเบีย แต่ตราบใดที่ จาเร็ด คุชเนอร์ และ บอลตัน ยังทำงานอยู่ในทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการ ทำเนียบขาวก็ยังคงอยู่ในมือของศัตรู

    สตีลได้กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า : "ผมคาดการณ์ได้อย่างแน่นอนว่า ซีเรียจะประสบความสำเร็จในการดำเนินการตามแผนของตนที่ประกาศไว้ว่า จะเอาที่ราบสูงโกลานคืน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อิสราเอลยึดครองอย่างผิดกฎหมายเช่นเดียวกับปาเลสไตน์ รัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ในมือของศัตรู นับจากปอมเปโอและบอลตันไปจนถึงกษัตริย์คุชเนอร์ (King Kouchner) ตอนนี้ความสามารถของทรัมป์ที่จะทำการควบคุมกำลังต่างๆ ที่พยายามจะหยุดสงครามระหว่างระบอบไซออนิสต์และชาวมุสลิมนั้นเป็นที่น่าสงสัย

ที่มา : สำนักข่าว Mehr

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม