นิวยอร์กไทม์สได้รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวต่างๆ ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้กล่าวกับผู้รับผิดชอบกระทรวงกลาโหมของประเทศนี้ว่าเขาไม่ต้องการเข้าสู่สงครามกับอิหร่าน…..

     ตามรายงานของสำนักข่าวตัสนีม นิวยอร์กไทม์สรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ หลายคนว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้กล่าวกับ "แพทริก เอ็ม. ชานาฮาน" ซึ่งดำรงตำแหน่ง “รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ว่า เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้าสู่สงครามกับอิหร่าน

     เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งซึ่งได้เข้าร่วมในการประชุมล่าสุดกับทรัมป์พร้อมด้วยบรรดาเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เกี่ยวกับกรณีอิหร่านนั้น ได้กล่าวกับนิวยอร์กไทมส์ว่า ข้อมูลใหม่ได้ถูกนำเสนอแก่ประธานาธิบดีในที่ประชุมครั้งนี้ ประเด็นเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ อีกหลายคนในรัฐบาลทรัมป์ก็ได้บอกกับนิวยอร์กไทมส์ว่า ทรัมป์ได้ประกาศอย่างหนักแน่นว่าเขาไม่ต้องการเข้าสู่การเผชิญหน้าทางทหารกับอิหร่าน

     ก่อนหน้านี้นิวยอร์กไทมส์ได้รายงานโดยอ้างว่า กระทรวงกลาโหมได้มีการวางแผนต่างๆ ที่จะสงทหารจำนวน 120,000 นายไปยังตะวันออกกลาง แต่โดนัลด์ ทรัมป์เองได้ออกมาปฏิเสธข่าวนี้และบอกว่าเป็นข่าวเท็จ

      เมื่อวันพฤหัสบดี (16 พฤษภาคม 2019) ก่อนการพบปะกับประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์ ทรัมป์ได้กล่าวตอบคำถามของผู้สื่อข่าวที่ถามเขาว่า สหรัฐฯ จะเข้าสู่สงครามกับอิหร่านหรือไม่?" เขากล่าวว่า : "ผมหวังว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้น"

      ในสถานการณ์ที่พยานหลักฐานและกรณีแวดล้อมทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า สหรัฐอเมริกาไม่สามารถเปิดฉากสงครามใหม่ได้นั้น ในช่วงเริ่มแรกรัฐบาล ทรัมป์ได้ขู่ว่าจะเผชิญหน้าทางทหารกับอิหร่านและเมื่อไม่เห็นสัญญาณของการล่าถอยใดๆ (จากอิหร่าน) ก็หันไปสู่การคาดหวังการเจรจาและให้หมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวไว้กับสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ (ผู้ปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในกรุงเตหะราน) โดยหวังว่าจะมอบให้แก่เจ้าหน้าที่อิหร่านเพื่อการพูดคุยเบื้องต้นทางโทรศัพท์

      อย่างไรก็ตามอิหร่านได้ย้ำซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าจะไม่มีการเจรจาใดๆ ภายใต้การกดดันจากสหรัฐฯ และสหรัฐฯ จะไม่สามารถบังคับความต้องการต่างๆ ของตนต่ออิหร่านด้วยกับการข่มขู่และการคุกคามได้

ที่มา : สำนักข่าวตัสนีม

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม