วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ของอังกฤษก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 ว่า ลัทธิเสรีนิยมล้าสมัยแล้ว……

     วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียชี้ถึงการเติบโตของกระแสประชานิยม (populism) ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยกล่าวว่า ยุคของลัทธิเสรีนิยมในฐานะที่เป็นแนวคิดหนึ่งนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว

     ในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับหนังสือพิมพ์ "ไฟแนนเชียลไทมส์" ก่อนการประชุมสุดยอด G20 ปูตินกล่าวว่า : "พวกเสรีนิยมไม่สามารถกำหนดบังคับอะไรกับใครเหมือนในหลายทศวรรษที่ผ่านมาได้อีกแล้ว"

     หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองในปี 1945 ลัทธิเสรีนิยมเป็นอุดมการณ์ที่ครอบงำอยู่ในโลกตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดนี้หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตได้ขึ้นมามีอำนาจและนำไปสู่การเกิดขึ้นของทฤษฎีหนึ่งในโลกที่ว่า คุณค่าต่างๆ ของประชาธิปไตยเสรีนิยมเป็นสุดยอดของวิวัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติและระบบการเมืองที่ดีที่สุดสำหรับการสนองตอบความต้องการต่างๆ ของมนุษย์

     ฟรานซิส ฟูกูยาม่า นักอุดมการณ์และนักทฤษฎีชาวอเมริกัน หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ในทฤษฎีที่เรียกว่า "จุดจบของประวัติศาสตร์" เขาได้กล่าวอ้างว่า ระบอบประชาธิปไตยเสรีนิยมได้ชนะคู่แข่งทั้งหมดแล้ว กระนั้นก็ตามทฤษฏีนี้ก็เผชิญกับความท้าทายมาหลายปีและหลายทศวรรษภายใต้เหตุการณ์ต่างๆ จนถึงจุดที่ฟูกุยามาเองก็ถอยร่นจากทฤษฎีนี้

     ในการให้สัมภาษณ์กับ "ไฟแนนเชียลไทมส์" ปูตินได้วิจารณ์โครงสร้างพื้นฐานทางทฤษฎีของลัทธิเสรีนิยมว่า : "สมมติฐานของแนวคิดเสรีนิยมก็คือ ไม่ควรทำสิ่งใด ผู้อพยพสามารถก่ออาชญากรรม ฆ่า ปล้นและข่มขืนผู้อื่นได้ตามอำเภอใจ เพราะสิทธิของพวกเขาในฐานะผู้อพยพนั้นต้องได้รับการคุ้มครอง"

     ประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวต่อว่า : "ทุกอาชญากรรมควรได้รับการลงโทษ แนวคิดเสรีนิยมนั้นล้าสมัยแล้ว แนวคิดนี้ขัดแย้งกับผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่"

ที่มา : อัล อาลัม

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม