หนังสือพิมพ์เยอรมันได้เขียนในบทความหนึ่งว่า : "การประเมินอำนาจของอิหร่านต่ำเกินไปนั้นเป็นความผิดพลาดจากฝ่ายตะวันตกที่จะกลายเป็นราคาแพงสำหรับทุกคน"……
ตามการรายงานของสำนักข่าวตัสนีม หนังสือพิมพ์ "Die Tageszeitung" ของเยอรมนีได้เขียนในบทความเกี่ยวกับความขัดแย้งล่าสุดระหว่างอิหร่านและสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียโดยเขียนว่า : "ทุกสิ่งที่เป็นเรื่องใหม่ในโลกของโดนัลด์ ทรัมป์ จะถูกประเมินอย่างเช่นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น (สิ่งใหม่ๆ เหล่านี้ในโลกของทรัมป์) คือการคว่ำบาตรที่หนักหน่วงที่สุดที่เคยทำกับอิหร่านมาตลอดทุกสมัย, ความปรารถนาที่จะเปลี่ยนระบอบการปกครองในอิหร่านและการสร้างพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดกับอังกฤษเพื่อจัดระเบียบใหม่ในตะวันออกกลาง
ผู้เขียนบทความนี้ได้เขียนต่อไปว่า : แต่ถ้าใครจำยุคสมัยก่อนการการขึ้นสู่อำนาจของโดนัลด์ ทรัมป์และเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับอิหร่านและภูมิภาคได้ เขาจะพบว่าการคว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับอิหร่านนั้นก็มีอยู่ในยุคสมัยการเป็นประธานาธิบดีของ "จอร์จ ดับเบิลยู. บุช" ซึ่งอิหร่านได้รับการประเมินว่าเป็นรัฐที่ชั่วร้าย ซึ่งก็มีความพยายามและการสนับสนุนต่างๆ อย่างกว้างขวางเพื่อการเปลี่ยนแปลงระบอบของประเทศนี้
บทความนี้ได้กล่าวต่อไปว่า : จุดแข็งและอำนาจที่เหนือกว่าของอิหร่าน คือการที่สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านได้เคยชินกับการใช้ชีวิตภายใต้การคว่ำบาตรจากนานาชาติมานานหลายทศวรรษ กรณีที่ว่าการคว่ำบาตรเหล่านี้จะทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ด้วยสาเหตุที่อิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมันของอังกฤษนั้นเป็นปัญหาที่ไม่มีใคร (ในอิหร่าน) ยี่หระต่อมัน ประชาชนชาวอิหร่านต้องทนทุกข์ทรมานจากการคว่ำบาตรนี้และจะรู้สึกโกรธแค้น ทว่าพวกเขาจะโกรธแค้นใครกระนั้นหรือ? การประเมินผลของระบอบสาธารณรัฐอิสลามเกี่ยวกับการคว่ำบาตร เป็นรูปแบบหนึ่งของการก่อการร้ายทางเศรษฐกิจนั้นเป็นสิ่งที่ชาวอิหร่านส่วนใหญ่มีความเชื่อเช่นนั้น การที่การคว่ำบาตรเหล่านี้จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเล็กน้อยก็จะไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของระบอบการปกครองหรือทำให้อิหร่านอ่อนข้อลงในประเด็นของโครงการนิวเคลียร์ได้เลย
และในบทความนี้ยังกล่าวอีกว่า : "ทรัมป์ประเมินชาวอิหร่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะยุทธวิธีและกลยุทธ์ของพวกเขาต่ำเกินไป ในช่วงสิบห้าปีที่ผ่านมาชาวอิหร่านได้ขยายอิทธิพลของพวกเขาไปทั่วภูมิภาคโดยไม่ต้องทำสงครามโดยตรง
ผู้เขียนได้ชี้ถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลอิหร่านกำลังเคลื่อนไหวและดำเนินการที่เป็นการยั่วยุในช่องแคบฮอร์มุซ เขายังได้เขียนอีกว่า : โดยธรรมชาติแล้วสถาการณ์เหล่านี้อาจนำไปสู่การระเบิดได้ ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในความขัดแย้งเหล่านี้สามารถเข้าสู่สงครามโดยไม่ตั้งใจและบางทีอาจจัดตั้งพันธมิตรในนาโต้เพื่อจุดประสงค์นี้ แต่ในทัศนะของอิหร่านประเด็นนี้เป็นความเสี่ยงที่คำนวณแล้ว
เขาได้เขียนต่อไปอีกว่า : ทรัมป์ไม่เพียงแต่ไม่สามารถเอาเสียงสนับสนุนของคนส่วนมากในบ้านของตัวเองสำหรับการปะทะทางทหารได้เท่านั้น ทว่าตัวเขาเองในเวทีการเมืองก็ต้องการสิ่งที่ตรงกันข้ามกับประเด็นนี้มาโดยตลอด และเขาต้องการให้กองทัพอเมริกันกลับจากปฏิบัติการสงครามและการยุติบทบาทของสหรัฐอเมริกาในฐานะตำรวจโลก ในอังกฤษก็เช่นเดียวกัน มีการสนับสนุนสำหรับการปะทะทางทหารน้อยกว่ามาก ซึ่งพวกเขากำลังเผชิญกับปัญหาอื่นๆ
ในอีกส่วนหนึ่งของบทความผู้เขียนได้กล่าวว่า ความตึงเครียดต่างๆ ในระยะยาวในเส้นทางการค้าที่คึกคัก (หมายถึงช่องแคบฮอร์มุซ) นี้ จะเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจโลก การประเมินอิหร่านต่ำและการมองว่าประเทศนี้ไม่มีอะไรนั้น เป็นความผิดพลาดซึ่งท้ายที่สุดจะจบลงด้วยราคาแพงสำหรับทุกคน
ที่มา : สำนักข่าวตัสนีม
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม
In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم
Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم
ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You
WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center