หนังสือพิมพ์เลอฟิกาโร (Le Figaro) ได้รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดในซาอุดิอาระเบียว่า สถานการณ์เหล่านี้เป็นเหตุทำให้มกุฎราชกุมารยแห่งซาอุดิอาระเบียกำลังคิดที่จะขึ้นสู่การเป็นกษัตริย์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

    สื่อฝรั่งเศสเรียกมกุฎราชกุมารของซาอุดิอาระเบียว่า "ฮึกเหิม" เขียนว่า : เขากลัวว่าโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะไม่สามารถเอาชนะในการเลือกตั้งสมัยที่สองได้

    หนังสือพิมพ์ "เลอฟิกาโร" เขียนในรายงานข่าวว่า มุฮัมมัด บินซัลมาน สามารถเอาตัวรอดจากชะตากรรมของการฆาตกรรม "ญะมาล คาช็อกกี" นักข่าวชาวซาอุฯ ในสถานกงสุลของซาอุดิอาระเบียในตุรกีได้ด้วยการปกป้องที่แข็งแกร่งของ "ซัลมาน บินอับดุลอะซีซ" พ่อของเขาและโดนัลด์ ทรัมป์

    หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้เขียนโดยอ้างคำพูดของผู้เชี่ยวชาญชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งในดูไบว่า การประชุมกลุ่ม G20 ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงริยาดในเร็วๆ นี้ จะปิดคดีฆาตกรรม "ญะมาล คาช็อกกี"ลงอย่างสมบูรณ์

บินซัลมานคิดที่จะกำจัดบิดาของเขา

    เลอฟิกาโรได้ชี้ถึงสถานการณ์ล่าสุดในซาอุดิอาระเบียโดยเขียนว่า สถานการณ์ต่างๆ ในช่วงล่าสุดนี้จะทำให้มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียคิดที่จะสืบทอดอำนาจจากบิดาของเขา ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งซาอุดีอาระเบียเร็วยิ่งขึ้น

    ตามรายงานดังกล่าวนี้ การปฏิรูปของมุฮัมมัด บินซัลมาน ในการปกป้องสตรีได้จบลงด้วยการปราบปรามและการจับกุมบรรดานักเคลื่อนไหวสตรีที่ทำการเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรีในประเทศนี้ และการดำเนินการต่างๆ ที่เป็นเผด็จการของมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย ทำให้บรรดานักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบียตกอยู่ในความวิตกกังวล

    เลอฟิกาโรอ้างถึงการโจมตีตอบโต้ของเยเมนต่อโรงงานผลิตน้ำมันของบริษัทอารามโกของซาอุดิอาระเบียพร้อมกับกล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวเป็น "การโจมตีที่หนักหน่วง" ต่อเศรษฐกิจของซาอุดิอาระเบียและได้ทำลายภาพลักษณ์ของ "ราชอาณาจักรที่มั่นคง" ลง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของมกุฎราชกุมาร

ปฏิบัติการ "นัศรุน มินัลลอฮ์" เป็นการตบหน้าบินซัลมานครั้งใหม่

    หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสยังเขียนเกี่ยวกับการปฏิบัติการภาคพื้นดินล่าสุดของกองกำลังเยเมนต่อกองทัพของซาอุดิอาระเบียว่า เยเมนแถลงว่าได้สังหารกองกำลังของมันซูร ฮาดี ชึ่งได้รับการสนับสนุนจากริยาดได้จำนวน 200 คนและจับกุมพวกเขาได้อีก 2,000 คน โดยที่ในจำนวนนั้นมีทหารชาวซาอุฯ รวมอยู่ด้วย การโจมตีครั้งนี้เป็น "การตบที่รุนแรงครั้งใหม่" ไปยังใบหน้าของมุฮัมมัด บินซัลมาน

เหตุใดผู้คุ้มกันส่วนพระองค์ของกษัตริย์ซาอุดิอาระเบียจึงถูกลอบสังหาร?

    เลอฟิกาโรชี้ถึงการลอบสังหาร "อับดุลอะซีซ อัลฟัคม์" ผู้คุ้มกันส่วนตัวของกษัตริย์ซาอุดิอาระเบียในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาโดยเขียนว่า เหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ทำให้เกิดข่าวลือและการคาดการณ์ต่างๆ ขึ้นภายในซาอุดิอาระเบีย ตามข้อเขียนของสื่อฝรั่งเศสนี้ การดำเนินการของบินซัลมานเพื่อการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธานราชสำนักในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาเคียงคู่กับการลอบสังหารครั้งนี้ เป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียกำลังพยายามโค่นอำนาจบิดา วัย 83 ปีที่กำลังป่วยของตน

    ตามรายงานนี้ เหตุการณ์ตึงเครียดและสถานการณ์ล่าสุดได้ก่อให้เกิดข่าวลือหนาหูขึ้นอีกครั้งเกี่ยวกับแผนของมุฮัมมัด บินซัลมาน ที่จะปลดบิดาของตนลงจากอำนาจ ทั้งนี้เนื่องจากมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียมีความจำเป็นที่จะต้องขึ้นสู่บัลลังก์กษัตริย์ของซาอุดิอาระเบียก่อนที่ทรัมป์อาจพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า (ในเดือนพฤศจิกา 2020) ต่อผู้สมัครพรรคเดโมแครตที่ต่อต้านการเป็นพันธมิตรกับเขา (บินซัลมาน)

    เลอฟิกาโรได้เขียนว่า สถานการณ์ล่าสุดได้ทำให้สถานะของบินซัลมานอ่อนแอลง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงพยายามที่จะดำเนินแผนการบางอย่าง

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังคงสงสัยในความสามารถของบินซัลมาน

    เลอฟิกาโรได้เขียนในตอนท้ายว่า แม้แต่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เองซึ่งเป็นพันธมิตรของซาอุดิอาระเบียในการทำสงครามกับเยเมนก็กำลังสงสัยในความสามารถของมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียในการบริหารและการเป็นผู้นำของซาอุดีอาระเบีย

ที่มา : อัล อาลัม

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม