foto1
foto1
foto1
foto1
foto1

In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم

Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم

ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You

WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center

ภาพ-นิทรรศการ

25,10,0,50,1
5,600,50,1,3000,500,25,800
100,150,1,50,12,30,50,1,70,12,1,40,1,1,1,3000
0,1,0,0,2,40,15,5,2,1,0,17,0,1
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...

Middle East Monitor : อิสราเอลและรัฐบาลเงาของสหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้ออกจากซีเรีย

Middle East Monitor ได้ชี้ถึงความสับสนของทรัมป์เกี่ยวกับการถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากซีเรียโดยกล่าวว่า ระบอบไซออนิสต์และรัฐบาลเงาของสหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ถอนกำลังทหารออกจากซีเรีย

     ตามรายงานของสำนักข่าวฟาร์ส : รัฐบาลเงาของสหรัฐฯ และระบอบไซออนิสต์จะไม่อนุญาตให้รัฐบาลของทรัมป์ถอนกองทหารสหรัฐออกจากซีเรีย

    เว็บไซต์ข่าว "Middle East Monitor" ได้เขียนในรายงานหนึ่งเมื่อวันอังคาร (5 พฤศจิกายน 2562) ว่า : “สถานการณ์ในซีเรียขณะนี้เป็นสถานการณ์ "วิน-วิน"

    (ชนะและได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย) ตุรกีได้บรรลุพื้นที่ปลอดภัยตามที่ตนเองต้องการสำหรับการให้ที่พำนักของผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย ซีเรียเองก็ได้รับสิทธิในอำนาจอธิปไตยของตนมากขึ้น ในดินแดนต่างๆ ของประเทศนี้ และสามารถข้ามผ่านแม่น้ำยูเฟรติสได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012 อิหร่านก็ได้เห็นแล้วว่า รัฐบาลซีเรียซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพันธมิตรฮิซบุลลอฮ์นั้น ยังคงอยู่ในความปลอดภัย และรัสเซียได้แนะนำตัวเองในฐานะผู้ไกล่เกลี่ยที่มีอำนาจในภูมิภาค ส่วนทรัมป์ก็เช่นกันได้ทำการลดจำนวนทหารสหรัฐฯ ที่ประจำการในภูมิภาค และสามารถทำให้คำสัญญาแห่งการเลือกตั้งของเขา ที่จะนำกองกำลังทหารสหรัฐฯ กลับบ้านจากสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด เหมือนที่เขาได้เคยทำไปแล้วครั้งหนึ่งในเดือนเมษายนของปีที่แล้ว"

    รายงานนี้ได้กล่าวเสริมว่า : "ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของทรัมป์ แม้ว่าเราจะเห็นการขับเคลื่อนในการตัดสินใจของทรัมป์ที่จะถอนกำลังทหารสหรัฐฯ ออกจากตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียก็ตาม  แต่ทรัมป์ก็ต้องออกมากล่าวว่า บางส่วนของกองกำลังสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในตะวันออกของซีเรียเพื่อให้การปกป้องแหล่งน้ำมันจากกลุ่มไอซิส และกองทหารสหรัฐฯ อีกจำนวนหนึ่งก็ยังคงอยู่ใกล้บริเวณชายแดนของจอร์แดน การคงอยู่ของกำลังทหารจำนวนนี้ก็เพื่อปกป้องความมั่นคงของอิสราเอลนั่นเอง

    บางส่วนของกองกำลังเหล่านี้ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านก็มีการเปลี่ยนสถานที่ของตน ซึ่งคาดว่าจำนวนหนึ่งของกองกำลังเหล่านี้จะยังคงอยู่ในอิรักต่อไป แม้ว่ารัฐบาลอิรักจะต่อต้านประเด็นนี้อย่างเต็มกำลังก็ตาม

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีรายงานว่า กองทหารสหรัฐฯ มากกว่า 500 นายพร้อมด้วยยุทโธปกรณ์ของพวกเขาได้ถูกส่งกลับไปยังตอนเหนือของซีเรียและไปประจำการยังฐานต่างๆ ที่พวกเขาเคยละทิ้งไป การตัดสินใจของทรัมป์ในการปกป้องแหล่งน้ำมันนั้น  คาดว่าจะนำไปสู่การประจำการทหารสหรัฐฯ จำนวนประมาณ 900 นายไว้ในซีเรีย โดยที่ในช่วงที่ทรัมป์เข้ามารับตำแหน่งในสหรัฐอเมริกานั้น มีทหารอยู่ในซีเรียประมาณ 1,000 นาย

    แม้ว่าทรัมป์จะเป็นบุคคลที่ไม่สามารถคาดเดาได้และไม่ฟังใคร แต่ข้อเท็จจริงแฝงอยู่ในประเด็นนี้ การถอนทหารออกจากสนามรบต่างๆ นั้น ไม่ใช่ความกังวลของคนอเมริกันแต่อย่างใด อันจะทำให้ทรัมป์วิตกกังวล เหตุผลที่กองทัพสหรัฐได้เข้าไปอยู่ในซีเรียตั้งแต่ช่วงแรกก็คือ การต่อสู้กับไอซิส ซึ่งเป็นมรดกของรัฐบาลโอบามา แน่นอนหลังจากการตายของ "อบูบักร อัลบักดาดี" หัวหน้า กลุ่มไอซิส ทำให้เกิดความเชื่อที่ว่าไอซิสพ่ายแพ้แล้ว ตอนนี้จึงมีเหตุผลอันสมควรที่จะถามว่า ทำไมกองกำลังสหรัฐฯ จึงได้กลับเข้าไปในซีเรียอีก

    คำตอบก็คือ "รัฐบาลเงา" และบรรดาผู้ที่อยู่ในรัฐบาลของทรัมป์ กำลังพยายามบ่อนทำลายนโยบายและการดำเนินการต่างๆ ของประธานาธิบดี

    ในช่วงเวลาหนึ่ง (ความเชื่อใน) การมีอยู่ของรัฐบาลเงาในนาม "ทฤษฎีสมคบคิด" นั้น ได้ถูกหัวเราะเยาะโดยสื่อต่างๆ ในปี 2017 เดอะนิวยอร์กไทมส์ได้ประกาศในรายงานหนึ่งว่า ไม่มีเรื่องพวกนี้อยู่แต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ได้รายงานข่าวถึงการมีอยู่ของมัน

    ในการอธิบายเนื้อหาและแนวคิดเกี่ยวกับรัฐบาลเงานั้น บางทีอาจจะเป็นการดีกว่าที่จะกล่าวว่า รัฐบาลเงาคือรัฐบาลที่สมาชิกทุกคนจะเป็นผู้กำหนดหน้าที่และการทำงานของวอชิงตัน โดยไม่ใส่ใจว่าไม่ว่าประธานาธิบดีจะเป็นใครก็ตาม โดยส่วนใหญ่แล้วรัฐบาลนี้ก็มักจะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งสมาชิกคณะรัฐมนตรีและฝ่ายต่างๆ ของทำเนียบขาว

     ตามงานรายงานข้างต้น ส่วนหนึ่งของความสับสนมึนงงในขณะนี้ เกี่ยวกับสถานการณ์ของกองกำลังสหรัฐฯ ในซีเรีย การออกจากตะวันออกเฉียงเหนือและการปรากฏตัวในพิ้นที่น้ำมันต่างๆ ในตะวันออก เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ไม่ได้ใส่ใจใดๆ ต่อผู้บัญชาการทหารสูงสุด (หมายถึงประธานาธิบดี)

     ผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีในกิจการของซีเรีย และเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ แทนที่จะวางแผนและเริ่มดำเนินการประสานงานเกี่ยวกับการถอนกำลังออกจากซีเรียกลับดำเนินการที่จะให้กองกำลังของสหรัฐฯ อยู่ต่อในซีเรีย และไม่สนใจคำสั่งของประธานาธิบดีในการถอนตัวออกจากประเทศนี้

     แหล่งน้ำมันขนาดกลางของซีเรียนั้นไม่มีคุณค่าเชิงยุทธศาสตร์แต่อย่างใด แต่การที่อ้างเหตุผลว่า การคงอยู่ของกองทัพสหรัฐฯ เพื่อการป้องกันการรวมตัวของกลุ่มไอซิสกลับเข้าไปใหม่ในพื้นที่เหล่านี้ แต่ความจริงก็คือ ต้องการสกัดกั้นรัฐบาลซีเรียไม่ให้สามารถเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติได้

     แม้ว่าทรัมป์จะหลุดพ้นออกจาก "จอห์น โบลตัน" อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของเขา แต่ "เจมส์ เจฟฟรีย์" ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ในกิจการซีเรียและนักการทูตพิเศษของสหรัฐฯ ในพันธมิตรโลกต่อสู้กับไอซิสก็เป็นอีกหนึ่งจากอุปสรรคต่อการตัดสินใจของทรัมป์ เขาเป็นเจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกาอีกคนหนึ่งที่ให้คำมั่นสัญญาว่า จะขับอิหร่านออกจากซีเรียอย่างสมบูรณ์

     ในช่วงเวลาที่ทรัมป์ได้เรียกร้องให้ทำสงครามกับไอซิสและเชื่อว่าสงครามครั้งนี้ควรจะต้องสิ้นสุดลงนั้น รัฐบาลเงาในวอชิงตันพยายามหาทางที่จะขจัดรัฐบาลซีเรียและล้มล้างประธานาธิบดีบัชชาร อัลอะซัดของซีเรีย แน่นอนเป้าหมายเหล่านี้ก็คือ ความปรารถนาของอิสราเอล

     ฐานทัพ "Al-Tanf" ของสหรัฐฯ ในซีเรียได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป้าหมายในการต่อสู้กับกลุ่มไอซิส แต่ไอซิสนั้นกลับไม่มีอยู่ในพื้นที่นั้นเลย

     ดังที่ "Bloomberg" ได้รายงานเมื่อปีที่แล้วว่า ประเด็นนี้เป็นความท้าทายในแผนการต่างๆ ของทรัมป์ ที่จะถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากซีเรีย

     เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และอิสราเอลบางคนเชื่อว่า การที่กองทัพสหรัฐฯ จะยังคงอยู่ในซีเรียนั้น มีจุดประสงค์เพื่อขัดขวางเส้นทางการส่งเสบียงของอิหร่านไปยังฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอน ซึ่งนั่นก็คือเหตุผลที่แท้จริงในการมีอยู่ของฐานทัพ "Al-Tanf" บนทางหลวงสายหลักสายหนึ่งจากอิรักสู่ซีเรีย

     ในกรณีที่สหรัฐฯ ถอนกำลังออกจากซีเรียอย่างสมบูรณ์นั้น ในระยะยาวแล้วอิสราเอลมีสิ่งต่างๆ จำนวนมากที่ต้องสูญเสีย หลังจากการโจมตีของสหรัฐฯ เพื่อการสังหารผู้นำของกลุ่มไอซิส นาย "เบนจามิน เนทันยาฮู" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้เพิ่มแรงกดดันต่อทรัมป์ เพื่อให้มุ่งเน้นความสำคัญไปที่อิหร่านอีกครั้งหนึ่ง

      เนทันยาฮู โกรธที่ทรัมป์ ไม่ต้องการที่จะดำเนินการโดยตรงกับอิหร่าน เนทันยาฮูกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า : "ความฮึกเหิมของอิหร่านในภูมิภาคได้เพิ่มขึ้น และสิ่งนี้ก็กำลังเพิ่มมากยิ่งขึ้นเนื่องจากไม่มีการแสดงปฏิกิริยาต่อต้านใดๆ ต่ออิหร่าน"

      "Amos Yadelin" อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของกองทัพอิสราเอล หลังจากการถูกสังหารผู้นำไอซิสโดยหน่วยคอมมานโดของสหรัฐฯ ได้กล่าวว่า : ไอซิสไม่เคยเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่ออิสราเอลและกลุ่มนี้ถือเป็นเพียงภัยคุกคามรองเท่านั้น

     เขากล่าวเสริมว่า : “เราต้องการเห็นการดำเนินการในลักษณะที่คล้ายคลึงกันนี้ของสหรัฐฯ กับสุไลมานี (ผู้บัญชาการกองทัพกุดส์ของกอกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน) และนัศรุลลอฮ์ (เลขาธิการของฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน)”

     ทรัมป์ ประกาศการตัดสินใจของตนในการถอนกองกำลังออกจากซีเรียเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากมีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับ "รอญับ ฏ็อยยิบ เอร์โดกาน" ประธานาธิบดีของตุรกี แต่หลังจากนั้นก็ล้มเลิกการตัดสินใจดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะรัฐบาล ในความเป็นจริงแล้ว "Brett McGurk" อดีตผู้แทนสหรัฐฯ ในกิจการซีเรียและ "James Mattis" อดีตรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ฯ ได้ลาออกจากตำแหน่งของตน เนื่องจากการประท้วงแผนการต่างๆ ของทรัมป์ ที่จะถอนทหารออกจากซีเรีย

     ในขณะที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ไม่ได้เปิดฉากสงครามใหม่ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา แต่เขาถูกล้อมกรอบตามคำสั่งของอิสราเอลโดยรัฐบาลเงา ที่มุ่งมั่นที่จะบ่อนทำลายนโยบายต่างๆ ของเขาที่มีต่ออิหร่าน

     ในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้าใกล้เข้ามา ทรัมป์กำลังหาทางที่จะนำกองกำลังทหารของเขากลับ เพิอปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของตน กระนั้นก็ตามความมั่นคงของอิสราเอลโดยเฉพาะในปีที่สหรัฐอเมริกามีการเลือกตั้งนั้น จะเป็นประเด็นที่มีความสำคัญมากกว่า


ที่มา : สำนักข่าวฟาร์ส

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม