ระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบ "David's Sling" ซึ่งผลิตโดยบริษัท "Rafael" ของอิสราเอลร่วมกับบริษัท "Raytheon" ของสหรัฐอเมริกา ถูกนำเข้าประจำการในกองทัพของระบอบไซออนิสต์มาตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2017”

    ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีสื่อบางสำนักรายงานข่าวว่ากองทัพรัสเซียได้ริบขีปนาวุธของระบบป้องกันขั้นสูงของอิสราเอล ซึ่งตกในดินแดนของซีเรีย แหล่งข่าวเหล่านี้อ้างว่า ขีปนาวุธลูกหนึ่งจากระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบ "เดวิดส์ สลิง"ของอิสราเอลได้ตกในดินแดนของซีเรียแต่ไม่มีการระเบิด ขีปนาวุธขั้นสูงนี้ตกถึงมือของรัสเซียในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ที่มาของเรื่องนี้คืออะไรและมิติต่างๆ ที่แท้จริงของมันเป็นอย่างไร?

การโจมตีด้วยขีปนาวุธในเดือนกรกฎาคม ปี 2018

     ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2018 กองทัพซีเรีย ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ในระหว่างการปฏิบัติการครั้งใหญ่ทางตอนใต้ของประเทศ ระหว่างการกวาดล้างผู้ก่อการร้ายในจังหวัดดัรอาและอัลกุนัยฏิเราะฮ์ ได้ยิงขีปนาวุธสองลูกไปยังตำแหน่งของผู้ก่อการร้ายที่อยู่ติดกับพื้นที่ราบสูงโกลานที่ถูกยึดครอง บางแหล่งข่าวได้กล่าวถึงขีปนาวุธที่ถูกยิงออกไปนั้นว่าเป็นรุ่น "OTR-21 Tochka" และบางแหล่งข่าวกล่าวว่าเป็นขีปนาวุธ "Tashrin" ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นการผลิตขึ้นภายใต้ลิขสิทธิ์ของขีปนาวุธ "Fateh 110" ของอิหร่าน ในขณะที่ไซออนิสต์ได้ติดตั้งระบบป้องกันหลายชั้นไว้ในพื้นที่นี้ ทำให้ระบบป้องกันภัยของอิสราเอลสามารถตรวจจับขีปนาวุธเหล่านี้ได้ และสามารถสกัดกั้นขีปนาวุธทั้งสองลูกดังกล่าวได้ในทันที

(อินโฟกราฟิกจากขีปนาวุธ Tashrin) - ภาพ

     แม้จะมีการคาดการณ์ว่าจะเผชิญกับการโจมตีของขีปนาวุธของซีเรียในดินแดนของซีเรียก็ตาม แต่อิสราเอลก็มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะสอยขีปนาวุธเหล่านี้ เหตุผลหลักสองประการที่เป็นไปได้สำหรับประเด็นนี้ คือ: ประการแรกกลุ่มก่อการร้ายที่อยู่ในพื้นที่นี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอิสราเอลเสมอมา และนอกเหนือจากการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ ค่ายพักและโรงพยาบาลภาคสนามให้กับกลุ่มเหล่านี้แล้ว ระบบป้องกันภัยทางอากาศของไซออนิสต์ก็จะคอยป้องกันการทิ้งระเบิดถล่มในพื้นที่ต่างๆ ที่มีกลุ่มก่อการร้ายปรากฏตัวอยู่ ด้วยการสร้างการก่อกวนต่อกองทัพอากาศของซีเรีย กระทั่งว่าในสองกรณี พวกเขายังได้ดำเนินการสอยเครื่องบินขับไล่ "Sukhoi Su-24" ของซีเรีย เมื่อเดือนกันยายน ปี 2014 และ Su-22 ในเดือนกรกฎาคม ปี 2018 เหนือน่านฟ้าของที่ราบสูงโกลาน โดยระบบป้องกัน "Patriot"

    เหตุผลที่สองสำหรับการสกัดกั้นขีปนาวุธของซีเรีย คือการทดสอบระบบการป้องกันภัยทางอากาศใหม่ของกองทัพอิสราเอล คือ "David’s Sling" หลังจากการติดตั้งมันเพียงระยะเวลาไม่นานในที่ราบสูงโกลาน

ระบบป้องกัน “David’s Sling” (ภาพ)

คุณสมบัติของระบบป้องกันภัยทางอากาศ แบบ “David’s Sling”

    ระบบป้องกันภัยแบบ "David’s Sling" นั้น เป็นการร่วมทุนระหว่างราฟาเอล (Rafael Advanced Defense Systems Company) ของอิสราเอลและบริษัทเรย์เธียน (Raytheon Defense contractor company) ของสหรัฐอเมริกา ได้รับการออกแบบเพื่อต่อต้านขีปนาวุธพิสัยกลาง ที่ศัตรูของอิสราเอลทั่วภูมิภาคมีอยู่ในครอบครอง ซึ่งถูกนำมาใช้ประจำการตั้งแต่เดือนเมษายน 2017 ในกองทัพของไซออนิสต์ ระบบป้องก้นภัยทางอากาศนี้ก่อนที่จะเข้าสู่โครงสร้างของระบบป้องกันของกองทัพอิสราเอลนั้น ได้มีการทดสอบภาคสนามและทดสอบการยิงในดินของสหรัฐอเมริกานานกว่าห้าปี และตามคำพูดของบรรดาผู้บริหารของบริษัทเรย์เธียน (Raytheon) โรงงานต่างๆ ใน 30 รัฐของสหรัฐอเมริกา มีส่วนร่วมในงานการผลิตมัน ขีปนาวุธ "Stunner" ซึ่งแปลว่า "ผู้ทำให้สลบ" ซึ่งจะถูกยิงจากระบบนี้ มีพิสัยการยิงประมาณ 160 กิโลเมตรและใช้วิธีปะทะโดยตรง หรือ "Hit to Kill" เพื่อทำลายเป้าหมายของตนโดยไม่มีวัตถุระเบิด

ขีปนาวุธ "Stunner" (ภาพ)

     ระบบดังกล่าวได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อจัดการกับศักยภาพทางด้านขีปนาวุธของอิหร่านและกลุ่มต่อต้าน (มุกอวะมะฮ์) ต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการกับขีปนาวุธพิสัยสั้นหรือขีปนาวุธทางยุทธิวิถีต่างๆ อย่างเช่น “Scud”, “Fateh 110” หรือ “Zalzal” ซึ่งได้ถูกมอบให้อยู่ในมือของกองทัพซีเรียและฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอนเป็นจำนวนมาก ระบบป้องกันภัยนี้เทียบได้ในระดับเดียวกับขีปนาวุธ "MIM-104 Patriot"

การยิงครั้งแรกของระบบป้องกัน “David’s Sling” และความสูญเสียครั้งใหญ่ของ”ซออนิสต์

    ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2018 หลังจากที่ขีปนาวุธของซีเรียถูกยิงออกไป และหน่วยป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลได้ดำเนินการตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธ "Stunner" สองลูกจากระบบ "David’s Sling" แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการสกัดโดยไม่ทราบสาเหตุ ขีปนาวุธลูกหนึ่งหลังจากพลาดการโจมตีเป้าหมายบนท้องฟ้าได้ ระบบจะดำเนินการทำลายตัวเองโดยอัตโนมัติ แต่ขีปนาวุธลูกที่สองเนื่องจากระบบทำลายตัวเองไม่ทำงานจึงตกลงในดินแดนของซีเรียและในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของทหาร ด้วยเหตุผลต่างๆ ด้านความมั่นคงไม่มีภาพของขีปนาวุธถูกตีพิมพ์เผยแพร่ลงในสื่อใดๆ  แต่ตามรูปการแล้วสภาพของขีปนาวุธนี้ค่อนข้างที่จะสมบูรณ์มากและสามารถที่จะทำการตรวจสอบดูรายละเอียดของระบบของมันได้

ภาพขณะการยิงระบบป้องกัน ” David’s Sling” ของอิสราเอลไปยังขีปนาวุธของซีเรีย

กองทัพซีเรียส่งมอบขีปนาวุธไปให้ฝ่ายใด

    แม้ว่าในช่วงเวลานั้นจะมีข่าวลือแพร่สะพัดว่ากองทัพซีเรียหรือกองทัพรัสเซียได้รับขีปนาวุธป้องกันภัยของอิสราเอล แต่ประมาณหนึ่งปีครึ่งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาสื่อจำนวนหนึ่งได้กล่าวอ้างว่า กองทัพซีเรียส่งมอบขีปนาวุธป้องกันภัยของอิสราเอลไปให้กองทัพรัสเซีย

    แต่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียและผู้บัญชาการทหารของรัสเซียอีกบางคนกล่าวว่า ซีเรียไม่ได้ส่งมอบขีปนาวุธใดๆ ไปยังพวกเขา

    ในอีกด้านหนึ่งเว็บไซต์ “Al-Masdar” ซึ่งมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับแกนต่อต้าน (มุกอวะมะฮ์) และรัฐบาลซีเรียได้อ้างในข่าวหนึ่งว่า ขีปนาวุธดังกล่าวไม่ได้ถูกส่งไปยังรัสเซีย แต่ถูกส่งไปยังบรรดาทหารที่ปรึกษาชาวอิหร่านที่อยู่ในดินแดนซีเรียเพื่อส่งต่อไปยังประเทศอิหร่าน เพื่อตรวจสอบและศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการนำเทคโนโลยีขั้นสูงของมันมาใช้และวิธีการจัดการกับระบบนี้

ทรัพย์เชลยสงครามครั้งใหญ่ที่ได้จากศัตรูไซออนิสต์

    หากเรื่องราวดังกล่าวเป็นความจริงและประเทศอิหร่านได้รับขีปนาวุธนี้มาจริง เมื่อพิจารณาถึงกรณีที่ว่า ขีปนาวุธนี้ยังไม่ระเบิดและถูกส่งไปถึงมือของกองทัพอิหร่านในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว ด้วยกับการตรวจสอบโครงสร้างของขีปนาวุธนี้โดยละเอียด กองทัพอิหร่านก็จะสามารถค้นพบวิธีป้องกันขีปนาวุธของตัวเองในการข้ามผ่านการสกัดกั้นของขีปนาวุธป้องกันภัยชนิดนี้ และสามารถที่จะทำลายระบบเรดาร์ตรวจจับและระบบอิเล็กทรอนิกส์ของมันลงได้ หรือในกรณีที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องรับเรดาร์ที่ฝังอยู่ในขีปนาวุธยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แล้ว กองทัพอิหร่านก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูงในการนำวิธีของบริษัท "Raytheon" ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ของอุตสาหกรรมทางทหารของสหรัฐอเมริกาในด้านระบบต่อต้านขีปนาวุธ

ที่มา : มัชริกนิวส์

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม