กระทรวงการต่างประเทศอิรักกล่าวว่า เป้าหมายในการโจมตีสถานกงสุลของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านในเมือง "นะญัฟ" นั้น เพื่อทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอิรักและอิหร่าน และเตือนระวังผู้ที่หวังจะทำลายความชอบธรรมของการชุมนุมประท้วง

    สืบเนื่องจากการที่กลุ่มก่อจลาจลได้โจมตีสถานกงสุลของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านในเมือง "นะญัฟ อัชร็อฟ" กระทรวงการต่างประเทศอิรักได้อธิบายว่า เป้าหมายของการดำเนินการดังกล่าวคือการสร้างความเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างอิรักและอิหร่าน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้ประท้วงระมัดระวังบรรดาผู้ที่ต้องการทำลายความชอบธรรมของการชุมนุมประท้วง

     เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (27 พฤศจิกายน) กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่สวมหน้ากาก ซึ่งตามคำรายงายจากแหล่งข่าวในพื้นที่ ไม่ใช่พลเมืองของ "นะญัฟ อัชร็อฟ" ได้ทำการโจมตีสถานกงสุลของอิหร่านในเมืองนะญัฟ พร้อมกับการถ่ายทอดสดผ่านเครือข่ายโทรทัศน์ข่าว "อัลอาราบีย่า" ของซาอุดิอาระเบีย โดยกลุ่มดังกล่าวได้จุดไฟเผาสถานกงสุลไปบางส่วน ในขณะที่โทรทัศน์อัลอาราบีย่านั้นถูกห้ามดำเนินกิจกรรมในประเทศอิรัก

     รายงานต่างๆ ระบุว่า ในเหตุการณ์การโจมตีครั้งนี้ทำให้กองกำลังความมั่นคงของอิรัก 47 นายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งยังไม่มีรายงานข่าวอย่างเป็นทางการถึงระดับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับอาคารของสถานกงสุลของอิหร่าน แต่ในรายงานของสื่อต่างๆ กล่าวว่า คณะเจ้าหน้าที่ทางการทูตของอิหร่านได้ออกจากสถานที่ก่อนการโจมตีของกลุ่มคนดังกล่าว

     ตามรายงานของแหล่งข่าวในท้องถิ่น บรรดาผู้บุกรุกได้เข้าไปยังสถานกงสุลอิหร่านในเมืองนะญัฟนั้น ไม่ใช่บุคคลของเมืองนี้ แต่ทั้งหมดเป็นกลุ่มคนที่สวมหน้ากากบิดบังใบหน้า ซึ่งเข้ามายังเมืองนะญัฟโดยมีการวางแผนเพื่อดำเนินการจุดไฟเผาดังกล่าว

    นับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม อิรักได้เกิดการประท้วงการคอร์รัปชั่นและความไร้ประสิทธิภาพ (ของรัฐบาล) ซึ่งด้วยผลของการแทรกแซงของบางฝ่ายจากต่างประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ระบอบไซออนิสต์และซาอุดิอาระเบีย ได้ถูกเปลี่ยนเป็นสนามของการก่อจลาจลและการก่อความไม่สงบต่างๆ

ที่มา : อัล อาลัม

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม