กอซิม สุไลมานี ต่อสู้อย่างมืออาชีพกับองค์กรก่อการร้ายทั่วโลก และแม้แต่ในช่วงความขัดแย้งขั้นสูงสุดระหว่างฮามาสกับดามัสกัส ตามการยืนยันของบรรดาผู้นำกองกำลังต่อต้าน (ฮามาส) เขาก็ยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงอยู่ในสนับสนุนประชาชนปาเลสไตน์
"ซอฟาอ์ อัลญะอ์บะรี" นักเขียนของหนังสือพิมพ์ "เราะยุลเยาม์" ได้เขียนบทความหนึ่งลงในหนังสือพิมพ์ฉบับนี้แสดงการเคารพและให้เกียรติต่อชะฮีดนายพลกอซิม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ (Quds Force)
ส่วนหนึ่งจากเนื้อหาบทความดังกล่าวมีดังต่อไปนี้ :
"ดิฉันมี "อะมานะฮ์" (ของฝาก) ที่ดิฉันจะอ้างจากแม่ชาวปาเลสไตน์ของฉัน คือ "สุมัยยะฮ์ อบูฮะมีด"
หลังจากการปลดปล่อยตอนใต้ของเลบานอน ชะฮีด "อับดุลอะซีซ อัล-รันติซี" (หนึ่งในผู้นำของฮามาส ซึ่งถูกรัฐบาลไซออนิสต์ลอบสังหาร) ได้มายังเมืองราฟาห์เพื่อพบปู่ของดิฉัน พวกเขาได้พูดคุยกันเกี่ยวกับกองกำลังกุดส์ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC) และ "กอซิม สุไลมานี"
ดิฉันไม่ได้ยินสิ่งใดจากชะฮีด "อัล-รันติซี" นอกจากยกย่องสรรเสริญสุไลมานี เขาอธิบายถึงสุไลมานีว่า เป็นพี่น้องของกองกำลังต่อต้าน (ฮามาส) และเป็นผู้ที่มีความรักผูกพันต่อดินแดนปาเลสไตน์ และกล่าวว่า เขา (ชะฮีดสุไลมานี) ได้มอบประสบการณ์ทั้งหมดของเขาให้กับกองกำลังต่อต้านแห่งปาเลสไตน์ในการสร้างดุลอำนาจ ซึ่งทำให้ไซออนิสต์เกิดความหวาดกลัว
คำอธิบายของชะฮีดอัล-รันติซี ถึงความกล้าหาญต่างๆ ของชะฮีดกอซิม สุไลมานีนั้นยอดเยี่ยมมาก ถือว่าเพื่อนร่วมภาษาและเพื่อนร่วมชาติของตนไม่อาจจะเทียบกับเขาได้ และเรียกเขาว่าเป็นพันธมิตรที่ซื่อสัตย์ ในการยืนหยัดต่อต้านอิสราเอลโดยที่แม้แต่ในสถานการณ์ที่ยากที่สุดและอันตรายที่สุด เขาก็ไม่ลังเลที่จะช่วยเหลือกลุ่มต่อต้านชาวปาเลสไตน์โดยปราศจากความปรารถนา ที่จะอวดอ้างตน ...
กอซิม สุไลมานี ต่อสู้อย่างมืออาชีพกับองค์กรก่อการร้ายทั่วโลก ถึงแม้แต่ในช่วงความขัดแย้งระดับสูงสุดระหว่างฮามาสกับดามัสกัส ตามการยืนยันของบรรดาผู้นำกองกำลังต่อต้าน (ฮามาส) เขาก็ยังคงมั่นคงอยู่ในสนับสนุนประชาชนปาเลสไตน์
ตรงกันข้ามกับการโฆษณาชวนเชื่อที่น่ารังเกียจของสื่อตะวันตก เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ยืนขึ้นเผชิญหน้ากับระบอบไซออนิสต์ด้วยความตระหนักอย่างเต็มที่และปราศจากจากการแบ่งแยกนิกาย
ด้วยการลอบสังหารสุไลมานี รัฐบาลอเมริกันต้องการทำลายจิตวิญญาณของกองกำลังต่อต้าน (มุกอวะมะฮ์) แต่ภาพของพิธีศพที่น่าทึ่งของเขาในอิรักและอิหร่านนั้น ได้เป็นไปตรงกันข้ามกับความต้องการของพวกเขา
หลังจากนั้นเราก็ได้เห็นการตอบโต้ (ด้วยการยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก) จากอิหร่าน ซึ่งด้านหนึ่งได้สร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นในหัวใจของชาวอเมริกัน และในอีกด้านหนึ่งเป็นสาส์นที่สร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มต่อต้าน (มุกอวะมะฮ์) ทั้งหลาย
ชาวอิหร่านได้กำหนดเป้าการโจมตีด้วยขีปนาวุธที่ทรงพลังจากดินแดนของตนไปยังฐานทัพทหารที่ไกลที่สุดของสหรัฐฯ ในอิรัก (ในเมืองอัลนุลอะซัด) และได้ทำลายทำให้ศูนย์ควบคุม, หน่วยวางแผนและปฏิบัติการ รวมทั้งหน่วยบัญชาการการโจมตีทางอากาศ
ระบบป้องกันของสหรัฐฯ ไม่สามารถตรวจจับและสกัดกั้นขีปนาวุธที่ถูกยิงมาได้แม้แต่ลูกเดียว สิ่งนี้แสดงถึงจุดอ่อนของพวกเขาและข่าวกรองที่แม่นยำของอิหร่าน
เราได้เห็นว่า พ่อคนหนึ่งของทหารอเมริกันที่อยู่ในฐานทัพอัยนุลอะซัดได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับโทรทัศน์ "C-SPAN" ของสหรัฐฯ เขาร้องไห้พร้อมกับกล่าวว่า หลังจากการโจมตีผ่านไปแล้วหลายวัน จนถึงขณะนี้เขายังไม่ได้รับข่าวคราวใดๆ เกี่ยวกับลูกชายเพียงคนเดียวของเขาเลย!
ทำไมทรัมป์ จึงปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามสัญญาของเขาที่กล่าวว่า เขาจะกำหนดเป้าหมายไปยังสถานที่สำคัญ 52 แห่งในอิหร่าน?
เขาตระหนักดีว่าฐานทัพต่างๆ ของสหรัฐฯ และอิสราเอลจะต้องตกเป็นเป้าการโจมตีโดยขีปนาวุธของอิหร่าน ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้เองยอมกล่าวอ้างแค่เพียงว่า การโจมตีของอิหร่านนั้นไม่มีการบาดเจ็บล้มตาย
แต่แหล่งข่าวต่างๆ ได้รายงานว่า ผู้บาดเจ็บล้มตายจากการโจมตีครั้งนี้ ได้ถูกเคลื่อนย้ายออกไปจากอิรักโดย 9 เที่ยวบิน
ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไรก็ตาม อิหร่านได้ทำลายศักดิ์ศรีและความน่ากลัวของสหรัฐฯ และอิสราเอลลง ซึ่งได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะของตน ได้สร้างเกียรติศักดิ์ศรีและความเชื่อมั่นให้กับประชาชนชาวอิหร่านอย่างเห็นได้ชัดเจน
ที่มา : ญอมนิวส์
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม
In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم
Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم
ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You
WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center