ตามรายงานที่เปิดเผยโดยเว็บไซต์ราคาน้ำมัน (Oil Price) บ่งชี้ว่า ซาอุดิอาระเบียกำลังจะล้มละลายลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการทำสงครามน้ำมันกับรัสเซีย การล้างแค้นของเจ้าชายมุฮัมมัด บินซัลมาน และการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา....

     รายงานนี้ได้กล่าวว่า : สงครามน้ำมันของซาอุดิอาระเบียกับรัสเซีย ซึ่งราคาน้ำมันที่ลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อาจนำไปสู่การล้มละลายของซาอุดิอาระเบียและการหมดลงของเงินสำรองเงินตราต่างประเทศ

     สัญญาณของการล้มละลายทางเศรษฐกิจของซาอุดิอาระเบียเริ่มชัดเจนขึ้น ประกอบกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาและการคิดบัญชีภายในครอบครัวของราชวงศ์ซะอูด ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจทั้งหมดเชื่อว่า ริยาดจะเสียค่าใช้จ่ายราคาสูงเพื่อผลประโยชน์ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา

     ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้กล่าวเสริมว่า สงครามน้ำมันของซาอุดิอาระเบียกับรัสเซียจะเป็นประโยชน์สำหรับทรัมป์ และการคิดบัญชี (การขจัดขวากหนามและการจับกุม) ภายในราชวงศ์จะเป็นประโยชน์สำหรับ มุฮัมมัด บินซัลมาน แต่ผลลัพธ์ที่จะตามมาก็คือ การที่ซาอุดิอาระเบียจะถูกผลักไสไปสู่ปากเหวของการล้มละลาย

     เว็บไซต์ "Old Diplomacy" ได้เขียนในเรื่องนี้ว่า : การล่มสลายทางเศรษฐกิจนี้ ระบอบการปกครองของซาอุดิถูกบังคับให้ถอนเงินออกจากกองทุนสำรองเงินตราและกู้ยืมด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูง และประกอบกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง และอัตราเงินเฟ้อที่ไม่เคยเคยมีมาก่อนในประเทศซาอุดิอารเบีย ด้วยเหตุนี้เองหากในอีกหลายเดือนข้างหน้าราคาน้ำมันไม่เพิ่มขึ้น ราชวงศ์ซะอูดจะล้มละลายภายในหกเดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาน้ำมันดิบ 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ไม่อาจเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายที่หรูหราและฟุ่มเฟือยของราชวงศ์ซะอูดได้เลย

     เว็บไซต์นี้ได้กล่าวเสริมว่า : เศรษฐกิจของรัสเซียมีเพียง 35% ที่ต้องพึ่งพาน้ำมันในขณะที่เศรษฐกิจของซาอุดิอาระเบียต้องพึ่งอาศัยยอดขายน้ำมันที่ 85% และต้นทุนการสกัดน้ำมันของรัสเซียก็เหมือนกับประเทศอื่นๆ ในโลก ซึ่งไม่สูงมากไปกว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันอื่นๆ  ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ รัสเซียจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากราคาน้ำมันที่ตกต่ำ แต่ซาอุดิอาระเบียจะล้มละลายหากยังคงทำสงครามน้ำมันกับรัสเซียต่อไป

     เว็บไซต์ "Ahrar al-Najran" ก็เขียนเช่นกันว่า : เศรษฐกิจของซาอุดิอารเบียทรุดตัวลงเนื่องจากอัตราการว่างงานของประเทศอยู่ที่ 34 เปอร์เซ็นต์ และความยากจนอยู่ที่ 25 เปอร์เซ็นต์ บริษัทขนาดใหญ่ทั้งหมดได้ล้มละลายลง และการขาดดุลงบประมาณของประเทศยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุเกิดจากความอยุติธรรมและการทำสงครามของบินซัลมานในเยเมน ซึ่งจนถึงขณะนี้ได้สูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากบริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกไป

ที่มา : อัลอาลัม

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม