เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ของอิหร่านและวันแต่งตั้งท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ท่านอายะตุลลอฮ์คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวสุนทโรวาทผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ โดยกล่าวว่า : “บรรดาเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เป็นทั้งคนโกหก หน้าด้าน โลภ ปลิ้นปล้อน อธรรม โหดร้าย ไร้ความเมตตาและเป็นผู้ก่อการร้าย เช่นนี้ที่ศัตรูแสดงออกต่อเรา
จนถึงขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯ พูดหลายครั้งแล้วว่า เราพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในด้านเยียวยาและยารักษาโรค เพียงแค่พวกท่านขอมาเราก็จะให้การช่วยเหลือ นี่คือส่วนหนึ่งจากคำพูดที่แปลกประหลาดที่สุดที่พวกเขาได้กล่าวกับเราว่า "พวกท่านจงขอเรา" ประการแรกพวกคุณเองก็ขาดแคลน และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เองได้พูดเช่นนี้ ประการที่สอง พวกคุณถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ผลิตไวรัส ข้าพเจ้าไม่ทราบว่า ข้อกล่าวหานี้เป็นจริงเพียงใด แต่เมื่อมีการกล่าวหาเช่นนี้แล้ว มนุษย์ที่ฉลาดคนใดหรือที่จะขอความช่วยเหลือจากพวกคุณ? ไม่มีใครเชื่อใจพวกคุณ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากพวกคุณ
ประสบการณ์ 40 ปี แสดงให้เห็นว่า ประเทศ (อิหร่าน) มีขีดความสามารถในการจัดการกับปัญหาและความท้าทายต่างๆ ในทุกระดับ"
คำพูดของท่านผู้นำของการปฏิวัติอิสลามได้ถูกสะท้อนอย่างกว้างขวางในทันทีในสื่อภาษาอาหรับทั้งหลาย และสื่อหลายสำนักได้เลือกคำพูดของท่านในส่วนที่กล่าวไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ มาพาดหัวข่าวของพวกเขา โดยเขียนว่า ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามถือว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่น่าไว้วางใจและปฏิเสธที่จะขอความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ
"อัลมะยาดีน" ได้เลือกพาดหัวข่าวสำหรับคำพูดของท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม โดยเขียนว่า : "อายะตุลลอฮ์คอเมเนอีพูดกับบรรดาผู้นำสหรัฐฯ : พวกคุณเป็นคนหน้าด้านและอธรรม
อัลมะยาดีนยังได้อ้างถึงคำพูดของผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามของอิหร่านโดยกล่าวว่า ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามได้ย้ำว่า อิหร่านมีปัจจัยอำนวยและความสามารถทั้งหมดสำหรับการจัดการกับปัญหาและความท้าทายต่างๆ ในทุกระดับ
โทรทัศน์อัล มะนาร์ ก็ได้เลือกคำพูดของท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามมาพาดหัวข่าวเช่นกัน โดยเขียนว่า : รัฐบาลสหรัฐฯ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้แพร่กระจาย (ไวรัส) โคโรนา และไม่สามารถที่จะเชื่อใจพวกเขาได้
ท่านได้ย้ำเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะให้การช่วยเหลือแก่อิหร่านว่า : รัฐบาลสหรัฐฯ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ผลิตและแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา ดังนั้นจึงไม่สามารถเชื่อใจพวกเขาได้
อัลจาซีรา ก็ได้พาดหัวข่าวด้วยคำพูดของท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามเช่นกันว่า : "อายะตุลลอฮ์คอเมเนอี : เราไม่สามารถไว้ใจข้อเสนอของสหรัฐฯ ในการช่วยเหลือ (อิหร่าน) เพื่อจัดการกับไวรัสโคโรนาได้"
อัลจาซีราได้เขียนว่า : ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามของอิหร่านได้เรียกบรรดาเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่า "ผู้โกหกและอธรรม" ซึ่งได้รวมลักษณะที่ไม่ดีทั้งหมดไว้ในตัวพวกเขา ท่านปฏิเสธข้อเสนอของบรรดาเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่จะให้การช่วยเหลืออิหร่านในการจัดการกับไวรัสโคโรนา
"อัลมะซีเราะฮ์" สำนักข่าวทางการของอันซอรุลลอฮ์แห่งเยเมน ได้เลือกพาดหัวข่าวจากคำพูดของผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามว่า : "อายะตุลลอฮ์คอเมเนอี : อเมริกาไม่สามารถเชื่อถือได้และอิหร่านมีอำนาจที่จะเผชิญกับความท้าทายในทุกระดับ"
อัลมะซีเราะฮ์ได้สะท้อนคำพูดของผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามโดยอ้างจากสำนักข่าวตัสนีมว่า : "รัฐบาลสหรัฐฯ พูดหลายครั้งแล้วว่า เราพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และยาหากอิหร่านร้องขอ" ท่านกล่าวเสริมว่า : “ประการแรก พวกคุณเองก็ขาดแคลนและนี่คือสิ่งที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้พูด ประการที่สอง พวกคุณถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ผลิตไวรัสนี้"
"ซานา" (Sana ) สำนักข่าวทางการของซีเรียก็ได้สะท้อนถึงปัจจัยและความสามารถของอิหร่านในการจัดการกับโคโรนา โดยเขียนว่า : "อิหร่านมีปัจจัยอำนวยความสะดวกมากมายและกว้างขวางซึ่งสิ่งนี้เองทำให้อิหร่านสามารถที่จะจัดการกับความท้าทายต่างๆ ได้"
"อะระบี 21" ในเครือของกาตาร์ก็ได้เขียนว่า : อายะตุลลอฮ์คอเมเนอีได้วิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯ และปฏิเสธ (คำกล่าวอ้าง) การช่วยเหลืออิหร่านในการจัดการกับไวรัสโคโรนา
"อัล กุดส์ อัลอะระบี" ตีพิมพ์ในกรุงลอนดอนได้เลือกพาดหัวข่าวของตนว่า :
"อายะตุลลอฮ์คอเมเนอี : มีข้อสงสัยต่างๆ ว่าสหรัฐฯ เป็นผู้ผลิตไวรัสโคโรนา"
"อัลซูมาเรีย" สื่ออิรักได้สะท้อนคำพูดของผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามเช่นกัน ซึ่งให้ความสำคัญต่อการปฏิเสธการขอความช่วยเหลือต่อสหรัฐฯ จากผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม โดยเขียนว่า : "การยอมรับข้อเสนอของอเมริกานั้นคือความโง่เขลา"
อัลอะระบี อัลญะดีด ได้เขียนในเรื่องนี้เช่นกันว่า อายะตุลลอฮ์คอเมเนอี กล่าวโทษสหรัฐฯ ว่าเป็นผู้ผลิตไวรัสโคโรนาและได้ปฏิเสธความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ
หนังสือพิมพ์ "อัลบะยาน" ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เขียนเช่นกันว่า : สหรัฐฯ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้แพร่เชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งข้อเสนอของพวกเขาในการช่วยเหลืออิหร่านเป็นการดำเนินการที่แปลกประหลาดเนื่องจากพวกเขาเองก็ขาดแคลน
ที่มา : สำนักข่าวตัสนีม
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม
In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم
Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم
ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You
WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center