foto1
foto1
foto1
foto1
foto1

In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم

Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم

ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You

WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center

Get Adobe Flash player

ภาพ-นิทรรศการ

25,10,0,50,1
5,600,50,1,3000,500,25,800
100,150,1,50,12,30,50,1,70,12,1,40,1,1,1,3000
0,1,0,0,2,40,15,5,2,1,0,17,0,1
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...

176 ชีวิต สำคัญสำหรับอเมริกาจริงหรือ?

     เสียงโวยวายของอเมริกาหลังจากเครื่องบินโดยสารยูเครนตก ได้ดังขึ้นประหนึ่งว่าชีวิตของมนุษย์มีความสำคัญสำหรับรัฐบาลของประเทศนี้ แต่ประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่า ตลอดระยะเวลายาวนานหลายปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกานอกเหนือจากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจแล้วยังได้เข่นฆ่าชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์หลายล้านคน

     "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า เขาได้ยืนเคียงข้างประชาชนชาวอิหร่านมานับตั้งแต่เริ่มต้นรัฐบาลของเขา

     ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารว่ามันน่าสงสัย ท่าทีการแสดงออกในการปกป้องสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้รับการรายงานข่าวจากสื่อมวลชนเป็นพิเศษในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา น่าสนใจทีเดียวที่เราจะรู้ว่าสหรัฐฯ เป็นรัฐที่ถอนตัวออกจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Council หรือ UNHRC)

     คำถามก็คือว่า ชีวิตของผู้คนรวมถึงชาวอิหร่านนั้นมีความสำคัญต่อรัฐบาลอเมริกันจริงหรือ? เพื่อเป็นการตอบคำถามนี้ ก่อนอื่นเราจะมาทบทวนดูโดยสังเขป ไม่ใช่โดยละเอียดถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต

     สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรกและรายเดียวในประวัติศาสตร์ที่ใช้ระเบิดปรมาณูในการสังหารหมู่ประชาชนอย่างกว้างขวาง ในวันที่ 6 และ 9 สิงหาคม 1945

     สหรัฐอเมริกาได้ทิ้งระเบิดปรมาณูลงในเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ โดยคำสั่งของประธานาธิบดีแฮร์รี่ ทรูแมน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในขณะนั้น จนเป็นเหตุทำให้ผู้คนอย่างน้อย 220,000 คนต้องเสียชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน

     โดยรวมแล้วนับจากปี 1945 เป็นต้นมา รัฐบาลได้สังหารชีวิตของประชาชนพลเรือนมากกว่า 20 ล้านคนในสงครามต่างๆ จำนวนมาก

     ในอีกฉากหนึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับเที่ยวบินโบอิ้ง 737 ของยูเครนซึ่งตกใกล้กับสนามบินอิมามโคไมนี (ร.ฮ.) แต่บางทีนายทรัมป์อาจลืมไปหรืออย่างน้อยก็อาจไม่ได้หันกลับมาดูตัวเองว่า ในวันที่ 3 กรกฎาคม 1988 กองทัพสหรัฐฯ จงใจยิงเครื่องบินเที่ยวบินที่ 655 ของสายการบินอิหร่านแอร์ โดยมีผู้โดยสารจำนวน 290 คน ซึ่งประกอยด้วยเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีจำนวน 66 คน รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใดๆ ในเรื่องนี้ ซึ่งหลังจากผ่านไปสี่ปีนิตยสาร "นิวส์วีก" ไม่ใช่รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมายอมรับว่า กองทัพสหรัฐฯ ต้องรับผิดชอบในการโจมตีนี้

     จนถึงขณะนี้สหรัฐอเมริกาไม่เคยขอโทษต่อการกระทำดังกล่าว แต่ในทางตรงกันข้ามกลับมอบเหรียญแห่งความกล้าหาญให้แก่ "William Rogers" ผู้บัญชาการเรือรบ "USS Vincennes (CG-49)"  ผู้ที่จงใจฆ่าผู้โดยสารผู้บริสุทธิ์จำนวน 290 คน กลับมาวันนี้กลายเป็นผู้กังวลต่อผู้คนจำนวน 176 คนไปแล้วกระนั้นหรือ?

     หากสหรัฐอเมริกามีความกังวลต่อชีวิตมนุษย์จริงแล้ว ทำไมจึงลอบสังหารเจ้าหน้าที่ทหารของอิหร่านและอิรักในบริเวณใกล้สนามบินแบกแดด? บรรดาผู้ที่เสียชีวิตในการโจมตีดังกล่าวนั้นไม่ใช่มนุษย์อย่างนั้นหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นชะฮีดนายพล "กอซิม สุไลมานี" เป็นผู้ช่วยชีวิตประชาชนในภูมิภาคจำนวนนับล้านให้รอดพ้นจากความชั่วร้ายของกลุ่มไอซิส ด้วยความอุตสาห์พยายามของตน โดยไม่รู้ว่า หากกลุ่มไอซิสไม่ปราชัยและในทางกลับกันหากพวกเขามีอำนาจขึ้นมา ถึงตอนนี้และในอนาคตจะทำให้ชีวิตของผู้คนจำนวนหลายล้านตกอยู่ในภยันตรายอย่างไร การลอบสังหารบุคคลที่จะช่วยให้ชีวิตของมนุษย์รอดพ้นจากอันตรายนั้น ในความเป็นจริงแล้วมิใช่เป็นการทำให้ชีวิตของผู้อื่นตกอยู่ในอันตรายกระนั้นหรือ?

     มีตัวอย่างทางประวัติศาสตร์มากมายเกี่ยวกับอาชญากรรมของสหรัฐอเมริกา เริ่มตั้งแต่การสังหารหมู่ชาวเวียดนามไปจนถึงการฆ่าผู้บริสุทธิ์ในอัฟกานิสถานและอิรัก เรื่องราวของสถานกักกัน "Abu ​​Ghraib" , "Bagram" และ "Guantanamo" และการทรมานนักโทษอย่างโหดร้ายก็ยังไม่ได้ถูกลบเลือนออกไปจากความทรงจำของประชาชน

     อย่างไรก็ตามสหรัฐอเมริกาได้พยายามเปรียบเทียบระหว่างการตกของเครื่องบินยูเครนในอิหร่านและการยิงเครื่องบิน 655 ของสายการบินอิหร่านแอร์ ในขณะที่เที่ยวบินของอิหร่านถูกยิงตามคำสั่งของผู้บัญชาการทหารสหรัฐฯ โดยเจตนา แต่เที่ยวบินของยูเครนได้ตกอันเป็นผลมาจากความผิดพลาดของมนุษย์และไม่มีเจ้าหน้าที่อาวุโสอยู่ในการปฏิบัติการของระบบป้องกันภัยทางอากาศ

     ดูเหมือนจะมีความแตกต่างกันมากระหว่างสองเหตุการณ์นี้ ถึงแม้ว่า การตกของเครื่องบินยูเครนจะเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เจ้าหน้าที่อิหร่านก็ได้แสดงความรับผิดชอบและขอโทษ แต่รัฐบาลสหรัฐฯ จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ยอมแสดงความรับผิดชอบและขอโทษ แต่มาตอนนี้กลับทำตัวเป็นเหมือน "พี่เลี้ยงที่เมตตาอาทรกว่าแม่"

     เราคงไม่พูดไปไกลมากกว่านี้ หลังจากการลอบสังหารนายพลกอซิม สุไลมานี "โดนัลด์ ทรัมป์" ได้ขู่ว่าจะทิ้งระเบิดโจมตีสถานที่ 52 แห่งของอิหร่าน รวมถึงสถานที่ต่างๆ ทางวัฒนธรรม ด้วยกับคำขู่เช่นนี้ ยังจำเป็นต่อเหตุผลอื่นๆ มากไปกว่านี้อีกกระนั้นหรือ ในการพิสูจน์ความเป็นปฏิปักษ์ของเขากับประชาชนชาวอิหร่าน และความไม่ยี่หระใดๆ ของเขาต่อการเข่นฆ่าชีวิตของมนุษย์?

     เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลของสหรัฐฯ สามารถทำให้เรื่องสองเรื่องที่ตรงข้ามกันและไม่อาจรวมกันได้มารวมกันและเป็นจริงขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ ในด้านหนึ่งคือการคว่ำบาตรต่างๆ ที่โหดร้ายและไร้มนุษยธรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนสามัญชนและต่อกระบวนการรักษาผู้ป่วย และกระทั่งว่าในหลายกรณีที่เด็กๆ ผู้ไร้เดียงสาต้องสูญเสียชีวิตลง แต่ในอีกด้านหนึ่งพวกเขากู่ก้องร้องตระโกนกล่าวอ้างถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน


ที่มา : สำนักข่าวตัมนีม

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม