ข้อตกลงของทรัมป์กับชาวคริสเตียนไซออนิสต์เกี่ยวกับปาเลสไตน์ และเบื้องหลังการตัดสินใจที่อึกกระทึกครึกโครมในห้องโถงทางทิศตะวันออกของทำเนียบขาว พื้นฐานนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ที่มีต่ออิสราเอลนั้นวางอยู่บนข้อพิจารณาต่างๆ ทางศาสนาและแนวคิดสุดโต่งทางศาสนาของคริสเตียนอีแวนเจลิคอล (Evangelicalism) ของสหรัฐอเมริกา

“    ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาการสนับสนุนระบอบไซออนิสต์ของสหรัฐอเมริกานั้น วางพื้นฐานอยู่บนหลักการทางภูมิยุทธศาสตร์ (geostrategic) แต่นับจากช่วงเวลาเริ่มต้นการเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์ พื้นฐานการสนับสนุนของวอชิงตันต่อระบอบการปกครองของอิสราเอลนั้นได้รับอิทธิพลและมีกลิ่นไอทางศาสนา”

     พื้นฐานนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ที่มีต่ออิสราเอลนั้นวางอยู่บนข้อพิจารณาต่างๆ ทางศาสนาและแนวคิดสุดโต่งทางศาสนาของคริสเตียนอีแวนเจลิคอล (Evangelicalism) ของสหรัฐอเมริกาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมที่ปรึกษาของทรัมป์ที่สนับสนุนชาวยิว มีบทบาทสำคัญในการกำหนดบังคับแผน “ข้อตกลงแห่งศตวรรษ” (Deal of Century)

     ตามรายงานของ “อัลจาซีรา” (Al Jazeera) พื้นฐานนโยบายต่างๆ ของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อความขัดแย้งระหว่างอาหรับและไซออนิสต์ของสหรัฐได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากนับตั้งแต่การเข้าดำรงตำแหน่งของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ในรัฐบาลของประเทศนี้ จนถึงจุดที่แผนที่เรียกว่า "ข้อตกลงแห่งศตวรรษ" ได้ถูกหยิบยกโดยสหรัฐอเมริกา

     เกี่ยวกับเรื่องนี้อดีตนักการทูตสหรัฐที่เคยทำงานมานานหลายทศวรรษในตะวันออกกลางได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์อัลจาซีราว่า วอชิงตันไม่ถือว่าการตั้งถิ่นฐานของชาวไซออนิสต์ในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองเป็นเรื่องผิดกฎหมายอีกต่อไป และจะไม่ปฏิเสธคัดค้านการผนวกเขตเวสต์แบงก์เข้ากับดินแดนที่ถูกยึดครอง การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในนโยบายของวอชิงตันที่มีต่ออิสราเอลนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับจุดยืนทางการเมือง แต่กลับกลายมาเป็นประเด็นทางศาสนาอีกครั้ง!

     ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาการสนับสนุนระบอบไซออนิสต์ของสหรัฐอเมริกานั้นวางพื้นฐานอยู่บนหลักการทางภูมิยุทธศาสตร์ (geostrategic) แต่นับจากช่วงเวลาเริ่มต้นการเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์ พื้นฐานการสนับสนุนของวอชิงตันต่อระบอบการปกครองของอิสราเอลนั้นได้รับอิทธิพลและมีกลิ่นไอทางศาสนา

     “มารีฟ โซนซีน” ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับคัมภีร์ตัลมุดกล่าวว่า “คริสเตียนอีแวนเจลิคอล" จำนวนมากที่ลงคะแนนให้ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในปี 2016 เชื่อว่า คำสัญญาของพระเจ้าต่อชาวยิวสำหรับการกลับไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ (ปาเลสไตน์) จะจัดเตรียมพื้นฐานสำหรับการกลับมาครั้งที่สองของ “พระคริสต์”

     “ในการเลือกตั้งนี้ทรัมป์ได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 81 จากคริสเตียนอีแวนเจลิคอลชาวอเมริกันและการเข้าสู่ทำเนียบขาวของเขานั้น โดยพื้นฐานสำคัญแล้วเกิดจากคะแนนเสียงนี้” (ภาพ)

     ทำนองเดียวกันนี้ ทีมที่เรียกว่า "Middle East Peace" ของทรัมป์ยังประกอบไปด้วยพวกยิวหัวรุนแรง อย่างเช่น “Jared Kouchner” ลูกเขยของเขาและ “David Friedman” เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำดินแดน (ปาเลสไตน์) ที่ถูกยึดครอง “Jason Greenblatt” ซึ่งเป็นผู้แทนของสหรัฐฯ ในกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ “Mike Pence” รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ “Mike Pompeo” รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก็เป็นคริสเตียนอีแวนเจลิคอลหัวรุนแรงในรัฐบาลของทรัมป์

     ในห้องโถงทางทิศตะวันออกของทำเนียบขาว สถานที่ซึ่ง “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้ประกาศข้อตกลงแห่งศตวรรษ “เชลดอน อเดลสัน” (Sheldon Adelson) นักลงทุนชาวยิวอเมริกันยิวและเป็นผู้สนับสนุนโครงการของไซออนิสต์มายาวนานพร้อมด้วย "มิเรียม อเดลสัน" (Miriam Adelson) ภรรยาของเขาได้นั่งอยู่ในแถวแรก สองสามีภรรยาคู่นี้มีทรัพย์สมบัติมากกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ได้สะสมผ่านการเป็นเจ้าของและการบริหารบ่อนคาสิโนต่างๆ ในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลาสเวกัส ทั้งสองเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

     เชลดอนและภรรยาของเขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ “เบนจามิน เนทันยาฮู” นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และทรัมป์ พร้อมครอบครัวของเขา ทั้งคู่ใช้เงินจำนวนมหาศาลของตนในการสนับสนุนคริสตจักรอีแวนเจลิคอลที่ให้การสนับสนุนอิสราเอล

     รายงานจากสื่อต่างๆ แสดงให้เห็นว่า หลังจากการขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีของ “โดนัลด์ ทรัมป์” กลุ่มคริสเตียนอีแวนเจลิคอลได้รับอิทธิพลอย่างมากในทำเนียบขาว

     “จอร์น ฮาจี” (John Hagee), "รอน ลอเดอร์" (Ron Lauder) และ “โรเบิร์ต เจฟเฟอร์ส” (Robert Jeffress) ผู้ซึ่งในการสนับสนุนตำนานต่างๆ ของคริสจักรอีแวนเจลิคอล เกี่ยวกับอิสราเอลและดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้น พวกเขาถูกนับว่าเป็นส่วนหนึ่งจากคริสเตียนที่หัวรุนแรงที่สุด พวกเขาคือส่วนหนึ่งจากผู้ที่ปรากฏตัวอยู่ในพิธีเปิดตัว “ข้อตกลงแห่งศตวรรษ” ของทรัมป์

      จุดยืนของบรรดาผู้สนับสนุนคริสตจักรอีแวนเจลิคอลเป็นที่รับรู้จักกันดีว่าคือการสนับสนุนอย่างไม่มีขีดจำกัดและไม่มีเงื่อนไขสำหรับแผนการของไซออนิสต์โดยไม่ใส่ใจต่อสิทธิสมเหตุเป็นผลและตามกฎหมายของชาวปาเลสไตน์

     เพื่อทำความเข้าใจถึงแนวคิดของกลุ่มนี้ซึ่งผู้สนับสนุนส่วนใหญ่ของทรัมป์ปฏิบัติตามมัน เราจะย้อนกลับไปดูความเชื่อของนิกาย "โปรเตสแตนต์" : ตามแนวคิดนี้ นิกายโปรเตสแตนต์จำเป็นจะต้องตกอยู่ใต้อิทธิพลของศาสนายูดาย เพื่อว่าอิทธิพลหรือผลกระทบดังกล่าวนี้จะเป็นสื่อทำให้เกิดการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเหมือนการเป็นพันธมิตรระหว่างศาสนาคริสต์และยูดาย ซึ่งจะก่อให้เกิดความสัมพันธ์พิเศษระหว่างชาวยิวไซออนิสต์และชาวโปรเตสแตนต์นิกายฟันดาเมนทัลลิสท์

     ตามคำพูดของอดีตนักการทูตชาวอเมริกัน “ลัทธิคริสเตียนไซออนิสต์” (Christian Zionism) โดยการครอบงำของขบวนการฟันดาเมนทัลลิสท์นี้ เชื่อในความจำเป็นของการกลับไปของชาวยิวยังดินแดนแห่งพันธสัญญาในปาเลสไตน์ทั้งหมด และการจัดตั้งรัฐยิวด้วยจุดประสงค์เพื่อการเตรียมการสำหรับ "การกลับมาของพระคริสต์" และวางรากฐานของอาณาจักรพันปี (The Millennial Kingdom)

     ในปี 1975 ขบวนการ “Christians United for Israel (CUFI)” ได้ถูกจัดตั้งขึ้น ขบวนการนี้เป็นหนึ่งในสถาบันที่ใหญ่ที่สุดที่สนับสนุนความช่วยเหลือทางทหารแก่ระบอบไซออนิสต์และเพื่อการผนวกเขตเวสต์แบงก์ และขบวนการนี้มีสมาชิกมากกว่า 8 ล้านคน เมื่อสองปีที่แล้วในพิธีเปิดตัวสถานทูตสหรัฐฯ ในเยรูซาเล็มที่ถูกครอบครอง “โรเบิร์ต เจฟเฟอร์ส” (Robert Jeffress) ได้เริ่มด้วยการสวดมนต์ภายในสถานทูตนี้

    หลังจากที่ทรัมป์ได้เปิดตัวแผน “ข้อตกลงแห่งศตวรรษ” (Deal of Century) ของตน “โจเอล โรเซนเบิร์ก” (Joel C. Rosenberg) บาทหลวงของคริสเตียนอีแวนเจลิคอลและผู้ก่อตั้งกลุ่มพันธมิตร “สันติภาพเยรูซาเล็ม” ได้แสดงความปิติยืนดีในหนังสือพิมพ์ “คริสเตียนทูเดย์” และบรรยายถึงพิธีเปิดตัวข้อตกลงแห่งศตวรรษว่ายอดเยี่ยมมาก และกล่าว ในความคิดของผมทรัมป์ได้ปฏิบัติต่อชาวปาเลสไตน์อย่างใจกว้างมาก!

    ในอีกด้านหนึ่ง "มอร์ตัน ไคลน์" (Morton Klein) หัวหน้าองค์การไซออนิสต์แห่งอเมริกา (Zionist Organization of America) ได้กล่าวชื่นชมแผนดังกล่าวนี้และกล่าวในแถลงการณ์ว่า ข้อตกลงแห่งศตวรรษนี้ยอมรับสิทธิของอิสราเอลในการผนวกดินแดนต่างๆ อันเป็นกรรมสิทธิ์ของตนและความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ระหว่างชาติและดินแดนของบรรพบุรุษของชาวยิว

    จากทศวรรษที่ 1980 ที่ผ่านมา “เมนาเฮม เบกิน” (Menachem Bigen) อดีตนายกรัฐมนตรีของระบอบไซออนิสต์ และบรรดานายกรัฐมนตรีหลังจากเขาได้ตระหนักถึงความสำคัญของความสัมพันธ์กับคริสเตียนอีแวนเจลิคอล ในช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาก็เช่นกัน เมือง “ไมอามี” ในรัฐฟลอริดาได้เปิดตัวขบวนการ "Evangelicals for Trump" ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมาถึง

(การเปิดตัวขบวนการ "Evangelicals for Trump" ในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา (ภาพ) )

    อย่างไรก็ตามหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ได้อ้างคำพูดของ “ไมเคิล โกลด์เบิร์ก” (Michael Goldberg) ซึ่งเชื่อว่าทรัมป์ เป็น "ม้าโทรจัน" (Trojan horse) สำหรับคริสตจักรอีแวนเจลิคอลซึ่งต้องการครอบงำเหนือการเมืองของสหรัฐอเมริกา

ที่มา : มัชริกนิวส์

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม