foto1
foto1
foto1
foto1
foto1

In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم

Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم

ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You

WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center

ภาพ-นิทรรศการ

25,10,0,50,1
5,600,50,1,3000,500,25,800
100,150,1,50,12,30,50,1,70,12,1,40,1,1,1,3000
0,1,0,0,2,40,15,5,2,1,0,17,0,1
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...

เหตุการณ์วันที่ 11 มุฮัรรอม | คาราวานของเชลยแห่งกัรบาลาเดินทางผ่านเรือนร่างบรรดาชะฮีด

      เที่ยงของวันที่ 11 ของเดือนมุฮัรรอม กองคาราวานของเชลยแห่งกัรบาลาได้เคลื่อนผ่านเรือนร่างของบรรดาชะฮีดและมุ่งหน้าไปยังเมืองกูฟะฮ์

        วันที่ 11 ของเดือนมุฮัรรอม ปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 61 "อุมัร อิบนุซะอัด" ได้สร้างโศกนาฏกรรมและความอธรรมที่ใหญ่หลวงอีกครั้งหนึ่งไว้ในประวัติศาสตร์ของตน เขาได้จับกุมครอบครัวของท่านอิมามฮุเซน (อ.) และผู้รอดชีวิตจากการเป็นชะฮีดเป็นเชลยและในช่วงเที่ยงของวันดังกล่าวได้เคลื่อนเชลยเหล่านั้นเดินทางผ่านสถานที่ถูกสังหารของบรรดาชะฮีดแห่งกัรบาลาและพาคารานมุ่งสู่เมืองกูฟะฮ์

การมอบศีรษะของอิมามฮุเซน (อ.) ให้กับเคาลีผู้ถูกสาปแช่ง

        ในวันที่ 11 ของเดือนมุฮัรรอม ปี ฮ.ศ. 61 อุมัร อิบนุซะอัด ได้มอบศีรษะของท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (อ.) ให้แก่เคาลี เพื่อให้เขานำไปยังวังของอุบัยดิลลาอ์ อิบนิซิยาด เคาลีได้วางศีรษะอันบริสุทธิ์นั้นลงบนอานม้าของเขา ในสภาพที่เขาไม่เข้าใจเลยว่าเขากำลังนำศีรษะของผู้ใดไป

อีกหน้าหนึ่งจากโศกนาฏกรรมนองเลือดแห่งกัรบาลา

        แม้หลังจากการเป็นชะฮีดของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ต่างๆ ของอาชูรอจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของการตกเป็นเชลยของอะฮ์ลุลบัยต์ของท่านอิมาม (อ.) เหตุการณ์ต่างๆ เช่น การปล้นสะดมเสื้อผ้าของท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (อ.) การควบม้าขึ้นเหยียบย่ำเรือนร่างอันบริสุทธิ์ของบรรดาชะฮีด การปล้นสะดมและจุดไฟเผากระโจมค่ายพักต่างๆ และการส่งศีรษะของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ไปยังเมืองกูฟะฮ์ เป็นส่วนหนึ่งในเหตุการณ์หลังจากการเป็นชะฮีดของท่านอิมาม (อ.) ของเรา

        ในวันที่ 11 ของเดือนมุฮัรร็อม อาการป่วยของท่านอิมามสัจญาด (อ.) ได้แย่ลง และท่านหญิงซัยนับ (อ.) ได้ทำหน้าที่ดูแลท่านและเด็กๆ ในวันนั้นผู้หญิงและเด็กๆ กำลังรอการถูกควบคุมตัวเป็นเชลยด้วยสภาพร่างกายที่เหนื่อยล้าและเสื้อผ้าที่สกปรกและเปอะเปื้อนไปด้วยเลือด

การตัดศีรษะของบรรดาชะฮีดแห่งกัรบาลา

        ในสถานการณ์เช่นนี้เองที่ อุมัร อิบนุซะอัด ได้ออกคำสั่งให้กองทัพของเขาตัดศีรษะของบรรดาชะฮีดออกจากเรือนร่างของพวกเขา เพื่อส่งไปมอบให้บรรดาผู้ปกครองของเขาในเมืองกูฟะฮ์และเมืองชาม จากนั้น อุมัร อิบนุซะอัดก็สั่งให้แบ่งศีรษะของบรรดาชะฮีดในระหว่างเผ่าต่างๆ ที่เข้าร่วมในสงคราม เพื่อเป็นของขวัญให้แต่ละเผ่าได้มีส่วนเพื่อรับรางวัลเหมือนๆ กันจากยะซีดผู้ถูกสาปแช่ง ดูเหมือนว่าระดับการเข้าร่วมของชนเผ่าในกัรบะลาอ์เป็นตัวชี้วัดส่วนแบ่งของพวกเขา

ในขณะเดียวกัน เคาลี บินยะซีดได้แยกนำศีรษะอันบริสุทธิ์ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ไปยังเมืองกูฟะฮ์ ส่วนศีรษะที่เหลือของบรรดาชะฮีดแห่งกัรบาลาอ์นั้น "ชมร์ บินซียูชัน", "เกซ บินอัชอัษ", และ "อัมร์ บินฮัจญาจ" ได้นำไปยังเมืองกูฟะฮ์ก่อนกองคาราวานเชลยศึกแล้ว

การเคลื่อนขบวนคาราวานเชลยแห่งกัรบาลา

       ในตอนเที่ยงของวันที่ 11 เดือนมุฮัรรอม เมื่อกองคาราวานเชลยศึกพร้อมแล้วที่จะออกเดินทาง อุมัร อิบนุซะอัดได้ออกคำสั่งให้จุดไฟเผากระโจมค่ายพักของพวกเขาก่อนออกเดินทาง ด้วยวิธีนี้ ผู้ที่เหลือรอดชีวิตจากเหตุการณ์วันอาชูรอและครอบครัวของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ผู้เป็นที่รักที่สุดของพระผู้เป็นเจ้าก็ถูกควบคุมตัวเป็นเชลยด้วยสภาพเท้าเปือยเปล่า ในช่วงเวลานั้นเอง พวกเขาได้กล่าวกับกองทัพของ อุมัร อิบนุซะอัดว่า : "ขอสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า พวกเจ้าจงนำเราเดินทางผ่านสถานที่ถูกสังหารของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ด้วยเถิด" เมื่อสายตาของบรรดาสตรีได้มองเห็นเรือนร่างที่โชกไปด้วยเลือดของท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (อ.) และบรรดาสหายผู้ช่วยเหลือของท่าน เสียงร่ำไห้และเสียงโอดครวญก็ดังกึกก้องขึ้นในท้องทะเลทรายแห่งกัรบาลาอ์

       ในหนังสือ "นูรุลอัยน์ ฟี มัชฮะดิลฮุซัยน์ (อ.)" ได้เขียนว่า ในวันที่ 11 ของเดือนมุฮัรรอม เป็นไปตามคำสั่งของอุมมัร อิบนุซะอัด บรรดาทหารของเขาได้ใช้กำลังบีบบังคับให้บรรดาสตรีแยกตัวออกจากเรือนร่างของท่านอิมามฮุเซน (อ.) และคุมตัวพวกเขาเหมือนเป็นเชลยทั้ง ๆ ที่พวกเขาอยู่ในสภาพเศร้าโศกอย่างที่สุด อย่างไรก็ตาม มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่า ท่านหญิงซัยนับ (อ.) ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของความเศร้าโศกครั้งใหญ่นี้ ได้ปลอบโยนเพื่อนร่วมทางของนางในตลอดเส้นทางของการเดินทาง


แหล่งอ้างอิง:

- นะฟะซุลมะฮ์มูม, เชคอับบาส กุมมี

- อัล ลุฮูฟ, ซัยยิดอิบนิฏอวูซ

- มักตะลุลฮุซัยน์ (อ.), บะห์รุลอุลูม

- มักตะลุลฮุซัยน์ (อ.), คอรัซมี

- อะอ์ยานุชชีอะฮ์, ซัยยิดมุห์ซิน อามีน

- นูรุลอัยน์ ฟี มัชฮะดิลฮุซัยน์ (อ.), อิสฟะรออีนี อิบรอฮีม บินมุฮัมมัด

- ออยิเนะฮ์ ดัร กัรบาลาสต์, มุฮัมมัดริฎอ ซังกะรี


บทความ : เชคมุฮัมมัดนะอีม ประดับญาติ

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม