หนังสือพิมพ์ "อัล-บะนาอ์" ของเลบานอนได้เขียนโดยอ้างแหล่งข่าวระดับสูงของยุโรปว่า : ภายใต้แผนที่ตกลงร่วมกันระหว่างลอนดอนและวอชิงตัน มุฮัมมัด บินซัลมาน จะถูกปลดจากตำแหน่งมกุฎราชกุมารของซาอุดิอาระเบียเร็วๆ นี้ และ อะห์มัด บินอับดุลอะซีซ จะขึ้นเป็นมกุฎราชกุมาร โดยมี มุฮัมมัด บินนาเยฟ เป็นรองมกุฎราชกุมาร

    หนังสือพิมพ์ "อัล-บะนาอ์" ของเลบานอนได้เขียนในบทบันทึกภายใต้หัวข้อ "อะห์มัด บินอับดุลอะซีซ กับภารกิจที่ยากลำบากและเหตุการณ์ใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในกรุงริยาด" ว่า มุฮัมมัด บินซัลมานจะถูกปลดจากตำแหน่งมกุฎราชกุมารของซาอุดิอาระเบียเร็วๆ นี้ และอะห์มัด บินอับดุลอะซีซจะขึ้นเป็นมกุฎราชกุมารแทน

    อัล-บะนาอ์เขียนว่า ตามคำพูดของแหล่งข่าวชาวยุโรป สถานภาพของบินซัลมานได้จมลงแล้วและซาอุดิอาระเบียก็เกือบจะจมไปพร้อมกับเขา ความพยายามต่างๆ ของเนทันยาฮู ในโอกาสที่เหลือน้อยนี้ เป็นเพียงลมหายใจเทียมสำหรับบินซัลมาน

    อัล-บะนาอ์ได้เขียนว่า : แม้จะมีความยากลำบากในภารกิจของอะห์มัด บินอับดุลอะซีซ แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับเจ้าชายซาอุูฯ ผู้นี้ แหล่งข่าวในยุโรปกล่าวในการสนทนากับหนังสือพิมพ์เลบานอนโดยชี้ให้เห็นว่า ด้วยกับภารกิจของอะห์มัด บินอับดุลอะซีซนี้ ซาอุดิอารเบียกำลังจะเผชิญกับขั้นตอนต่างๆ ที่สำคัญและจริงจัง พร้อมกับกล่าวว่า : "คาดว่าแผนร่วมระหว่างลอนดอนและวอชิงตันในการสนับสนุนเจ้าชายอะห์มัด บินอับดุลอะซีซ พระอนุชาของกษัตริย์ซัลมานและพระราชโอรสคนสุดท้องของผู้ก่อตั้งซาอุดิอาระเบีย หนึ่งในเจ็ดพี่น้องสายซุดัยรีนั้นพร้อมที่จะปฏิบัติแล้ว และในระยะเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงหรือในสัปดาห์ข้างหน้าเราจะได้เห็นเหตุการณ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นในแวดวงการเมืองของประเทศซาอุดิอาระเบีย

     ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์ทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นเหล่านี้ไว้ใน 17 ประเด็นซึ่งมีดังต่อไปนี้ :

1.เจ้าชายอะห์มัด บินอับดุลอะซีซ อาลิซะอูด จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมกุฎราชกุมารและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของซาอุดีอาระเบีย

2.เจ้าชายมุฮัมมัด บินนาเยฟ อาลิซะอูด จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองมกุฎราชกุมาร

3.มุฮัมมัด บินซัลมานจะถูกกักบริเวณและจะหายลับไปจากเวทีทางการเมือง ความมั่นคงและการทหารของซาอุดิอาระเบียอย่างสิ้นเชิง

4.คอลิด บินซัลมาน บินอับดุลอะซีซ ลูกชายคนเล็กของกษัตริย์ซัลมานและเป็นเอกอัครราชทูตของซาอุดีอาระเบียประจำกรุงวอชิงตันจะถูกปลดออกจากตำแหน่งของตน

5."ซะอูด อัล-เกาห์ฏอนี" และ "เตอร์กี อาลิชัยค์" สองที่ปรึกษาของมุฮัมมัด บินซัลมาน ที่ทำการปลุกปั่นเขาให้จัดการกับบรรดานักวิชาการศาสนา บรรดาปัญญาชนและฝ่ายตรงข้ามและบรรดาสมาชิกภายในราชวงศ์ของซาอุดีอาระเบียและเป็นผู้ลงมือลอบสังหารและทรมานที่โรงแรมริตซ์และทำลายความสัมพันธ์ซาอุดิอาระเบียกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคและในโลกจะถูกจับกุมและถูกคุมขังในเรือนจำอัล-ฮาอิร

6."ซะอูด อัล-มุอ์ญิบ" อัยการสูงสุดของซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นสหายและเพื่อนร่วมงานของมุฮัมมัด บินซัลมานจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้ร่วมมือของเขาในการอำนวยความสะดวกในการจับกุม การทรมานและการออกคำสั่งตัดสินประหารชีวิต การจับกุมและการหายตัวไปจากของบรรดาฝ่ายต่อต้านและเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินตามความต้องการต่างๆ ของบินซัลมาน และไม่เคยเป็นนักกฎหมายแต่อย่างใด

7.การมอบหมายอำนาจกลับคืนให้แก่รัชทายาท ของกษัตริย์อับดุลลอฮ์และแต่งตั้งเจ้าชาย "มัตอับ บินอับดุลลอฮ์ บินอับดุลอะซีซ" ให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงพิทักษ์มาตุภูมิเพื่อเรียกคืนความจงรักภักดีของเผ่าใหญ่ต่างๆ ในซาอุดีอาระเบียกลับมาราชวงศ์ของซาอุดิอาระเบีย หลังจากที่มุฮัมมัด บินซัลมานพร้อมกับการดูถูกบรรดาแกนนำระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (National Guard) ได้ทำการลอบสังหารเสาหลักสำคัญคนหนึ่งของพวกเขา

8.การมอบอำนาจกลับคืนให้กับรัชทายาทของกษัตริย์ฟะฮัด โดยแต่งตั้งเจ้าชาย "เนาวาฟ บินไฟซอล บินฟะฮัด บินอับดุลอะซีซ" ให้เป็นหัวหน้าองค์กรกีฬาและเยาวชนและประธานคณะกรรมการโอลิมปิก

9.การมอบอำนาจกลับคืนให้กับ “มุกริน บินอับดุลอะซีซ” โดยแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาพิเศษของกษัตริย์และประธานคณะกรรมการบัยอัต (ถวายความจงรักภักดี)

10.การมอบอำนาจกลับคืนให้กับรัชทายาทของกษัตริย์ไฟซอลและพระราชโอรส ของซุลฏอน บินอับดุลอะซีซ อดีตมกุฎราชกุมาร โดยที่ “คอลิด บินบันดัร บินซุลฏอน” ซึ่งขณะนี้เป็นเอกอัครราชทูตของริยาดในเยอรมนีจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เขาเป็นลูกชายของ “บันดัร บินซุลฏอน” อดีตเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำกรุงวอชิงตันและเป็นหลานชายของ “ซะอูด อัลไฟซอล” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

11.”อับดุลอะซีซ บินซะอูด บินนายิฟ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของซาอุดิอาระเบียจะถูกปลด ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังคงมีการถกเถียงกันเกี่ยวกับผู้ที่จะมาแทนเขาและยังไม่มีการระบุชื่อที่แน่ชัด

12.”ซัลมาน บินอับดุลอะซีซ บินอับดุลลอฮ์” จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นเอกอัครราชทูตของริยาดในกรุงปารีส

13.”ซัลมาน บินซุลฏอน บินอับดุลอะซีซ อาลิซะอูด” จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเอกอัครราชทูตของริยาดในกรุงวอชิงตันเขาเป็นน้องชายของบันดัร บินซุลฏอนและเป็นอดีตรองรัฐมนตรีกลาโหมของซาอุดีอาระเบียและรองหัวหน้าหน่วยความมั่นคงแห่งชาติของซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ควบคุมห้องปฏิบัติการอัลมูกในจอร์แดนในการต่อต้านซีเรีย เขาเป็นลูกเขยของเจ้าชายอะห์มัด บินอับดุลอะซีซ

14.”อับดุลอะซีซ บินอับดุลลอฮ์ บินอับดุลอะซีซ” จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นเอกอัครราชทูตของริยาดในกรุงลอนดอน

15.เจ้าชาย “นายิฟ บินอะหมัด บินอับดุลอะซีซ” ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นนายพลและจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของซาอุดิอาระเบีย

16.บรรดาเจ้าชาย ปัญญาชนและนักโทษการเมืองและเสรีภาพในการพูดจะค่อยๆ ถูกปล่อยตัวพร้อมกับการขอโทษของกษัตริย์

17.คำสั่งการประหารชีวิตทั้งหมดที่ถูกออกเกี่ยวกับนักโทษทางการเมืองและศาสนาทั้งหมดจะถูกยกเลิกและจะมีการดำเนินคดีใหม่อีกครั้งด้วยการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมและผู้ถูกคุมขังหลายร้อยคนที่ต้องใช้เวลาหลายสิบปีในคุกซาอุดิอาระเบียจะได้รับการปล่อยตัวออกมา

ที่มา : สำนักข่าวฟาร์ส

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม