สหภาพผู้ประสบภัยจากการก่อการร้ายในฝรั่งเศส (AFVT) วิพากษ์วิจารณ์การกล่าวหาชาวมุสลิมว่าเป็นต้นเหตุของการโจมตีก่อการร้าย พร้อมกับกล่าวว่า ชาวมุสลิมเองคือผู้ตกเป็นเหยื่อของการก่อการร้ายมากที่สุด...

     สำนักข่าวฟาร์สรายงานว่า "Guillaume Denoix de Saint Marc" ประธานสหภาพผู้ประสบภัยจากการก่อการร้ายในฝรั่งเศส (Association française des victimes du terrorisme หรือ AFVT) กล่าวว่า : ชาวมุสลิมเป็นเหยื่อของการก่อการร้ายมากที่สุดในโลก

     เขาชี้ถึงประเด็นดังกล่าวว่า ประมาณร้อยละ 80 ของผู้ตกเป็นเหยื่อการก่อการร้ายนั้นเป็นมุสลิม และกล่าวว่า : องค์กรสหภาพฯ ในเครือข่ายของเขาได้ดำเนินการต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อเตรียมการช่วยเหลือขั้นพื้นฐานแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการก่อการร้าย เพื่อให้พวกเขากลับมาสู่ชีวิตตามปกติ

     ตามรายงานของ "อัล นัชเราะฮ์"  ประธานสหภาพผู้ประสบภัยจากการก่อการร้ายในฝรั่งเศส (AFVT) ซึ่งกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสุดยอดระหว่างประเทศว่าด้วยผู้ตกเป็นเหยื่อการก่อการร้ายในเมือง "นีซ" ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเขาได้กล่าวว่า เรากำลังดำเนินการเคลื่อนไหวต่างๆ ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้สมาชิกของสังคมถูกผลักไสไปสู่ความเป็นพวกหัวรุนแรง

     ประธาน "AFVT" กล่าวว่า : "ชาวมุสลิมเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้ลิ้มรสความขมขื่นของการก่อการร้าย และเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องพูดถึงประเด็นนี้ในยุโรป" เขากล่าวเสริมว่า : “บางคนคิดว่าบรรดาผู้ที่กระทำการโจมตีก่อการร้ายนั้นเป็นชาวมุสลิมเพียงเท่านั้น และผู้ที่ตกเป็นเหยื่อไม่ใช่ชาวมุสลิม สิ่งนี้ไม่เป็นความจริง เนื่องจากว่าชาวมุสลิมเองก็ตกเป็นเหยื่อจากการโจมตีของผู้ก่อการร้ายเช่นกัน"

     ประธานสหภาพผู้ประสบภัยจากการก่อการร้ายได้ออกมาพูดถึงประเด็นนี้ ในขณะที่สื่อโดยทั่วไปของยุโรปและอเมริกาได้พยายามมาหลายทศวรรษที่จะแพร่ขยายทัศนคติว่า ชาวมุสลิมคือต้นเหตุของความรุนแรงและการก่อการร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเหตุการณ์ 11 กันยายนและการปรากฏขึ้นของกลุ่มไอซิส ในซีเรียและอิรัก

ที่มา : สำนักข่าวฟาร์ส

แปลและเรียบเรียง : ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม