ในคัมภีร์อัลกุรอาน เมื่ออัลลอฮ์ทรงเรียกร้องเชิญชวนมนุษย์สู่การทำความดีและการเข้าร่วมในการกระทำต่างๆ ที่เป็นการสร้างสรรค์นั้น พระองค์จะทรงใช้สำนวนว่า “จงแข่งขันกัน” และคำสองคำที่ถูกใช้คือคำจากรากศัพท์ว่า “ซิบเกาะฮ์” (การนำหน้าผู้อื่น) และคำว่า “ซุรอะฮ์” (การรีบเร่ง , ความรวดเร็ว) โดยที่พระองค์ได้ทรงตรัสว่า :
فَاسْتَبِقُوا الْخَيْراتِ إِلَى اللَّهِ مَرْجِعُكُمْ جَميعاً
“ดังนั้นพวกเจ้าจงรีบรุดนำหน้ากันในความดีงามทั้งหลายเถิด ยังอัลลอฮ์นั้นคือการกลับคืนของพวกเจ้าทั้งมวล” (1)
และในอีกโองการหนึ่ง พระองค์ทรงตรัสว่า :
وَسَارِعُوا إِلَىٰ مَغْفِرَةٍ مِّن رَّبِّكُمْ وَجَنَّةٍ عَرْضُهَا السَّمَاوَاتُ وَالْأَرْضُ أُعِدَّتْ لِلْمُتَّقِينَ
“และพวกเจ้าจงแข่งขันกันสู่การอภัยโทษจากองค์พระผู้อภิบาลของพวกเจ้าและสวรรค์ ซึ่งความกว้างของมันประดุจดังชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน มันได้ถูกจัดเตรียมไว้แล้วสำหรับบรรดาผู้ยำเกรง” (2)
คำว่า “ซิบเกาะฮ์” นั้น หมายถึงการนำหน้าผู้อื่นในการเดินทาง การทำงาน ในการคิดและความรู้ และคำว่า “ซุรอะฮ์” นั้นหมายถึงการการเร่งรีบและการกระทำอย่างรวดเร็วในเรื่องต่างๆ
การรีบเร่งและการนำหน้าผู้อื่นในการทำดีนั้นเป็นหนึ่งในคุณลักษณะที่ดีงามและน่าสรรเสริญ และศาสนาอิสลามได้เน้นย้ำในเรื่องนี้ ดังตัวอย่างในสองโองการข้างต้น และในคำสอนของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) และอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) ก็มีคำพูด (วจนะ) จำนวนมาก ด้วยกับสำนวนต่างๆ ที่ชี้ถึงการส่งเสริมการรีบรุดและความรวดเร็วในการทำความดี ตัวอย่างเช่น :
ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ได้กล่าวว่า :
اغْتَنِمْ خَمْسًا قَبْلَ خَمْسٍ: شَبَابَكَ قَبْلَ هَرَمِكَ، وَصِحَّتَكَ قَبْلَ سَقَمِكَ، وَغِنَاكَ قَبْلَ فَقْرِكَ، وَفَرَاغَكَ قَبْلَ شُغْلِكَ، وَحَيَاتَكَ قَبْلَ مَوْتِكَ
จงฉวยโอกาสห้าประการก่อนห้าประการ : (คือ) ความหนุ่มของท่านก่อนความแก่ชราของท่าน ความมีสุขภาพสมบูรณ์ของท่านก่อนความเจ็บป่วยของท่าน ความมั่งมีของท่านก่อนความยากจนของท่าน ความว่างจากการงานของท่านก่อนความยุ่ง (ในภารกิจการงาน) ของท่าน และยามีชีวิตอยู่ของท่านก่อนความตายของท่าน” (3)
ท่านอิมามอะลี (อ.) :
بادِرِ الْفُرْصَةَ قَبْلَ اَنْ تَکوُنَ غُصَّةً
“จงรีบเร่งในโอกาสก่อนที่มันจะเป็นบ่อเกิดของความเศร้าเสียใจ” (4)
แต่การรีบร้อนและการผลีผลามในการกระทำโดยปราศจากการคิดใคร่ครวญและการตริตรองนั้น เป็นลักษณะนิสัยที่น่าตำหนิ เหตุผลของความน่าตำหนินั้นก็คือประเด็นที่ละเอียดอ่อนที่แฝงอยู่ในความหมายของตัวมันเอง รอฆิบ อัลอิสฟะฮานี ได้กล่าวไว้ในหนังสือ “อัลมุฟรอดาต” ในการอธิบายความหมายของคำว่า “อะญะละฮ์” (ความรีบร้อน) ว่า :
“อะญะละฮ์ (ความรีบร้อน) นั้น คือการแสวงหาสิ่งหนึ่งๆ ก่อนเวลาของมัน อันเกิดจากความกระสัน (อยากได้มาก) ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงกลายเป็นสิ่งที่ถูกตำหนิในทั่วทั้งหมดของอัลกุรอาน กระทั่งมีผู้กล่าวว่า : ความรีบร้อนนั้นมาจากมาร (ชัยฏอน)” (5)
ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) กล่าวว่า :
إِنّما أهلك الناس العجلة، ولو أنَّ الناس تثبتوا لم يهلك أحد
“แท้จริงความรีบร้อนนั้น จะทำให้มนุษย์พินาศ และหากมนุษย์มีความสุขุมรอบคอบแล้ว จะไม่มีผู้ใดพินาศ” (6)
ท่านยังได้กล่าวอีกว่า :
الإناةُ مِنَ اللَّهِ وَالْعَجَلَةُ مِنَ الشَّيْطَانِ
“ความสุขุมนั้นมาจากอัลลอฮ์ และความรีบร้อน (ผลีผลาม) นั้นมาจากมาร” (7)
ในแบบฉบับและวิถีปฏิบัติของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) และบรรดาอิมาม (อ.) นั้น ก็ได้แสดงให้เราเห็นเป็นอย่างดีถึงความสุขุมรอบคอบและการคิดใคร่ครวญก่อนตัดสินใจกระทำ และเมื่อแยกแยะแล้วว่าสิ่งนั้นเป็นความดีงาม พวกท่านก็จะรีบรุดในการกระทำมันอย่างไม่รีรอและปล่อยให้โอกาสของมันหลุดลอยไป
ในคำสอนของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ท่านก็ได้พูดถึงการแข่งขันและการรีบรุดในเรื่องของคุณธรรมและความดีงามเอาไว้เช่นกัน โดยที่ท่านกล่าวว่า :
اَيُّهَا النّاسُ نافِسوا فِى المَکارِمِ وَ سارِعوا فِى المَغانِمِ وَ لا تَحتَسِبوا بِمَعروفٍ لَم تَجعَلوا
“โอ้ประชาชนเอ๋ย! จงแข่งขันกันสู่การงานที่มีเกียรติและจงแข่งขันกันในโอกาสอันดีงาม (สิ่งที่ได้มาโดยไม่มีข้อแลกเปลี่ยน) ทั้งหลาย และพวกท่านอย่าได้คิดคำนวณความดีที่พวกท่านไม่ได้ (รีบรุด) กระทำมัน” (8)
การรีบรุดและการแข่งขันกันสู่ความดีในขบวนการต่อสู้แห่งกัรบะลา
ในสนามศึกแห่งกัรบะลา สหายและผู้ช่วยเหลือขอท่านอิมามฮุเซน (อ.) ทุกคนรู้ดีว่า พวกเขาจะต้องเป็นชะฮีดลงในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่า นั่นคือ นั่นคือการพิทักษ์ปกป้องหลักธรรมแห่งอิสลาม ปกป้องท่านอิมามฮุเซน (อ.) และครอบครัวของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) และนั่นคือความดีงามและความสำเร็จขั้นสูงสุดในชีวิตของตน พวกเขาลังเลและประวิงเวลาที่จะให้การช่วยเหลือและสนองตอบเจตนารมณ์และคำบัญชาของท่าน แม้แต่บรรดาเยาวชน ผู้เป็นลูกหลานของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในวันอาชูรอ เราจะเห็นได้ถึงคุณลักษณะของการรีบรุดและการแข่งขันกันสู้ความดี ตามที่อัลกุรอานได้กล่าวไว้
فَاسْتَبِقُوا الْخَيْراتِ إِلَى اللَّهِ مَرْجِعُكُمْ جَميعاً
“ดังนั้นพวกเจ้าจงรีบรุดกันในความดีงามทั้งหลายเถิด ยังอัลลอฮ์นั้นคือการกลับคืนของพวกเจ้าทั้งมวล” (9)
ทุกคนต่างแย่งชิงกันเข้าไปขออนุญาตท่านอิมาม (อ.) เพื่อออกสนามศึก บรรดาสหายผู้ช่วยเหลือคนอื่นๆ ของท่านก็ไม่ยอม ตราบที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่พวกเขาจะขอปกป้องฮะรัม (ครอบครัว) ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ก่อน
ตัวอย่างของการรีบรุดสู่ความดีในหมู่ผู้ช่วยเหลือท่านอิมามฮุเซน (อ.)
วะฮับ บินอับดุลลอฮ์ กัลบี : หรือที่รู้จักกันในนาม "วะฮับ นัศรอนี" หนึ่งในผู้ช่วยเหลือของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ซึ่งตามการบันทึกของนักประวัติศาสตร์บางคน ตัวเขา มารดาของเขาและภรรยาของเขาเป็นชาวคริสต์ (นัศรอนี) แต่ในเส้นทางกัรบาลาในตำบลซะอ์ละบะฮ์ บุคคลทั้งสามได้เข้ารับอิสลามโดยการเชิญชวนของท่านอิมามฮุเซน (อ.)
ในวันอาชูรอ วะฮับ นัศรอนี มีอายุเพียง 25 ปี และเพิ่งผ่านการแต่งงานมาเพียง 17 วัน เขาได้ออกสู่สนามรบเป็นคนแรกๆ หลังจากการต่อสู้อย่างเต็มที่และสังหารศัตรูจำนวนหนึ่งลงได้ เขาได้กลับเขาไปยังกระโจมที่พัก ไปหามารดาและภรรยาของตน ซึ่งร่วมอยู่ในกัรบาลาด้วย เขากล่าวกับมารดาของตนว่า : "ท่านพอใจจาก (การกระทำของ) ฉันแล้วใช่ไหม?"
มารดากล่าวว่า : "ฉันจะยังไม่พอใจจากเจ้า จนกว่าเจ้าจะถูกสังหารลงต่อเบื้องหน้าของท่านอิมามฮุเซน (อ.) "
ภรรยาของเขาได้กล่าวขึ้นว่า : "ขอสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า! ท่านอย่าได้ทำให้ทำให้ฉันต้องจำพรากจากท่านเลย เพราะหัวใจของฉันไม่อาจจะอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวดได้"
มารดาของเขากล่าวว่า : "ลูกรักของแม่ อย่าได้ฟังคำขอร้องของภรรยาเจ้าเลย จงกลับออกไปต่อสู้เคียงข้างบุตรชายของบุตรีของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) เถิด เพื่อเจ้าจะได้รับชะฟาอัต (การอนุเคราะห์ ช่วยเหลือ) จากตาของท่านในวันกิยามะฮ์"
เขาได้กลับออกไปสู่สนามรบและทำการต่อสู้ต่อไป ในช่วงที่แขนทั้งสองข้างของเขาถูกฟันจนขาดนั้น ภรรยาของเขาได้ขว้าเสากระโจมเต้นท์และวิ่งออกไปหาเขา และกล่าวว่า : "ขอพลีพ่อและแม่ของฉันเพื่อท่าน! ท่านจงต่อสู้ในทางของผู้บริสุทธิ์แห่งฮะรัม (ครอบครัว) ของท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) เถิด"
วะฮับ ขอให้ภรรยาของตนเองกลับเข้าไปยังกระโจมที่พัก แต่นางได้กล่าวว่า : "ฉันจะไม่เข้าไปอย่างเด็ดขาด นอกจากฉันจะถูกสังหารลงพร้อมกับท่าน"
ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้กล่าวว่า :
جُزیُتْم مِنْ أَهْلِ بیتٍ خیراً إرْجعی إلی النساء یرحمك اللّه
"ขอให้พวกเจ้าจงได้รับการตอบแทนความดีงามจากอะฮ์ลุลบัยติ์ด้วยเถิด เธอจงกลับเข้าไปยังกลุ่มบรรดาสตรีเถิด ของอัลลอฮ์ทรงเมตตาเธอ"
ภรรยาของวะฮับจึงกลับเข้าไป แต่วะฮับยังคงอยู่ในสนามรบจนกระทั่งเขาเป็นชะฮีดลง (10)
ในรายงานจากอบูมักนัฟ เขาสามารถสังหารศัตรูได้ 50 คน และบางรายงานกล่าวว่าถึง 100 คน (11)
ฮุร บินยะซีด อัรริยาฮี : ผู้บัญชาการทหารของกูฟะฮ์ที่ก่อนเหตุการณ์อาชูรอ เขาได้รับมอบหมายภารกิจพร้อมกับกองทัพจำนวน 1,000 คน ให้ออกไปสกัดกั้นกองคาราวานของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ไม่ให้เดินทางเข้าสู่เมืองกูฟะฮ์ ขณะเดียวกันก็สกัดกั้นไม่ให้เดินทางกลับ ในวันอาชูรอหลังจากที่ฮุร บินยะซีด อัรริยาฮี ได้เห็นแล้วว่า กองทัพของชาวกูฟะฮ์ยืนที่จะสังหารท่านอิมามฮุเซน (อ.) เขาจึงตัดสินใจแปรพรรคเข้าสมทบกับกองทัพของท่านอิมามฮุเซน (อ.) เขามองเห็นตัวเองอยู่ระหว่างนรกและสวรรค์ เข้าได้ตัดสินใจเลือกเส้นทางสู่สวรรค์ ด้วยการเป็นชะฮีดในทางของท่านอิมามฮุเซน (อ.)
ในขณะที่สงครามกำลังจะเริ่มต้นขึ้นนั้น ฮุรไม่ลังเลอีกต่อไปที่จะรีบรุดเข้าสมทบกับกองทัพของท่านอิมาม (อ.) เขาได้กล่าวขึ้นว่า :
إنّي والله أخيّر نفسي بين الجنّة والنار، ووالله لا أختار على الجنّة شيئاً، ولو قطّعت وحرّقت
“แท้จริงขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า ฉันเห็นตัวเองกำลังเลือกระหว่างสวรรค์และนรก และขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า ฉันจะไม่เลือกสิ่งใดเหนือสวรรค์อย่างแน่นอน แม้ว่าฉันจะถูกสับเป็นชิ้นๆ และถูกเผาทั้งเป็นก็ตาม”
จากนั้นเขาได้ควบหม้าของเขาเข้าสมทบกับท่านอิมามฮุเซน (อ.) (12)
ในบางรายงานได้กล่าวว่า เขาได้ขึ้นขี่ม้าและนำพาตัวเองไปยังท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในสภาพที่วางมือไว้บนศีรษะ ร่ำไห้และกล่าวว่า :
اللهُمَّ إليك أُنيبُ، فتُبْ عليَّ، فقد أرعبْتُ قلوبَ أوليائكَ وأولادِ بنتِ نبيِّك
“โอ้อัลลอฮ์! ข้าพระองค์ขอสารภาพผิดต่อพระองค์ ดังนั้นได้โปรดรับการสารภาพผิดของข้าพระองค์ด้วยเถิด เพราะแท้จริงข้าพระองค์ได้ทำให้หัวใจของบรรดาเอาลิยาอ์ (ผู้เป็นที่รัก) ของพระองค์ และลูกๆ ของบุตรีของศาสดาของพระองค์หวาดกลัว” (13)
เขาได้มาหยุดอยู่เบื้องหน้าท่านอิมามฮุเซน (อ.) และประกาศการเตาบะฮ์ (สารภาพผิด) ของตน โดยกล่าวว่า :
إنّي قد جئتك تائباً ممّا كان منّي إلى ربّي، ومواسياً لك بنفسي حتّى أموت بين يديك، أفترى ذلك لي توبة؟
"แท้จริงข้าพเจ้ามายังท่านในสภาพของผู้สารภาพผิดต่อพระผู้อภิบาลของข้าพเจ้าในสิ่งที่ได้เกิดขึ้นจากตัวข้าพเจ้า และมอบชีวิตของข้าเจ้าให้แก่ท่าน จนกว่าข้าพเจ้าจะตายลงเบื้องหน้าท่าน ท่านเห็นว่าสิ่งนี้จะทำให้ข้าพเจ้าได้รับการเตาบะฮ์ (สารภาพผิด) หรือไม่?"
ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้กล่าวว่า :
نعم، يتوب الله عليك، ويغفر لك
"ใช่แล้ว! อัลลอฮ์จะทรงรับการสารภาพผิดของเจ้า และจะอภัยโทษให้แก่เจ้า" (14)
ก่อนที่จะเริ่มทำการรบพุ่งนั้น เขาได้ทำการตักเตือน (นะซีฮัต) ประชาชน แต่แทนที่พวกเขาจะยอมรับคำตักเตือนต่างๆ ของฮุร พวกเขากลับยิงห่าธนูเข้าใส่เขา และไม่มีใครกล้าที่จะออกมาเผชิญหน้ากับเขา จนกระทั่งพวกเขาได้ฟันขาม้าของเขา และจากนั้นด้วยกับการรุมหมู่เข้าโจมตีทำให้พวกเขาสามารถสังหารฮุร จนเป็นชะฮีดได้ (15)
ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้กล่าวกับฮุร ก่อนจะสิ้นใจว่า :
أنت حرّ كما سمّيت في الدنيا والآخرة
“เจ้าคือเสรีชน (ฮุร) ทั้งในโลกนี้และในปรโลก สมดั่งที่แม่ของเจ้าได้ตั่งชื่อเจ้า” (16)
แหล่งที่มา
1)- อัลกุรอานบทอัลมาอิดะฮ์ โองการที่ 48
2)- อัลกุรอานบทอาลิอิมรอน โองการที่ 133
3)- บิฮารุ้ลอันวาร , เล่มที่ 81 , หน้าที่ 173
4)- นะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์ , จดหมายฉบับที่ 31
5)- อัลมุฟรอดาต , รอฆิบ อัลอิศฟะฮานี , หน้าที่ 323
6)- ซะฟีนะตุ้ลบิฮาร , เล่มที่ 1 , หน้าที่ 129
7)- บิฮารุ้ลอันวาร , เล่มที่ 71 , หน้าที่ 340
8)- บิฮารุ้ลอันวาร , เล่มที่ 75 , หน้าที่ 121; อัลอิรชาด , เชคมุฟีด , เล่มที่ 2 , หน้าที่ 99
9)- อัลกุรอานบทอัลมาอิดะฮ์ โองการที่ 48
10)- อัลลุฮูฟ , ซัยยิดอิบนิฏอวูซ , เล่มที่ 1, หน้าที่ 63 ; มะซีรุ้ลอะห์ซาน , อิบนุนะมา ฮิลลี , เล่มที่ 1 , หน้าที่ 46 ; มักตัล อัลฮุเซน (อ.) , คอรัซมี , เล่มที่ 2 , หน้าที่ 15-16 ; อัลฟุตห์ , อิบนุอะอ์ซัม , เล่มที่ 5 , หน้าที่ 104
11)- อะชะร่อตุ้ลกามิละฮ์ , วะก๊อร ชีราซี , เล่มที่ 1 , หน้าที่ 369
12)- ตารีค อัฏฏ็อบรี , เล่มที่ 4 , หน้าที่ 325
13)- มักตะลุลฮุเซน , มุก็อรร็อม , หน้าที่ 246
14)- อัลกามิล ฟิตตารีค , อิบนิอะซีร , เล่มที่ 4 , หน้าที่ 47 ; อัลลุฮูฟ , หน้าที่ 43
15)- อัลกามิล ฟิตตารีค , อิบนิอะซีร , เล่มที่ 4 , หน้าที่ 47 ; อัลลุฮูฟ , หน้าที่ 43
16)- อัลอามาลี , เชคซุดูก , หน้าที่ 223
แปลและเรียบเรียงโดย : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม
In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم
Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم
ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You
WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center